ผู้หญิงเก็บความลับได้ไม่เกิน 2 วัน เหตุผลที่ทำให้ความลับไม่เป็นความลับอีกต่อไป
วิจัยเผย ผู้หญิงมักเก็บความลับไม่อยู่
นักวิจัยจากประเทศอังกฤษ ได้ทำการเก็บข้อมูล จากอาสาสมัครผู้หญิง 3,000 คน ที่มีช่วงอายุระหว่าง 18-65 ปี โดยให้ตอบคำถามแบบสอบถามต่าง ๆ และนำผลไปวิเคราะห์ สรุปผลออกมาได้ว่า
ร้อยละ 40 ของผู้หญิง ยอมรับว่า ไม่สามารถเก็บความลับไว้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว หรือข้อมูลลับสุดยอดแค่ไหนก็ตาม ยิ่งแอลกอฮอล์เข้าปากแล้ว ยิ่งทำให้ผู้หญิงเผยความลับออกไปได้ง่ายขึ้นไปอีก
ผู้หญิงกว่าร้อยละ 50 ยอมรับว่า ดื่มไวน์เพียง 1 หรือ 2 แก้ว ความลับที่ว่าซีเคร็ทแค่ไหนพวกเธอก็สามารถคายความลับออกมาได้ไม่มีเหลือแบบหมดเปลือกเลยทีเดียว และกลุ่มคนที่จะได้รู้ความลับจากปากพวกเธอเป็นคนแรก ๆ คือ แฟน เพื่อนสนิท และแม่
แต่ไม่ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนจะเก็บความลับไม่อยู่กันหมดนะ เพราะสาว ๆ ที่เหลือสามารถเก็บความลับได้ พวกเธอคิดว่าตัวเองมีความน่าเชื่อถือและไว้ใจได้ในกลุ่มเพื่อน
ผู้หญิงประมาณ 25 % ที่ความจำสั้น คือ พอได้ฟังความลับแค่วันเดียว หลังจากที่เธอได้เล่าไปแล้ว พอเล่าจบก็จะลืมสนิท ไม่ได้จำฝังใจหรือเก็บเอาไปคิดต่ออะไรมากมาย และรอฟังความลับจากปากคนอื่นต่อไป
ช่องทางการเผยความลับ เหล่าบรรดาผู้หญิงทั้งหลาย สามารถเมาท์ได้หมดทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะทางแชท การโทรคุย หรือแม้แต่การเล่ากันแบบต่อหน้า
เหตุผลที่ทำให้ความลับไม่เป็นความลับอีกต่อไป
- มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม ธรรมชาติของใครหลายคน คือ การพูดคุย เราพูดคุยกันถึงเรื่องของตัวเอง แลกเปลี่ยนความคิด แลกเปลี่ยนความกังวล และวิธีการแก้ปัญหาที่แต่ละคนพบเจอ บางคนก็เมาท์ออกรสชาติเกินไป ถึงขนาดพูดถึงเรื่องของคนอื่นด้วย เราชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นอย่างไม่รู้ตัว หลายครั้งทำไปเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น เพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่าไม่ได้เผชิญกับปัญหานี้เพียงคนเดียว ก่อนจะไปจบลงที่การพูดถึงใครสักคนเพื่อส่งเสริมความมั่นใจลึก ๆ ให้ตัวเอง
- การมีความลับสัมพันธ์กับความเครียด ในทางวิทยาศาสตร์บอกว่า เหมือนเราต้องแบกรับภาระบางอย่างจริง ๆ พอเราบอกเล่าความลับออกไปให้อีกฝ่ายฟัง ก็เหมือนการส่งต่อความเครียดไปให้อีกฝ่ายช่วยแบกรับ เมื่อการต้องเก็บความลับ ไม่ต่างอะไรกับการต้องแบกรับภาระที่ส่งผลต่อสุขภาพใจและชีวิตความเป็นอยู่ จึงต้องหาทางระบายความเครียดเหล่านี้ คือ เล่าออกไปให้ใครอีกสักคนฟัง อย่างน้อยมีคนรับฟัง มีคนรู้สึกและเข้าใจเหมือนกัน สามารถหาทางออก รวมถึงวิธีรับมือกับเรื่องที่ต้องปกปิดเหล่านั้นได้
- การเก็บความลับของผู้อื่นไว้กับตัวเองเป็นความรู้สึกผิด อาซิม ซาห์ (Asim Shah) ศาสตราจารย์และรองประธานบริหารของ Menninger Department of Psychiatry and Behavioral Sciences จากเบอร์ลิน อธิบายว่า ที่คนบางคนไม่สามารถเก็บความลับของผู้อื่นไว้กับตัวเองได้อาจเป็นเพราะความรู้สึกผิด ถ้าเราไม่แบ่งปันเรื่องราวกับเพื่อน คนรัก หรือแชร์สิ่งที่พบเจอกับคนในครอบครัว ก็กลัวตัวเองกำลังจะสูญเสียความไว้วางใจจากใครบางคนไป
เหตุนี้ทำให้บางคนยอมเปิดเผยความลับที่มีให้แก่ใครบางรู้ เพื่อซื้อความไว้เนื้อเชื่อใจ รวมถึงมิตรภาพด้วย แต่จริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่ความคิดที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ เพราะ เราสามารถมีมิตรภาพที่ดี หรือการสร้างความสัมพันธ์อันใกล้ชิดด้วยวิธีอื่นอีกมากมาย





















