Biostimulator ทางลัดกระตุ้นคอลลาเจน สู่ผิวอ่อนเยาว์ขั้นสุด
Biostimulator ทางลัดกระตุ้นคอลลาเจน สู่ผิวอ่อนเยาว์ขั้นสุด
เมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนในร่างกายจะค่อย ๆ ลดลง โดยเฉพาะหลังอายุ 25 ปี ร่างกายสูญเสียคอลลาเจนปีละ 1.5% และหลังอายุ 30 ปี การสร้างคอลลาเจนจะลดลงเหลือเพียง 20–30% ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น หย่อนคล้อย มีริ้วรอย และดูแก่กว่าวัย นอกจากอายุ ปัจจัยอื่น เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ พักผ่อนไม่เพียงพอ และการเผชิญแสงแดด ยังส่งผลให้คอลลาเจนลดลงเร็วขึ้น
ปัจจุบันมีการคิดค้น Biostimulator สารกระตุ้นคอลลาเจนที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้แน่น กระชับ และเรียบเนียน โดยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นเองตามธรรมชาติ ถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวอย่างมีประสิทธิภาพ
ทำไมคอลลาเจนถึงจำเป็นต่อผิว?
คอลลาเจนเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยเสริมโครงสร้างของผิว กระดูก กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็น โดยทำหน้าที่เป็นโครงสร้างหลักของผิวชั้นหนังแท้ ช่วยให้ผิวแข็งแรง กระชับ และยืดหยุ่น ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย นอกจากนี้ คอลลาเจนยังช่วยกักเก็บน้ำในผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น ฉ่ำวาว และดูอิ่มน้ำ ดังนั้น การเติมคอลลาเจนจึงช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิวและคงความอ่อนเยาว์ได้ยาวนานขึ้น
ประเภทของคอลลาเจนที่จำเป็นต่อผิว
- คอลลาเจนชนิดที่ 1 (Type I) – พบมากที่สุดในร่างกาย (90%) ช่วยสร้างโครงสร้างผิว เส้นเอ็น กระดูก และหลอดเลือด ทำให้ผิวยืดหยุ่น เต่งตึง ลดริ้วรอย
- คอลลาเจนชนิดที่ 3 (Type III) – ทำงานร่วมกับชนิดที่ 1 พบในผิว กล้ามเนื้อ อวัยวะภายใน ช่วยให้ผิวกระชับ ยืดหยุ่น และกักเก็บความชุ่มชื้น
สัญญาณเตือน! บ่งบอกว่า ผิวของเรากำลังขาดคอลลาเจน
- ริ้วรอยและร่องลึก – พบได้บริเวณหางตา หน้าผาก ระหว่างคิ้ว เนื่องจากผิวสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน
- ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น – คอลลาเจนลดลง ทำให้ผิวกักเก็บน้ำได้น้อยลง ส่งผลให้ผิวลอกเป็นขุย แห้งกร้าน หมองคล้ำ
- ผิวหย่อนคล้อย – ขาดคอลลาเจน ผิวสูญเสียความกระชับ ยืดหยุ่น ลดลง เกิดความหย่อนคล้อยและดูแก่ก่อนวัย
- ฝ้า กระ จุดด่างดำ – ผิวบอบบาง ไวต่อแสงแดด โครงสร้างผิวอ่อนแอ ทำให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำง่าย
- รูขุมขนกว้าง – คอลลาเจนลดลง ส่งผลให้ผิวไม่กระชับ รูขุมขนขยายกว้าง ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียน
คอลลาเจน สามารถนำไปใช้ในรูปแบบใดได้บ้าง?
- คอลลาเจนแบบกิน – พบในอาหารเสริม เช่น แคปซูล ผงชงดื่ม เห็นผลเมื่อรับประทานต่อเนื่อง เหมาะสำหรับบำรุงผิวจากภายใน
- คอลลาเจนแบบทา – อยู่ในครีม โลชั่น เซรั่ม มีโมเลกุลใหญ่ ดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ยาก เน้นเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับบำรุงผิวชั้นนอก
- คอลลาเจนแบบฉีด – ฉีดเข้าสู่ผิวโดยตรง เช่น Radiesse, Sculptra, Gouri เห็นผลเร็ว ใช้ฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาผิวเฉพาะจุด
Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน คืออะไร?
Biostimulator คือสารกระตุ้นที่ช่วยให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินตามธรรมชาติ เมื่อฉีดเข้าสู่ผิว จะช่วยฟื้นฟูผิวจากภายใน ทำให้ผิวแน่น กระชับ และแข็งแรง ปัจจุบันมีหลายประเภท เช่น CaHA, PDO, PLLA
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.romrawin.com/biostimulator/
Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน มีกลไกการทำงานอย่างไร?
