เทคนิคการเขียนและแต่งนิยายเบื้องต้นสำหรับมือใหม่ บทที่ 4 สร้างตัวละครให้น่าจดจำ
เดินทางมาถึงตอนที่ 4 กันแล้วคราวนี้จะเป็นเรื่องราวที่เชื่อว่าหลายคนน่าจะสนใจแต่น้อยคนนักที่จะใส่ใจกับมัน นั่นคือการสร้างตัวละครให้น่าจดจำและน่าสนใจให้ผู้อ่านชอบ โดยการสร้างตัวละครที่จะพูดถึงนี้ขอเป็นตัวเอกก่อนแล้วกัน ส่วนตัวละครสมทบตัวร้ายตัวประกอบขอไว้คราวหน้า เพราะถ้าเอามาพูดในคราวเดียวเดี๋ยวมันจะเยอะไป ขออธิบายไปทีละจุดแล้วกัน เพราะตัวเอกในนิยายนั้นก็เป็นเหมือนจุดเชิดหน้าชูตาให้คนอ่านจดจำ ซึ่งการสร้างตัวละครส่วนมากนักเขียนจะแต่งตามเนื้อหาในเรื่อง อย่างเช่นเรื่องแนวผีพระเอกจะเป็นคนขี้กลัว หรือเป็นแนวนักเลงก็จะเป็นสายห้าว หรือแนวสืบสวนก็จะเป็นพวกปากเสียไม่ค่อยมีเพื่อน ซึ่งตัวเรื่องจะเป็นตัวกำหนดลักษณะนิสัยตัวละครอยู่แล้ว แต่สิ่งที่คุณต้องทำจริงๆ นั่นคือการใส่ชีวิตให้ตัวละครนั้นๆ ให้มีมิตินั่นคือหัวใจของการสร้างตัวละคร
วิธีที่ง่ายที่สุดที่ผู้เขียนทำในการสร้างตัวละครขึ้นมาก็คือ การเอาลักษณะนิสัยของคนๆ นึงมาใส่ในตัวละครนั้นไปเลย ยกตัวอย่างเราชอบพระเอกเรื่องนี้มากๆ เราก็ยืมนิสัยการพูดท่าทางความคิดจิตใจของเขามาใส่ให้ตัวละครตัวนั้นไปเลย แต่ทางที่ดีอย่าไปเอาตัวละครจากในนิยายหนังละครการ์ตูนเพราะมันจะมีซ้ำๆ ไม่กี่แบบ แต่ถ้าเราเอามาจากคนจริงๆ มันจะมีเยอะและหลากหลายกว่านั้นมาก ยิ่งนักเขียนอย่างเราที่มักจะเป็นคนชอบดูคนนั้นคนนี้ นั่นละคือโอกาสที่เราจะเอานิสัยตรงนี้มาใช้ โดยตัวเอกของเรื่องถ้าง่ายสุดก็เอาตัวเราเองหรือคนที่เราชอบมาใส่ในนั้นไปเลยก็ได้ ยกตัวอย่างตัวละครย้งยี้ในนิยายของผู้เขียน ตัวผู้เขียนยืมมาจากเพื่อผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้จักมาใช้ โดยเอามาทั้งความชอบความคิดการพูดท่าทางนิสัยความคิดที่เราศึกษาตอนที่รู้จักกันมาใช้ จนย้งยี้มีมิติความคิดความอ่านที่น่าสนใจ ซึ่งตัวละครทุกคนในนิยายของผู้เขียนล้วนเอามาจากคนจริงๆ เกือบทั้งหมด
และถ้าคุณบอกว่าตัวเองไม่ได้มีคนที่ชอบดูคนหรือเป็นคนไม่ช่างสังเกตละ งั้นคุณก็สร้างผู้ชายผู้หญิงในอุดมคติของคุณดู เช่นตัวละครสายวายที่เป็นหนุ่มมาดขรึมพูดน้อยเป็นอดีตนักเลงแต่ตัวคุณแพ้ขนแมวก็ใส่ให้ตัวละครนี้ไม่ชอบแมว คุณชอบผู้ชายที่อบอุ่นแต่จะไม่พูดตรงๆ ก็สร้างตัวละครนี้ให้ปากไม่ตรงกับใจ หรือถ้าคุณชอบผู้หญิงใส่แว่นเป็นสาวขี้อ้อนเหมือนลูกแมวแต่ก็แอบขี้หึง ส่วนเวลาโกรธจะแก้มป่อง อยากได้แบบไหนก็ใส่ลงไป เพราะยิ่งคุณใส่ลักษณะนิสัยลงไปตัวละครก็จะยิ่งมีมิติ และตอนใส่ก็อย่าใส่แบบรัวๆ เยอะๆ ในคราวเดียวแต่ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป และต้องดูเนื้อเรื่องด้วย ไม่ใช่มาถึงบอกคนอ่านเลยว่าแพ้คนแมวเป็นคนปากไม่ตรงกับใจ หรือเป็นนักเลงเก่าแต่ก็ชอบเรียนแต่งหน้าเค้ก พวกนี้ต้องค่อยๆ สร้างค่อยๆ ใส่ให้คนอ่านค่อยๆ รู้จักตัวละครของเรา และยิ่งถ้าตัวละครของเราไปตรงใจกับคนอ่านจะยิ่งทำให้คนอ่านอินตามได้ง่ายๆ
