หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

Solo Leveling ซีซั่น 2 สะดุด! ตอนใหม่ได้รับคะแนนวิจารณ์ที่เป็นประเด็นถกเถียง

แปลโดย นักรีวิวอนิเมะ

Solo Leveling ซีซั่น 2 ยังคงเป็นการเดินทางที่น่าตื่นเต้นของจินอู แต่ตอนล่าสุดกลับได้รับกระแสวิจารณ์ที่คาดไม่ถึง!

 

ตอนที่ 9 ซึ่งเน้นไปที่การพบกันอีกครั้งอย่างซาบซึ้งระหว่างจินอูกับแม่ของเขา กลายเป็นตอนแรกของซีซั่นที่มียอดกดไม่ชอบ (dislike) เกิน 1,000 ครั้งบน Crunchyroll แม้ว่าจะมีแฟนๆ บางส่วนที่ซาบซึ้งกับช่วงเวลานี้ แต่ก็มีอีกหลายคนที่รู้สึกว่ามันทำให้จังหวะของเรื่องสะดุด

 

ความคิดเห็นที่แตกแยกนี้สะท้อนให้เห็นถึงประเด็นถกเถียงที่เกิดขึ้นบ่อยในวงการอนิเมะว่า "พัฒนาการของตัวละครมีความสำคัญพอๆ กับฉากแอ็กชันสุดมันส์หรือไม่? หรือมันกลับเป็นสิ่งที่ฉุดจังหวะของเรื่องให้ช้าลง?"

ตามรายงานจาก @animenewscentre บน X (Twitter) การตอบรับของตอนนี้ได้จุดประกายการถกเถียงเกี่ยวกับความคาดหวังของผู้ชมที่มีต่อ Solo Leveling

 

แม้ว่าซีรีส์แนวโชเน็นหลายเรื่องจะโดดเด่นด้วยฉากต่อสู้สุดมันส์และการดำเนินเรื่องที่รวดเร็ว แต่ Solo Leveling มักจะรักษาสมดุลระหว่างแอ็กชันกับช่วงเวลาที่มีมิติทางอารมณ์ อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาต่อตอนที่ 9 แสดงให้เห็นว่าผู้ชมบางกลุ่มให้ความสำคัญกับฉากแอ็กชันมากกว่าความลึกซึ้งทางอารมณ์

 

ประเด็นนี้นำไปสู่ข้อถกเถียงเกี่ยวกับการมอง "ตอนเสริม" (filler) ในอนิเมะ และตั้งคำถามว่าผู้ชมบางส่วนอาจตัดสินตอนที่เน้นการพัฒนาตัวละครเร็วเกินไปหรือไม่

 

ความขัดแย้งระหว่างแอ็กชันกับเนื้อเรื่อง

 

Solo Leveling ซีซั่น 2 ตอนที่ 9 ดำเนินเรื่องไปข้างหน้าโดยแทบไม่มีฉากแอ็กชัน

กระแสตอบรับเชิงลบของตอนที่ 9 บ่งบอกว่าผู้ชมส่วนใหญ่คาดหวังฉากแอ็กชันเป็นหลัก

 

Solo Leveling สร้างชื่อเสียงจากฉากต่อสู้สุดมันส์ อนิเมชั่นตระการตา และการเติบโตที่ไร้ขีดจำกัดของจินอู เมื่อตอนใดตอนหนึ่งออกนอกกรอบนี้ แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายต่อพัฒนาการของตัวละคร ก็อาจทำให้ผู้ชมบางกลุ่มรู้สึกผิดหวัง

 

การที่ตอนนี้มียอดกดไม่ชอบ (dislike) เกิน 1,000 ครั้งบน Crunchyroll สะท้อนถึงแนวโน้มโดยรวมที่ว่า อนิเมะแนวแอ็กชันมักเผชิญกับปัญหาในการชะลอจังหวะของเรื่องโดยไม่ทำให้แฟนๆ หงุดหงิด

แต่สิ่งที่แฟนบางส่วนมองข้ามไปคือ "การเล่าเรื่อง" คือสิ่งที่ทำให้ซีรีส์มีพลังและความหมายในระยะยาว

 

หากขาดความลึกซึ้งทางอารมณ์และการเติบโตของตัวละคร ฉากแอ็กชันที่ดุเดือดก็อาจไร้ความหมายไปโดยปริยาย การพบกันอีกครั้งของจินอูกับแม่เป็นช่วงเวลาสำคัญที่เผยให้เห็นแรงผลักดันและการเสียสละส่วนตัวของเขา แม้ว่าตอนนี้จะไม่มีฉากต่อสู้สุดมันส์ แต่ก็ช่วยเสริมมิติทางอารมณ์ให้กับการเดินทางของจินอู

 

กระแสวิจารณ์สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายของอนิเมะดัดแปลง ว่าจะสามารถสร้างสมดุลระหว่างฉากแอ็กชันกับช่วงเวลาที่เน้นตัวละครได้อย่างไร โดยไม่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเบื่อหรือหลุดจากเนื้อเรื่อง

ถกเถียงไม่จบ! "ตอนเสริม" ในอนิเมะ—จำเป็นหรือส่วนเกิน?

 

"ตอนเสริม" (filler) เป็นหัวข้อที่ถูกถกเถียงกันมาอย่างยาวนานในวงการอนิเมะ บางคนมองว่ามันเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมพัฒนาการของตัวละครและสร้างความลึกซึ้งให้กับเรื่องราว ขณะที่แฟนบางกลุ่มกลับมองว่ามันเป็นอุปสรรคที่ทำให้การดำเนินเรื่องช้าลงและลดทอนความเข้มข้นของเนื้อหาหลัก

 

ดังนั้น คำถามสำคัญคือ "ตอนเสริมในอนิเมะมีความจำเป็นจริงหรือเป็นเพียงส่วนเกินที่ผู้ชมไม่ต้องการ?"