Biostimulator ทำงานที่ชั้น Dermis โดยกระตุ้น เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblasts) ให้ผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทดแทนส่วนที่เสื่อมสภาพ ช่วยเติมเต็มผิว เสริมโครงสร้าง ทำให้ผิวแข็งแรง เรียบเนียน ยืดหยุ่น และริ้วรอยลดลง
Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน มีทั้งหมดกี่ประเภท?
- PLLA (Poly-L-Lactic Acid) – กระตุ้นการสร้าง คอลลาเจนชนิดที่ 1 ฟื้นฟูโครงสร้างผิว ทำให้ผิวแข็งแรง เรียบเนียน สลายได้เอง ไม่ตกค้าง
- CaHA (Calcium Hydroxylapatite) – กระตุ้น คอลลาเจนชนิดที่ 1 และ 3 ช่วยเติมเต็มริ้วรอย ปรับรูปหน้า เหมาะกับผิวบอบบาง แพ้ง่าย
- PDO (Polydioxanone) – ใช้เทคโนโลยี PDO Microsphere กระตุ้น คอลลาเจนชนิดที่ 1 และ 3 กระจายตัวดี ไม่บวม ไม่ระคายเคือง
- PCL (Polycaprolactone) – มาในรูปแบบของเหลว Fully Liquid กระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน ให้ผิวแน่น กระชับ ลดริ้วรอย สลายได้เอง
- PDLLA (Poly-D, L-Lactic Acid) – โครงสร้างคล้ายฟองสบู่ กระตุ้น คอลลาเจนชนิดที่ 1 ทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง ไม่ตกค้าง ไม่เป็นก้อน
Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน มีหัตถการอะไรบ้าง?
- Sculptra (PLLA) – กระตุ้น คอลลาเจนชนิดที่ 1 ได้ 66.5% เสริมโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ผิวยืดหยุ่น กระชับ เรียบเนียน อยู่ได้นาน 2 ปี
- Radiesse (CaHA) – กระตุ้น คอลลาเจนชนิดที่ 1 และ 3 พร้อมเสริม อีลาสติน, Angiogenesis, Proteoglycan ช่วยให้ผิวดูเด็กลง อยู่ได้นาน 2 ปี
- Gouri (PCL) – ใช้เทคโนโลยี CESABP กระจายตัวได้ดี ไม่ต้องฉีดหลายจุด ปรับปรุงคุณภาพผิว ไม่มีสารตกค้าง อยู่ได้นาน 1 ปี
- Ultracol (PDO) – กระตุ้น คอลลาเจนชนิดที่ 1 และ 3 เทียบเท่าการร้อยไหม 1,427 เส้น เพิ่มความหนาแน่นของผิว 34.36% อยู่ได้นาน 6-8 เดือน
- Juvelook (PDLLA + HA) – Hybrid Biostimulator กระตุ้น คอลลาเจนชนิดที่ 1 เสริมความยืดหยุ่น เติมเต็มริ้วรอย ผิวชุ่มชื้น ฉ่ำวาว อยู่ได้นาน 2 ปี
Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน สามารถฉีดบริเวณใดได้บ้าง?
- ใบหน้า – หน้าแก้ม, กรอบหน้า, หน้าผาก, ขมับ, ร่องแก้ม, รอบดวงตา, มุมปาก, คาง
- ลำคอ – ลดริ้วรอยและเพิ่มความกระชับ
- หลังมือ – ฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนและดูอ่อนเยาว์
แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด เพื่อเลือกตำแหน่งที่เหมาะสมกับปัญหาผิว
Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
- กระตุ้น คอลลาเจนชนิดที่ 1 และ 3 ตามธรรมชาติ
- ฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรงในระยะยาว
- เติมเต็มผิว ลดริ้วรอย ร่องลึก
- เพิ่มความหนาแน่น และความกระชับของผิว
- ยกกระชับ ลดความหย่อนคล้อย
- กระชับรูขุมขน แก้ปัญหารูขุมขนกว้าง
- เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวอิ่มน้ำ
- ปรับผิวให้ กระจ่างใส ลดหมองคล้ำ
- เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
- ป้องกัน ริ้วรอยก่อนวัย
- เพิ่มความอิ่มฟู เปล่งปลั่ง
- ปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติ
Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน เหมาะกับใคร?