ยกตัวอย่างตัวละครของผู้เขียนที่ชื่อย้งยี้ พออยู่กับเพื่อนสนิทเธอจะเป็นพวกชอบพูดประชดแกล้งเพื่อนหยอกล้อขี้เล่น แต่กับเพื่อนที่ไม่ค่อยสนิทย้งยี้จะเป็นเพื่อนที่ดีรับฟังและเป็นมิตร แต่พออยู่กับพี่ชายย้งยี้จะเป็นคนขี้โมโหดุใส่พี่ชายจู้จี้ขี้บ่นเหมือนคุณแม่ และพออยู่กับคนร้ายก็จะเป็นคนที่สุขุมรอบคอมแววตาจริงจัง ซึ่งเป็นหลายหน้ากากที่ตัวคนจริงๆ ที่เธอคนนั้นมี ซึ่งผู้เขียนก็เห็นทุกมุมของเธอคนนั้นจึงสามารถสร้างย้งยี้ออกมาได้ และนอกจากจุดดีแล้วก็ต้องมีจุดอ่อนนิสัยแย่ๆ ใส่มาด้วยเดี๋ยวจะกลายเป็นคนที่มีดีไปเสียทุกอย่าง ยกตัวอย่างนิยายของผู้เขียนอีกนั่นละ ที่ตัวย้งยี้จะสร้างระยะห่างใส่ทุกคนหนึ่งก้าวเสมอ แต่กับพระเอกคือสร้างกำแพงเลย เพราะเธอไม่ไว้ใจไม่เชื่อใจพระเอก แต่พอภายหลังได้เปิดใจคุยกันย้งยี้ก็พูดพูดดีพูดเล่นด้วย ขณะที่ตัวพระเอกจะนอบน้อมใจดีกับทุกคน แต่ก็นิ่งเฉยพูดน้อยเงียบขรึมเพราะมีปมในใจ ซึ่งกว่าผู้เขียนจะเฉลยปมนิสัยทั้งหมดของตัวละครนี้ก็ต้องใช้เวลา 3 เล่มเลยทีเดียว ส่วนนิสัยของย้งยี้จะถูกปรับตามเพื่อนที่อยู่ในฉากตามบริบทสังคมในตอนนั้นๆ ที่บางครั้งคนอ่านไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าท่าทางคำพูดของย้งยี้ในแต่ละตัวละครจะไม่เหมือนกัน แต่คนอ่านจะรู้เองว่านิสัยของตัวละครได้แสดงออกมาแล้วผ่านตัวหนังสือ เพราะเราไม่มีภาพประกอบจึงต้องใส่อารมณ์ผ่านคำพูดของตัวละคร และการอธิบายถึงสิ่งที่ตัวละครนั้นทำ เพราะมันจะทำให้คนอ่านรู้ว่านิสัยท่าทางของตัวละครเปลี่ยนไป จากคำพูดของตัวละครกับสิ่งที่เราบรรยายนั่นเอง
อ่านมาถึงตรงนี้ถ้ายังไม่เข้าใจก็ขอสรุปง่ายๆ คือ ควรสร้างตัวละครที่มีมิติชอบไม่ชอบอะไร มีความคิดความอ่านแบบไหนก็ให้แสดงออกมาผ่านเนื้อเรื่องคำพูดในฉากนั้นๆ และถ้าจะเริ่มเขียนนิยายก็เริ่มมองหาตัวละครคนที่คุณชอบและไปศึกษาคนๆ นั้นให้ละเอียดแล้วคุณจะสามารถสร้างตัวละครที่เจ๋งออกมาได้อย่างแน่นอน ขอเป็นกำลังใจให้
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
กองกำลังพิเศษ BHQ ทรยศฮุนเซน แอบไปซบ อก สมรังสี
“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
สารพิษในร่าง 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา'! ตำรวจเร่งสอบพยาน ตรวจบ้านพักซ้ำ รอญาติจากเชียงราย
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
"เป็กกี้ ศรีธัญญา" โพสต์แซ่บถึง "นิยาย" ที่แสนสนุก ใครคือเจ้าของเรื่องตัวจริง?
กองกำลังพิเศษ BHQ ทรยศฮุนเซน แอบไปซบ อก สมรังสี
(โคตรจริง!) ทำไมเพื่อนคุณถึง 'หลับใน 5 นาที' ได้ทุกที่? เปิด 3 'ความลับสมอง' ที่คน Overthinking ต้องรู้ก่อนเริ่มวันหยุด! 😴
เผยคำทำนาย "บาบา วานก้า" ปลายปี 2025 มนุษย์ต่างดาวอาจโผล่กลางงานฟุตบอลโลก
WOOF แก่แบบมีคุณภาพ เทรนด์การเงินใหม่ของคนวัยเกษียณ พึ่งตัวเอง มีเงินใช้ ไม่เป็นภาระลูกหลาน
แฮ็กสมอง อารมณ์ดีใน 10 วินาที เปลี่ยนอารมณ์ลบให้ดีขึ้นภายใน 10 วินาที