 

คำว่า "ตอนเสริม" (filler) ในอนิเมะมักถูกใช้ในเชิงลบ แต่ไม่ใช่ว่าทุกตอนที่ไม่มีฉากแอ็กชันจะไร้ความสำคัญ แฟนบางส่วนมองว่าตอนที่ 9 เป็นตอนเสริม ทั้งที่จริงแล้วมันมีบทบาทสำคัญต่อเรื่องราว

 

"ตอนพักเบรก" ที่ถูกสร้างมาอย่างดี สามารถช่วยขยายโลก (world-building) และพัฒนาตัวละคร ทำให้ฉากแอ็กชันในอนาคตมีความหมายมากขึ้น ใน Solo Leveling ความสัมพันธ์ระหว่างจินอูกับแม่เป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เขาเติบโตและแข็งแกร่งขึ้น การละเลยช่วงเวลาเหล่านี้เพื่อเร่งไปยังฉากต่อสู้เพียงอย่างเดียว อาจทำให้พลังของเรื่องราวโดยรวมลดล

อย่างไรก็ตาม ความหงุดหงิดของผู้ชมบางส่วนก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะในซีรีส์ที่มีจังหวะดำเนินเรื่องรวดเร็วอย่าง Solo Leveling "โมเมนตัม" เป็นสิ่งสำคัญ และการหยุดพักจากฉากต่อสู้นานเกินไปอาจทำให้บางคนรู้สึกเหมือนถูกดึงออกจากเรื่อง

 

แต่การมองข้ามทุกช่วงเวลาที่ดำเนินเรื่องช้าแล้วเหมารวมว่าเป็น "ตอนเสริม" (filler) อาจทำให้เรา มองข้ามความสำคัญของการเล่าเรื่อง แม้ว่าตอนที่ 9 อาจไม่เป็นไปตามความคาดหวังของแฟนๆ ที่ชอบฉากแอ็กชัน แต่มันก็มีบทบาทสำคัญในการขยายมิติของตัวละครจินอู

 

สุดท้ายแล้ว ประเด็นนี้สะท้อนถึงความท้าทายของการสร้างอนิเมะที่ต้องตอบสนองผู้ชมหลากหลายกลุ่ม บางคนต้องการฉากต่อสู้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่บางคนให้ความสำคัญกับความลึกซึ้งทางอารมณ์

 

ที่มา: @animenewscentre/X

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: นักรีวิวอนิเมะ
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
แฉเรือทุนไทยขายน้ำมันให้เขมร อดีต สว ประกาศ เตือน ทัพเรือสั่ง 'จมเรือ' ได้ทันที เพราะประกาศกฎอัยการศึกประธานสมาคม ตามไปตำหนินักกีฬา ถึงกับร้องไห้โฮ ในซีเกมส์ครั้งที่ 33ประธานกรรมการสิทธิฯ เขมร เย้ยกองทัพไทย ต้องพึ่งเครื่องบินรบ ถ้าไม่มี F-16 ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้เขมร ‎สื่อมาเลย์ แฉยับ ทหารเขมรทิ้งขีปนาวุธให้ไทยยึดฟรี เพราะใช้ไม่เป็น ขายขี้หน้าทั้งประเทศถล่มอุโมงค์ลับ เนิน 350 ทัพฟ้าส่ง F-16 เสิร์ฟไข่ 6 รอบติดคลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติเกิดอุบัติเหตุ สะพานลอยพังถล่ม ทับรถที่ สัญจรอยู่เบื้องล่างย้อนวันวาน “ศูนย์อาหารมาบุญครอง พ.ศ. 2535” ต้นแบบฟู้ดคอร์ทไทย จากคูปองเงินสด สู่ยุคสแกนจ่ายในปลายนิ้ววิเคราะห์หวย AI น่าจะออกรางวัลงวด 16 ธันวาคม 2568ทหารเขมร สาธิต วิธี สอยเครื่องบินรบ F-16 ของพวกเสียมเครื่องปรับอากาศ LG รุ่นพิเศษเมื่อ 20 ปีที่แล้ว โลโก้ทำจากทองคำบริสุทธิ์"จีน" ออกมาปฏิเสธแล้ว! ไม่ได้ส่งอาวุธสมัยใหม่ให้ "กัมพูชา" มารบกับ "ไทย"
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
รัฐเซีย หวังให้ไทย กับ กัมพูชา หยุดยิง พร้อมส่งทูตมาเจรจารวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ ส่วนข้อคิดประจำวันก็คือ ถ้าคนอื่นทำงานได้ดีแล้ว ก็ให้เขาทำต่อไปเด้อครับเด้อ ขอบคุณมากครับ"จีน" ออกมาปฏิเสธแล้ว! ไม่ได้ส่งอาวุธสมัยใหม่ให้ "กัมพูชา" มารบกับ "ไทย"เปิดเหตุผลทำไม"เนิน 350"ใช้ "F-16 - Gripen" ไม่ได้เดินวันละ 3,000 ก้าว ลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ทั่วไป
เดินวันละ 3,000 ก้าว ลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ที่มาของ สต็อกโฮล์ม ซินโดรม Stockholm Syndrome อาการของคนที่เป็นเหยื่อ รู้สึกเห็นอกเห็นใจคนร้าย หลังจากใช้เวลาอยู่ด้วยกันระยะหนึ่ง แม้กระทั่งเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัวสมอง สามารถทำนายอนาคตได้ข้อมูลไม่ใช่ความรู้
ตั้งกระทู้ใหม่