หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

“ควายเทียมเกวียน” สู่ตลาด: ย้อนรอยการขนส่งสินค้าและพืชผลทางการเกษตรที่โคราชในปี พ.ศ. ๒๔๖๕

เนื้อหาโดย แบกเป้

ในยุคที่ยังไม่มีถนนลาดยางหรือยานยนต์วิ่งผ่านทุกหมู่บ้าน “ควายเทียมเกวียน” คือภาพที่คุ้นตาของผู้คนในพื้นที่โคราช ราวปี พ.ศ. ๒๔๖๕ หรือเมื่อกว่า ๑๐๐ ปีก่อน นั่นคือช่วงเวลาที่การขนส่งสินค้าและพืชผลทางการเกษตรยังพึ่งพาวิถีชีวิตดั้งเดิม ที่เรียบง่ายและกลมกลืนกับธรรมชาติ

 

เกวียนไม้ล้อใหญ่เทียมด้วยควายคู่หรือเดี่ยว กลายเป็นหัวใจสำคัญของการลำเลียงข้าวสาร มันสำปะหลัง ฝ้าย รวมไปถึงของป่าจำพวกยางนา เร่ว หรือหวาย จากหมู่บ้านเล็ก ๆ ไปยังตลาดประจำอำเภอหรือสถานีรถไฟ เพื่อส่งต่อไปยังเมืองใหญ่ ทั้งกรุงเทพฯ และต่างประเทศ

 

เส้นทางคดเคี้ยวในท้องทุ่งและป่าโปร่งนั้นไม่ได้ง่ายดายนัก เกวียนต้องใช้เวลาเดินทางหลายวัน บางครั้งต้องตั้งแคมป์ค้างแรมริมลำห้วย ท่ามกลางแสงดาวและเสียงแมลงพื้นถิ่น เสบียง อาหารแห้ง และน้ำสะอาดถูกจัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี ส่วนควายผู้ทำหน้าที่ลากเกวียนก็ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะมันไม่ใช่แค่สัตว์ใช้งาน แต่คือ “เพื่อนร่วมทาง” ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจและจิตใจของชาวบ้าน

 

ในเวลานั้น การมีเกวียนสักคันและควายสักตัว ถือเป็นความมั่งคั่งอย่างหนึ่งของครอบครัว เพราะนอกจากใช้ขนส่งสินค้าแล้ว ยังใช้พาเดินทางไปเยี่ยมญาติ หรือแม้กระทั่งร่วมงานบุญประเพณีต่าง ๆ ได้ด้วย

 

การขนส่งด้วยเกวียนในสมัยนั้นจึงไม่ได้มีแค่ความหมายทางเศรษฐกิจ แต่สะท้อนถึงวิถีชีวิต ความสัมพันธ์ของคนกับธรรมชาติ และวัฒนธรรมการพึ่งพาอาศัยกันในสังคมชนบทโคราชเมื่อร้อยปีก่อนอย่างงดงามและลึกซึ้ง

 

วันนี้แม้ควายเทียมเกวียนจะกลายเป็นเพียงภาพในอดีต แต่ความทรงจำเหล่านั้นยังคงถูกเล่าขานผ่านคนเฒ่าคนแก่ ผ่านภาพถ่ายเก่า และผ่านนิทรรศการต่าง ๆ ที่ช่วยรื้อฟื้นภูมิปัญญาและวิถีแห่งความเรียบง่ายในอดีตให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และชื่นชม.

เนื้อหาโดย: แบกเป้
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
แบกเป้'s profile


โพสท์โดย: แบกเป้
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิตทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจายปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉยเขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์เซียนหวยคึกคัก ม้าสีหมอกปล่อยแนวทางเลขเด็ด งวด 2 มกราคม 2568แบบนี้ก็มีด้วย!หนุ่มวัย 23 ปี พกยาบ้า บุกโรงพักให้ ตร.จับ อ้างผมอยากเลิก ไม่อยากบ้าจะว่าไปแล้ว "น้ำผึ้ง" นั้นคือ อุจจาระของผึ้งหรือไม่ ?สิบเลขขายดีแม่จำเนียร งวด 2/1/69"Eดอกทอง": จากดอกไม้ล้ำค่าสู่คำด่าที่เจ็บแสบที่สุด
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เจ็บ 5 ราย หลังเกิดเหตุกราดยิง ในกรุงวอชิงตันกองทัพภาคที่ 2 ประกาศเตือนภัยชายแดน สั่งห้ามแตะต้องหรือครอบครองยุทธภัณฑ์ตกค้างเพื่อความปลอดภัยแบบนี้ก็มีด้วย!หนุ่มวัย 23 ปี พกยาบ้า บุกโรงพักให้ ตร.จับ อ้างผมอยากเลิก ไม่อยากบ้าโศกนาฏกรรมแม่ทัพ"หยวนฉงฮ่วน"ผู้ถูกกิน: เมื่อวีรบุรุษผู้ปกป้องแผ่นดิน ถูกชาวบ้าน "แล่เนื้อ" แกล้มเหล้าเพราะคำลวงเซียนหวยคึกคัก ม้าสีหมอกปล่อยแนวทางเลขเด็ด งวด 2 มกราคม 2568
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ผักที่ปลอดภัยที่สุด 10 ชนิดที่แทบไม่ต้องกังวลเรื่องยาฆ่าแมลง“แอ่งดานาคิล” ราวกับอยู่บนต่างดาว สถานที่สุดโหดร้ายแห่งหนึ่งของโลกภาพของเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงหรือทีมทำความสะอาด ที่กำลังปฏิบัติงานบริเวณ "ดวงตา" ขององค์พระพุทธรูปอุชิคุ ไดบุตสึเผยโฉม "Dracula’s Chivito": จานก่อกำเนิดดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาลเท่าที่เคยพบ
ตั้งกระทู้ใหม่