ทำไมคนไทยในสมัยก่อนไม่ค่อยนิยมใส่รองเท้ากันเลย
1. เพราะภูมิอากาศบ้านเรามันร้อน
อย่างแรกเลย ต้องเข้าใจก่อนว่าประเทศไทยอยู่ในเขตร้อนชื้น ใส่รองเท้าหุ้มเท้ามากไปเท้าอาจจะอบจนเป็นเชื้อราเอาได้ ยิ่งเมื่อก่อนยังไม่มีรองเท้าพื้นยางดีๆ แบบสมัยนี้ การใส่รองเท้ากลายเป็นความอึดอัดเสียมากกว่า
ใส่เท้าเปล่า เดินลุยดิน ลุยน้ำ มันโล่งสบาย และคล่องตัวที่สุดแล้วค่ะ
2. สมัยก่อน “ความเป็นไทย” คือการถอดรองเท้า
ต้องเข้าใจว่าในวัฒนธรรมไทยแต่โบราณ การถอดรองเท้าเป็นการแสดง “ความเคารพ” ไม่ว่าจะขึ้นบ้าน ขึ้นวัด หรือเดินเข้าหาเจ้านาย ผู้ใหญ่
ฉะนั้น... เมื่อความเคยชินคือ “การถอด” คนเลยเลือก “ไม่ใส่ไปเลยดีกว่า” จะได้ไม่ต้องวุ่นวายถอดเข้าออก
3. วิถีชีวิตเรียบง่าย
ทุกคนลองนึกภาพชีวิตของคนในชุมชนเมื่อ 100 ปีก่อนดูนะคะ
ไม่มีถนนคอนกรีต ไม่มีฟุตบาท ไม่มีรองเท้าแตะราคา 39 บาทจากตลาดนัด มีแต่พื้นดิน หญ้า โคลน และท้องนา
รองเท้าในสมัยนั้นยังถือเป็น “ของหรู” สำหรับบางครัวเรือนเลยนะ
แต่จะใส่เฉพาะเวลาจะไปงานบุญ งานศพ หรือต้องเข้าเมือง ถึงจะหิ้วออกมาใส่กัน
4. ไม่มีอุตสาหกรรมรองเท้าเหมือนทุกวันนี้
อย่าลืมว่าสมัยก่อนยังไม่มีแบรนด์ดังๆ ไม่มีห้าง ไม่มีอาลีบาบา
รองเท้าในยุคก่อนจึงต้อง “ทำเอง” เช่น ตัดจากยางเกวียน ฟาง หรือตอกไม้ไผ่เป็นเกี๊ยะ ถ้าใครจะหาซื้อจากร้านฝรั่งก็ต้องมีเงินพอตัว
เพราะฉะนั้น หลายบ้านเลยเลี่ยงการซื้อรองเท้า เพราะเก็บเงินไว้ซื้อของจำเป็นมากกว่า
5. เท้าเปล่าก็ฝึกความอดทนและกลมกลืนกับธรรมชาติ
เรื่องนี้อาจจะฟังดูแปลกในสายตาคนรุ่นใหม่ แต่คนโบราณเชื่อว่า “การเดินเท้าเปล่าคือการเชื่อมต่อกับผืนแผ่นดิน”
มันฝึกให้เราทน ลุย และเรียนรู้สภาพแวดล้อมรอบตัว
เด็กสมัยก่อนวิ่งเล่นในทุ่ง วิ่งบนถนนดิน แค่มีตาปลาบ้าง เท้าแข็งบ้าง ก็ถือว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
6. ชุดไทยกับเท้าเปล่า
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะ ภาพของสาวไทยนุ่งโจงกระเบน เดินยิ้มหวานเท้าเปล่า หิ้วปิ่นโตไปวัด มันกลายเป็น “ภาพจำ” ที่ทั้งคนไทยและต่างชาติรู้จัก
แม้กระทั่งในงานแสดงวัฒนธรรม หรือละครย้อนยุค ดิฉันก็ยังเห็นคนใส่ชุดไทยเท้าเปล่าอยู่เลย เพราะมันคือกลิ่นอายของความเป็นไทยจริงๆ
มีใครเคยเดินตีนเปล่าไปข้างนอกบ้างคะมาเล่าให้ดิฉันฟังได้นะคะ😊😉
เขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคต
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกราย
อื้อหือ อย่างโหด กรงเล็บของ "มังกรโคโมโด" ตะกวดยักษ์แห่งอินโดนีเซีย
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
เขมรยอมแล้ว ระดมเครื่องจักรรื้อเขื่อนล้ำทะเลไทย หลังนาวิกฯ ยื่นคำขาดตัดเสบียงเกาะกง
เจาะลึกลำดับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมซาวน่าญี่ปุ่น เมื่อพื้นที่ส่วนตัวกลายเป็นกับดักมรณะ
อย่าเป็น "วัวลืมตีน" !! "ณวัฒน์" รับ เตีอน "ชาล็อต" เพราะระอาพฤติกรรมลืมตัว
จักรวาลร่วมฉลองส่งท้ายปี! NASA อวดโฉม "ต้นคริสต์มาสยักษ์" แห่งห้วงอวกาศลึก 2,500 ปีแสง
"สาละ" ดอกไม้ในตำนานเกี่ยวกับพุทธประวัติของพระมหาศาสดาของศาสนาพุทธ (สาละในหลวงพระบาง)
กินตามใจปาก เสี่ยงสารพัดโรค
ลุกขึ้นไได้...ก็ชนะ
ศุลกากรจับมือ 5 แพลตฟอร์มยักษ์ ดีเดย์ 1 ม.ค. 69 เก็บภาษีสินค้านำเข้าออนไลน์ตั้งแต่บาทแรก
อาชีพออนไลน์แปลกๆ ที่คนไม่ค่อยรู้ แต่ทำเงินได้จริง
เจาะลึกลำดับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมซาวน่าญี่ปุ่น เมื่อพื้นที่ส่วนตัวกลายเป็นกับดักมรณะ
"สาละ" ดอกไม้ในตำนานเกี่ยวกับพุทธประวัติของพระมหาศาสดาของศาสนาพุทธ (สาละในหลวงพระบาง)
อย่าเป็น "วัวลืมตีน" !! "ณวัฒน์" รับ เตีอน "ชาล็อต" เพราะระอาพฤติกรรมลืมตัว
โฆษก "ฮุนเซน" โม้หนัก!! เคยผ่านการรบมาแล้วนับ 100 ครั้ง!!
ลุกขึ้นไได้...ก็ชนะ
"สังขละบุรี" เส้นทางเดินลงสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับที่สามของโลก สวยงามแข็งแรงอากาศหนาวไอหมอกสวยในยามเช้ามืด
"สาละ" ดอกไม้ในตำนานเกี่ยวกับพุทธประวัติของพระมหาศาสดาของศาสนาพุทธ (สาละในหลวงพระบาง)
เราอยู่ได้เพราะว่ามีเธอ ไม่ว่าจะไปไหนก็อยู่ได้ ฉายาลูกชิ้นกินได้ตลอด (ในพนมเปญ)
ท่องตลาดราตรี วันอังคารและวันพฤหัสบดี สีสันยามเย็นของอาหารและแฟชั่นจากไทย (พนมเปญ)