ไขข้อสงสัย: แลบลิ้น 3 หยด สยบเผ็ดร้อนได้จริงหรือ?
เมื่อความเผ็ดร้อนจู่โจม ความเชื่อโบราณกับการไขปริศนาที่รอการพิสูจน์
ในวัฒนธรรมอาหารรสจัดจ้านของไทย ความเผ็ดร้อนเป็นรสชาติที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นส้มตำรสแซ่บ แกงเขียวหวานพริกขี้หนู หรือผัดกะเพราสุดร้อนแรง แต่เมื่อความอร่อยมาพร้อมกับความแสบร้อนจนน้ำหูน้ำตาไหล หลายคนคงเคยได้ยิน หรือแม้แต่เคยลองทำตามเคล็ดลับที่ส่งต่อกันมา นั่นก็คือ "การแลบลิ้นให้น้ำลายยืดลงพื้น 3 หยด" ว่ากันว่าจะช่วยบรรเทาอาการเผ็ดร้อนลงได้นั้นเป็นความเชื่อที่เล่าขาน: ตำนานการแก้เผ็ด หรือแค่เรื่องเล่าไร้สาระ?
เรื่องเล่านี้แพร่หลายในสังคมไทยมาช้านาน โดยเชื่อกันว่าอาการเผ็ดเกิดจากสารบางอย่างในพริกที่ไปจับกับปลายประสาทรับรสบนลิ้น การแลบลิ้นให้น้ำลายยืดลงพื้น 3 หยด จะเป็นการกระตุ้นให้น้ำลายออกมามากขึ้น และชะล้างสารเผ็ดเหล่านั้นให้หมดไปจากช่องปาก บางคนถึงกับบอกว่าต้องเป็น "น้ำลาย 3 หยด" เท่านั้น ถึงจะขลังและได้ผล
แต่ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์ก้าวหน้าเช่นปัจจุบัน เราจะยังคงเชื่อในเรื่องเล่าเหล่านี้ได้จริงหรือ? หรือแท้จริงแล้ว นี่เป็นเพียง "ความเชื่อ" ที่ไม่มีมูลความจริงทางวิทยาศาสตร์รองรับ?
ไขปริศนาทางวิทยาศาสตร์: "แคปไซซิน" ตัวการความเผ็ด และกลไกการทำงานที่แท้จริง
ความเผ็ดร้อนที่เราสัมผัสได้จากพริกนั้น แท้จริงแล้วมาจากสารเคมีชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า "แคปไซซิน" (Capsaicin) สารชนิดนี้ไม่ได้ทำให้เกิด "รสชาติ" เผ็ด แต่จะไปกระตุ้น "ตัวรับความรู้สึก" ที่ชื่อว่า "VR1" ซึ่งเป็นตัวรับความรู้สึกร้อนและเจ็บปวดในช่องปากและลำคอของเรา เมื่อแคปไซซินสัมผัสกับตัวรับ VR1 จึงส่งสัญญาณไปยังสมอง ทำให้เรารู้สึกแสบร้อนเหมือนถูกไฟลน
"น้ำลาย" ช่วยแก้เผ็ดได้จริงหรือ?
