No Buy Month ชาเลนจ์ห้ามฟุ่มเฟือย หักดิบ งดซื้อ งดจ่าย วิธีเก็บเงินด้วยชาเลนจ์ “No Buy Month”
No Buy Month หรือ การไม่ใช้จ่ายเป็นเวลา 1 เดือน เทรนด์ที่เริ่มจุดกระแสในประเทศเกาหลีใต้ตั้งแต่ปี 2022 เป็นช่วงที่เกาหลีใต้ประสบปัญหาสภาวะเศรษฐกิจถดถอยและปัญหาเงินเฟ้อ ทำให้ชาวเกาหลีหันมาตระหนักเรื่องการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น และเกิดเป็น Challenge ส่งต่อกันในโลกออนไลน์
พิษเศรษฐกิจเล่นงาน หลายประเทศทั่วโลกต่างประสบกับปัญหาเงิน ๆ ทอง ๆ เช่นกัน ทำให้ No Buy Month กลายเป็นกระแสในวงกว้าง เพราะคนต้องการเก็บเงินให้มากขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมตั้งรับกับสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่มั่นคง
เคล็ดลับการเก็บเงินด้วยเทคนิค No Buy Month
1.ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน เป้าหมายที่ชัดเจนเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการเก็บเงิน ทำให้รู้ว่าเราเก็บเงินไปเพื่ออะไร อย่างเช่น เก็บเงินเพื่อซื้อบ้านหรือคอนโด หรือเป้าหมายระยะสั้น อย่างการเก็บเงินไปเที่ยวต่างประเทศ ดูคอนเสิร์ตศิลปินที่ชื่นชอบ
เทคนิคระหว่างเก็บเงินเพื่อพิชิตเป้าหมาย คือ การจดรายละเอียดของสิ่งที่จำเป็นจะต้องซื้อ สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงที่จะ ‘ไม่’ ซื้อในเดือนนั้น ๆ อย่างชัดเจน เพื่อลดการเสียเงินไปกับสินค้าที่ไม่จำเป็น
2.สำรวจข้าวของที่ตัวเองมี ก่อนที่จะทำ No Buy Month ลองสำรวจสิ่งของต่าง ๆ ที่มีอยู่ในบ้าน อย่างตู้เสื้อผ้าที่มีเสื้อผ้าอัดแน่นอยู่เต็มตู้ บางทีอาจจะเจอชุดที่ยังไม่เคยใส่ หรือบางชุดที่ไม่ได้ใส่มานาน ลองนำชุดเหล่านั้นมาจับคู่ Mix & Match อาจจะได้ชุดใหม่ที่มีสไตล์ไม่ซํ้าใคร และเป็นการลดการใช้จ่ายไปกับเสื้อผ้าตามเทรนด์แฟชั่นอีกด้วย
เทคนิค อย่าลืมสำรวจห้องครัว ห้องเก็บของ เพราะบางครั้งอาจเผลอซื้อเครื่องปรุง หรือของใช้กักตุนไว้นานจนลืม เพื่อป้องกันการซื้อซํ้า
3.ออกไปใช้ชีวิตในราคา 0 บาท ลองหากิจกรรมเติมเต็มความสุขของตัวเองที่ไม่ต้องเสียเงิน หรือเสียให้น้อยที่สุด อย่างเช่น ไปดูงานศิลปะที่พิพิธภัณฑ์ หรือหอศิลป์ ที่เปิดให้เข้าชมฟรี เข้าครัวทำอาหารกินเอง สนุกกับฟรีคอนเสิร์ต ก็สามารถผ่อนคลายได้แบบไม่เสียสตางค์
4.เลือกของใส่ตะกร้า แต่อย่าเพิ่งจ่ายเงิน หลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ควรบล็อก หรือ ลบแอปพลิเคชันชอปปิงออกจากสมาร์ทโฟนชั่วคราว เพื่อลดการอยากซื้อสิ่งของฟุ่มเฟือย ถ้าทำใจลบไม่ได้ ให้เปลี่ยนเป็นการกดของชิ้นนั้นใส่ตะกร้าไว้ก่อน โดยไม่ต้องกดจ่ายเงิน อย่าไปแพ้ให้กับคำว่า “ของมันต้องมี” “ของลดราคา” รอให้ผ่านไป 2-3 วัน จากนั้นค่อยเข้าไปดูตะกร้านั้นอีกครั้งว่า คุณยังอยากได้สิ่งของชิ้นนั้นจริง ๆ ใช่หรือไม่ หากสมองส่วนเหตุผลสั่งการว่า ใช่ ก็สามารถกดซื้อได้ตามความต้องการ
5.ไม่รูดบัตรเครดิต ไม่มีบัตรหลายใบ ถ้าทำได้ สามารถประหยัดเงินไปได้เยอะ ที่สำคัญไม่ต้องเป็นหนี้ เพราะถึงแม้จะรูดบัตรไปแล้ว แต่สุดท้ายก็คือการเอาเงินในอนาคตมาจ่าย เลิกใช้สโลแกน “ใช้ก่อนค่อยหาใหม่” เปลี่ยนเป็น “เก็บเงินตอนนี้ไว้ใช้ทีหลังดีกว่า”
6.ทำรายรับรายจ่าย ข้อนี้สำคัญมาก เราจะได้รู้ว่าในแต่ละวัน เราใช้จ่ายไปกับค่าอะไรบ้าง เสียเงินไปเท่าไหร่ มากกว่ารายรับที่ได้รึเปล่า จะทำให้เดือนถัดไป เรามีสติในการใช้เงินมากขึ้น และยังสามารถไล่ดูได้ด้วยว่ามีค่าอะไรที่ไม่จำเป็น จะได้ตัดออกไป
7.ให้รางวัลตัวเองเมื่อทำสำเร็จ เมื่อบรรลุเป้าหมายก็ถึงเวลาให้รางวัลต่อความอดทนของตนเอง อย่างเช่น ออกไปกินอาหารร้านโปรดที่ไม่ได้กินมาตลอด 1 เดือน ซื้อเครื่องสำอางชิ้นใหม่สักชิ้น เป็นต้น






