- Biostimulator เหมาะกับ ผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป
- Biostimulator เหมาะกับ ผู้ที่มี ผิวหย่อนคล้อย
- Biostimulator เหมาะกับ ผู้ที่มี ริ้วรอย ร่องลึก
- Biostimulator เหมาะกับ ผู้ที่ ผิวแห้งกร้าน
- Biostimulator เหมาะกับ ผู้ที่มี รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน
- Biostimulator เหมาะกับ ผู้ที่มี สีผิวไม่สม่ำเสมอ หมองคล้ำ
- Biostimulator เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการ ปรับปรุงคุณภาพผิว
- Biostimulator เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการ เพิ่มความคมชัดให้กรอบหน้า
- Biostimulator เหมาะกับ ผู้ที่มี ปัญหาหลุมสิวตื้น ๆ
- Biostimulator เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการ ป้องกันริ้วรอยก่อนวัย
Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน ไม่เหมาะกับใคร?
- Biostimulator ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มี โรคเลือดออกง่าย
- Biostimulator ไม่เหมาะกับ ผู้ที่ ตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- Biostimulator ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มี แผลเปิด หรือผิวหนังอักเสบ
- Biostimulator ไม่เหมาะกับ ผู้ที่ แพ้สารประกอบในตัวยา
- Biostimulator ไม่เหมาะกับ ผู้ที่รับประทาน ยาแอสไพริน หรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด
- Biostimulator ไม่เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการ เห็นผลลัพธ์ทันที (Biostimulator ต้องใช้เวลา)
ก่อนฉีด Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน ควรเตรียมตัวอย่างไร?
- ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกหัตถการที่เหมาะสม
- แจ้งประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว และประวัติแพ้ยาให้แพทย์ทราบ
- งด แอลกอฮอล์และบุหรี่ เพื่อลดการอักเสบและบวมช้ำ
- งด ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เพื่อลดความเสี่ยงเลือดออก
- งด สครับผิวหรือผลัดเซลล์ผิว ในบริเวณที่ฉีด
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายพร้อมรับการฉีดและช่วยให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น
หลังฉีด Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน ควรดูแลตัวเองอย่างไร?
- งด แต่งหน้าและใช้เครื่องสำอาง 12 ชั่วโมงแรก
- หลีกเลี่ยง แสงแดดโดยตรง เพื่อลดการอักเสบ
- งดกิจกรรมที่ โดนความร้อนมาก เช่น ซาวน่า
- ห้าม นวด แกะ เกา บริเวณที่ฉีด เพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อ
- หากมีอาการบวมช้ำ ประคบเย็น เพื่อลดอาการ
- หลีกเลี่ยง การออกกำลังกายหนัก เพื่อลดการระคายเคือง
รวมคำถามยอดฮิต เกี่ยวกับการฉีด Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน
Biostimulator มีผลข้างเคียงอย่างไร?
- อาจมี รอยแดง บวมช้ำ หายเองใน 2-3 วัน
- อาจรู้สึก คันเล็กน้อย บริเวณที่ฉีด
- อาจมี อาการปวด บริเวณที่ฉีด สามารถ ประคบเย็น บรรเทาได้
- อาจเกิด รอยแดงหรือรอยดำเล็กน้อย ซึ่งจางหายเองได้
Biostimulator ปลอดภัยไหม?
- ปลอดภัย ผ่านการรับรอง TH FDA (อย.ไทย) เช่น Radiesse, Sculptra, Ultracol
- ควรฉีดกับ แพทย์ผู้ชำนาญการ ใน คลินิกที่ได้มาตรฐาน
- หากฉีดผิดพลาด อาจเกิด การติดเชื้อ หรือผิวหนังอักเสบ
Biostimulator ต่างจากฟิลเลอร์อย่างไร?
- ฟิลเลอร์ (HA) – เติมเต็ม ริ้วรอย ร่องลึก ปรับรูปหน้า เห็นผลทันที
- Biostimulator – กระตุ้นคอลลาเจนจากภายใน ช่วยให้ผิวแน่นกระชับ เห็นผลระยะยาว อยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์
การฉีด Biostimulator เป็นทางเลือกที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนตามธรรมชาติ ฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย และขาดความชุ่มชื้น โดยมีหัตถการยอดนิยม เช่น Sculptra, Radiesse และ Ultracol ซึ่งแต่ละแบบมีจุดเด่นต่างกัน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการที่ รมย์รวินท์คลินิก เพื่อวิเคราะห์และเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด
อ้างอิงจาก: https://www.romrawin.com/biostimulator/
https://www.romrawin.com/biostimulator-2/
















