หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

การป้องกันตัวสุดแกร่งของเม่น : อาวุธลับที่ทำให้เสือและสิงโตยังต้องถอย !!!

เนื้อหาโดย dukedicknarak

        เม่น (Porcupine) เป็นสัตว์ที่ดูเหมือนจะเป็นเหยื่อในห่วงโซ่อาหารของนักล่าขนาดใหญ่ เช่น เสือดาว สิงโต หรือหมาป่า แต่แท้จริงแล้ว เม่นมีระบบป้องกันตัวที่ทรงประสิทธิภาพจนแม้แต่นักล่าผู้เก่งกาจยังต้องคิดให้ดีก่อนลงมือโจมตี

        ขนของเม่นไม่ได้เป็นแค่ขนธรรมดา แต่เป็น หนามแข็งแหลมคม ที่มีโครงสร้างคล้ายเขาสัตว์ ประกอบด้วยเคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดเดียวกับที่พบในเล็บและเขาของสัตว์หลายชนิด หนามเหล่านี้มีลักษณะเป็นปล้อง และบางชนิดมีปลายเป็นตะขอ ทำให้เมื่อทิ่มเข้าไปในเนื้อของศัตรูแล้วจะดึงออกได้ยาก

        เม่นสามารถชูขนหนามขึ้นเป็นกำแพงป้องกันตัวเอง และถ้าถูกคุกคามมากขึ้น มันจะกระตุกตัวเพื่อให้หนามแหลมเหล่านั้นพุ่งไปปักใส่ศัตรู ซึ่งทำให้สัตว์นักล่าบาดเจ็บอย่างรุนแรง บางครั้งอาจติดเชื้อหรือถึงขั้นเสียชีวิตหากหนามปักเข้าไปในบริเวณสำคัญ เช่น ปาก ตา หรือข้อต่

        เมื่อเจอศัตรู เม่นจะใช้พฤติกรรมหลายรูปแบบเพื่อป้องกันตัวเอง เช่น:

ชูหนามขึ้นและหันหลังให้ศัตรู – เนื่องจากหนามส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณหลังและหาง เม่นจะหันส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดไปเผชิญกับนักล่า

สะบัดหางอย่างรุนแรง – เม่นบางชนิดมีหนามที่สามารถหลุดออกได้ง่าย เมื่อสะบัดหาง หนามเหล่านั้นอาจพุ่งเข้าไปปักในตัวของศัตรู

ส่งเสียงขู่ – เม่นบางชนิดสามารถส่งเสียงคำรามหรือกระทืบเท้าเพื่อเตือนศัตรูก่อนที่จะเข้าจู่โจม

วิ่งถอยหลังพุ่งชน – หากนักล่ายังดื้อดึง เม่นอาจใช้กลยุทธ์สุดท้าย คือ พุ่งชนศัตรูด้วยหนามของมัน แม้แต่นักล่าผู้เก่งกาจก็ยังต้องระวัง

        มีรายงานว่าเสือดาว สิงโต และไฮยีน่าหลายตัวได้รับบาดเจ็บจากการพยายามล่าเม่น บางตัวถึงกับเสียชีวิตจากบาดแผลติดเชื้อที่เกิดจากหนามเม่นที่ปักลึกเข้าไป เม่นอาจดูตัวเล็กและไม่ดุร้าย แต่ด้วยอาวุธลับของมัน ทำให้แม้แต่นักล่าที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังต้องถอย

        การป้องกันตัวของเม่นจึงเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า ขนาดเล็กไม่ได้หมายถึงความอ่อนแอ แต่กลับเป็นการวิวัฒนาการที่ทำให้มันเอาชีวิตรอดในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายได้อย่างน่าทึ่งเลยทีเดียวเด้อครับเด้อ

 

เนื้อหาโดย: dukedicknarak
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
dukedicknarak's profile


โพสท์โดย: dukedicknarak
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจสูตรคำนวณงวด 2/1/69วิมานบนดินที่ไร้เงาเจ้าของ เจาะปมคฤหาสน์ลอยฟ้า 658 ล้านที่กลายเป็นเพียงอนุสรณ์แห่งความล้มเหลว“บอย ภิษณุ" ประกาศขายบ้านหรูแล้ว ราคา 70 ล้านสถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่นจีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์ช่องทางการรับรางวัลสลากกาชาดมหาดไทย 2568 ตรวจสอบสิทธิและติดต่อรับโชคได้ถึงต้นปีหน้าบอสชายถาม "เที่ยงคืนมาห้องผมไหม" สาวจบใหม่ตอบฉลาด คว้าตำแหน่งทันทีทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีนแพทย์ระบบประสาทเตือนว่า 3 อาหารยอดฮิตที่กินบ่อยอาจทำลายสมองและเสี่ยงต่อการสมองเสื่อมโดยไม่รู้ตัวจากโซเชียลสู่พลังงานอนาคต ธุรกิจทรัมป์ควบรวมบริษัทนิวเคลียร์ฟิวชัน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
แพทย์ระบบประสาทเตือนว่า 3 อาหารยอดฮิตที่กินบ่อยอาจทำลายสมองและเสี่ยงต่อการสมองเสื่อมโดยไม่รู้ตัวกัมพูชา ยอมทุบเขื่อนที่หวังเปลี่ยนพื้นที่ หลัก กม.73ช่องทางการรับรางวัลสลากกาชาดมหาดไทย 2568 ตรวจสอบสิทธิและติดต่อรับโชคได้ถึงต้นปีหน้าแซลม่อน ซึมซับความเป็นญี่ปุ่น ที่หลายคนต้องการเน้นสดอร่อยจากโซเชียลสู่พลังงานอนาคต ธุรกิจทรัมป์ควบรวมบริษัทนิวเคลียร์ฟิวชัน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
เผยสาเหตุที่ทำให้ "จิมิ" หลวม..ไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กส์เพียงอย่างเดียวกระถางต้นไม้จิ๋วบนโต๊ะทำงาน เรื่องเล็กๆ ที่ช่วยให้ใจเราเบาลงโดยไม่รู้ตัวการวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบ – เกสปุตตสูตร (กาลามสูตร) กับ Critical Reasoning (เอไอ รวบรวมและเรียบเรียง)"วัดโพธิ์เก้าต้น" วัดดัง เก่าแก่ แห่งค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี
ตั้งกระทู้ใหม่