จากข้อมูลเผยว่า ในแต่ละปีมีลูกกอล์ฟหายประมาณ 5,000 ล้านลูก โดยไปโผล่ตามที่ต่างๆ ทำลายสิ่งแวดล้อมทั้งบนบกและในทะเล
โดยเรื่องราวนี้ ได้ถูกเปิดเผยขึ้ยมาโดย ฌอน เชียนฟิลด์ ซีอีโอของ Found Golf Balls ระบุว่าบริษัทของเขาสามารถกู้คืนและขายลูกกอล์ฟที่หายไปได้หลายล้านลูกทั่วสหรัฐ และแคนาดาในแต่ละปี กล่าวกับ CNN ว่าเขาประเมินค่าเฉลี่ยไว้ที่ระหว่าง 3-4 ลูก ขึ้นอยู่กับทักษะของผู้เล่นเองและลักษณะภูมิประเทศของสนาม นั่นหมายความว่าในสหรัฐมีลูกกอล์ฟหายไปมากกว่า 1,500 ล้านลูกต่อปีตั้งแต่ปี 2020 แต่หากรวมจำนวนนักกอล์ฟทั่วโลกเข้าไปด้วย จำนวนลูกกอล์ฟที่หายไปอาจสูงถึง 3,000-5,000 ล้านลูก ตามที่ ทอร์เบน คาสตรัป ปีเตอร์เซน ผู้จัดการสนามกอล์ฟของ Danish Golf Union ซึ่งทำการวิจัยผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากลูกกอล์ฟที่หายไปคาดการณ์ ด้วยสนามกอล์ฟที่มีอยู่ถึง 84% ของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ทำให้มีลูกกอล์ฟกระเด็นไปเกือบทุกที่ในโลก ตั้งแต่ที่ราบน้ำแข็งของกรีนแลนด์ ปากภูเขาไฟในฮาวายที่ยังปะทุอยู่ ยอดเขาในแอฟริกาใต้ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 4,500 ฟุต ไปจนถึงฟยอร์ดในนอร์เวย์ซึ่งเป็นที่อยู่ของวาฬ การทดสอบในปี 2009 โดยสหภาพกอล์ฟเดนมาร์ก พบว่าลูกกอล์ฟปล่อยโลหะหนักออกมาในปริมาณมากเมื่อสลายตัว โดยพบสังกะสีในระดับอันตรายในยางสังเคราะห์ที่ใช้ในลูกกอล์ฟแกนแข็ง นักวิจัยยังสรุปด้วยว่าลูกกอล์ฟต้องใช้เวลาระหว่าง 100-1,000 ปีจึงจะสลายตัวตามธรรมชาติ แมทธิว ซาโวกา นักชีววิทยาด้านการอนุรักษ์ กล่าวว่า หากลูกกอล์ฟไม่เสียหายก็อาจไม่มีมลพิษปล่อยออกมา แต่เมื่อลูกบอลสลายตัวลงอย่างช้า ๆ บนพื้นทะเล สารเคมีเหล่านี้จะเข้าไปจับกับอนุภาคพลาสติกขนาดเล็กที่ซึมลงสู่มหาสมุทร อาจส่งผลกระทบที่เลวร้ายต่อสัตว์น้ำ รวมถึงมนุษย์ด้วย












