การป้องกันตัวสุดแกร่งของเม่น : อาวุธลับที่ทำให้เสือและสิงโตยังต้องถอย !!!
เม่น (Porcupine) เป็นสัตว์ที่ดูเหมือนจะเป็นเหยื่อในห่วงโซ่อาหารของนักล่าขนาดใหญ่ เช่น เสือดาว สิงโต หรือหมาป่า แต่แท้จริงแล้ว เม่นมีระบบป้องกันตัวที่ทรงประสิทธิภาพจนแม้แต่นักล่าผู้เก่งกาจยังต้องคิดให้ดีก่อนลงมือโจมตี
ขนของเม่นไม่ได้เป็นแค่ขนธรรมดา แต่เป็น หนามแข็งแหลมคม ที่มีโครงสร้างคล้ายเขาสัตว์ ประกอบด้วยเคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดเดียวกับที่พบในเล็บและเขาของสัตว์หลายชนิด หนามเหล่านี้มีลักษณะเป็นปล้อง และบางชนิดมีปลายเป็นตะขอ ทำให้เมื่อทิ่มเข้าไปในเนื้อของศัตรูแล้วจะดึงออกได้ยาก
เม่นสามารถชูขนหนามขึ้นเป็นกำแพงป้องกันตัวเอง และถ้าถูกคุกคามมากขึ้น มันจะกระตุกตัวเพื่อให้หนามแหลมเหล่านั้นพุ่งไปปักใส่ศัตรู ซึ่งทำให้สัตว์นักล่าบาดเจ็บอย่างรุนแรง บางครั้งอาจติดเชื้อหรือถึงขั้นเสียชีวิตหากหนามปักเข้าไปในบริเวณสำคัญ เช่น ปาก ตา หรือข้อต่
เมื่อเจอศัตรู เม่นจะใช้พฤติกรรมหลายรูปแบบเพื่อป้องกันตัวเอง เช่น:
ชูหนามขึ้นและหันหลังให้ศัตรู – เนื่องจากหนามส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณหลังและหาง เม่นจะหันส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดไปเผชิญกับนักล่า
สะบัดหางอย่างรุนแรง – เม่นบางชนิดมีหนามที่สามารถหลุดออกได้ง่าย เมื่อสะบัดหาง หนามเหล่านั้นอาจพุ่งเข้าไปปักในตัวของศัตรู
ส่งเสียงขู่ – เม่นบางชนิดสามารถส่งเสียงคำรามหรือกระทืบเท้าเพื่อเตือนศัตรูก่อนที่จะเข้าจู่โจม
วิ่งถอยหลังพุ่งชน – หากนักล่ายังดื้อดึง เม่นอาจใช้กลยุทธ์สุดท้าย คือ พุ่งชนศัตรูด้วยหนามของมัน แม้แต่นักล่าผู้เก่งกาจก็ยังต้องระวัง
มีรายงานว่าเสือดาว สิงโต และไฮยีน่าหลายตัวได้รับบาดเจ็บจากการพยายามล่าเม่น บางตัวถึงกับเสียชีวิตจากบาดแผลติดเชื้อที่เกิดจากหนามเม่นที่ปักลึกเข้าไป เม่นอาจดูตัวเล็กและไม่ดุร้าย แต่ด้วยอาวุธลับของมัน ทำให้แม้แต่นักล่าที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังต้องถอย
การป้องกันตัวของเม่นจึงเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า ขนาดเล็กไม่ได้หมายถึงความอ่อนแอ แต่กลับเป็นการวิวัฒนาการที่ทำให้มันเอาชีวิตรอดในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายได้อย่างน่าทึ่งเลยทีเดียวเด้อครับเด้อ
