น้ำลายของเรามีคุณสมบัติเป็นตัวทำละลายที่ดี และสามารถช่วยชะล้างสารแคปไซซินออกจากช่องปากได้บ้าง แต่... สารแคปไซซินนั้น "ไม่ละลายในน้ำ" แต่จะละลายได้ดีใน "ไขมัน" หรือ "แอลกอฮอล์" นั่นหมายความว่า การดื่มน้ำเปล่า หรือแม้แต่น้ำลายของเราเอง อาจช่วยบรรเทาอาการเผ็ดได้เพียงเล็กน้อย และเป็นแค่การชะล้างสารแคปไซซินออกไป แต่ไม่ได้ทำลาย หรือลดฤทธิ์ของมันลงได้
"แลบลิ้น 3 หยด" แก้เผ็ดได้จริงหรือ? บทสรุปจากผู้เชี่ยวชาญ
จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญ "การแลบลิ้นให้น้ำลายยืดลงพื้น 3 หยด ไม่สามารถแก้เผ็ดได้จริง" อย่างที่หลายคนเข้าใจกัน การกระทำดังกล่าวเป็นเพียง "ความเชื่อที่ผิด" และไม่มีหลักการทางวิทยาศาสตร์ใดๆ รองรับ
วิธีแก้เผ็ดที่ได้ผลจริง
หากคุณต้องการบรรเทาอาการเผ็ดร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ ลองใช้วิธีเหล่านี้ที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าได้ผลจริง:
- ดื่มนม: นมมีไขมันและโปรตีนเคซีน ซึ่งสามารถละลายและจับกับแคปไซซินได้ดี ช่วยลดความเผ็ดร้อนได้
- กินอาหารที่มีส่วนผสมของไขมัน: เช่น โยเกิร์ต ไอศกรีม หรือน้ำมันมะกอก ไขมันจะช่วยละลายแคปไซซินและลดอาการเผ็ดได้
- กินอาหารที่มีแป้ง: ข้าวสวย ขนมปัง หรือมันฝรั่ง แป้งจะช่วยดูดซับแคปไซซินและลดความระคายเคืองในช่องปาก
- ดื่มน้ำมะนาว: ความเป็นกรดในน้ำมะนาว อาจช่วยลดความรู้สึกเผ็ดร้อนได้บ้าง
รู้ทันความเชื่อผิดๆ เพื่อการแก้เผ็ดที่ถูกวิธี
ในโลกของอาหารและความเชื่อพื้นบ้าน มีเรื่องเล่าและเคล็ดลับมากมายที่ส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่น แต่ในยุคปัจจุบัน การใช้วิจารณญาณและหลักการทางวิทยาศาสตร์ในการพิจารณาความเชื่อต่างๆ เป็นสิ่งที่สำคัญ "การแลบลิ้น 3 หยด" อาจเป็นกิมมิคที่น่ารัก หรือเป็นเรื่องเล่าขำขันในวงสนทนา แต่สำหรับการแก้เผ็ดจริงๆ แล้ว การเลือกวิธีที่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ จะช่วยให้คุณดับความเผ็ดร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และกลับไปอร่อยกับอาหารรสจัดจ้านจานโปรดได้อีกครั้ง
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
ชาวเน็ตฮือฮา! คุณป้าขายข้าวปั้น แท้จริงแล้วเมื่อ 11 ปีก่อน คือ นางเอก A\/ ระดับตำนาน
"กล้วยหอม" จากผลไม้พื้นบ้านสู่สินค้าเปลี่ยนโลก
10 ประเด็นร้อนฉ่าที่คนไทยให้ความสนใจสูงสุดในปี 2568
คุกกี้เสี่ยงทาย... ทายนิสัยความขี้อ้อนของคนเกิดทั้ง 7 วัน
เตือนแล้วนะ! 3 ผลไม้ที่ "เซลล์มะเร็ง" โปรดปราน หมอยังไม่กล้าแตะ แต่หลายคนกินทุกวันโดยไม่รู้ตัว
หมอปลาย พรายกระซิบ รีเทิร์นแบบฮาๆ! ทำนายพลาดทัวร์ลงหนัก ขอโทษยกมือไหว้ วอนชาวเน็ตให้โอกาสแก้ตัว ไม่งั้นเลิกดูดวงไปจับผีเต็มตัวซะเลย!
ไทยยันคำเดิม “เขมรต้องหยุดยิงก่อน” เสธ.ทบ. ลั่นกู้คืนพื้นที่ได้ 90% แล้ว เหลืออีกนิดเดียวยึดคืนได้ทุกพื้นที่
พุทธศิลป์แนวใหม่หรือวัตถุนิยม? กระแสวิจารณ์ "หัวใจพระพุทธเจ้า" ทรงอนาโตมี
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
เตือนแล้วนะ! 3 ผลไม้ที่ "เซลล์มะเร็ง" โปรดปราน หมอยังไม่กล้าแตะ แต่หลายคนกินทุกวันโดยไม่รู้ตัว
เปิดตำนานคุณลุงซานต้า: จากนักบุญใจบุญยุคโบราณ สู่ชายชุดแดงพุงพลุ้ยที่โคคา-โคล่าช่วยปั้น! 🎅🦌
อันตรายใกล้ตัว เตือน 3 ประเภท ชามใส่อาหาร ที่หลายบ้านยังใช้ เสี่ยงสารพิษสะสมไม่รู้ตัว
ทึ่งทั่วโลก :แม่น้ำสองสี "อารากวี" (Aragvi) ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามน่าทึ่งในประเทศจอร์เจีย
