รีวิวหนังสือ MONEY SCRIPT วิธีคิดที่ทำให้ชีวิตสนิทกับเงิน
เนื้อหาโดย machete007
เรื่องเงินๆทองๆกลายเป็นเรื่องทำร้ายเราโดยไม่รู้ตัว เราเครียดกับความเป็นอยู่เรื่องเงินไม่พอใช้จนเราบ่นก่นด่าว่าเงินไม่พอใช้บ่อยครั้งเข้า มันจะฝังลึกถึงจิตใต้สำนึก แม้ชีวิตจะมีเงินเข้ามามากเท่าไหร่ก็จะพบว่ามีเหตุจำเป็นต้องจ่ายเงินมากขึ้นทุกที
หลายคนอาจจะมองว่าเหลวไหล ไม่เป็นเหตุเป็นผล แต่ในทางวิทยาศาสตร์ของจิตวิทยา..เรื่องนี้ค่อนข้างเป็นที่ยอมรับพอสมควร มันคือเรื่องของจิตใจนั่นเอง ผลงานการเขียนจาก Mentalist Daigo แปลโดย กมลวรรณ เพ็ญอร่าม
ความรู้ความประทับใจในมุมมองของครีเอเตอร์
- ได้เรียนรู้ว่า Money Script คือแนวคิดด้านการเงิน เป็นความเข้าใจฝังลึกเรื่องเงิน ซึ่งได้รับอิทธิพลจากคนใกล้ตัวหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัวตั้งแต่สมัยเด็ก
- ได้เรียนรู้ว่าการบูชาเงินคือแนวคิดที่ว่าถ้ามีเงินก็จะมีอิสระ มีความสุข ยิ่งเราความปรารถนาในเงินมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีแนวโน้มบูชาเงินมากเท่านั้นจึงพยายามเพื่อให้ได้อิสระและความสุข นำไปสู่ความโลภทางการเงิน เพราะให้ความสำคัญกับการมีเงินมากเกินไป ทำให้ความสมดุลระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัวพังทลาย คนที่มีครอบครัวก็อาจมีความเสี่ยงจะให้ความทุ่มเทกับงาน โดยไม่คำนึงถึงครอบครัว
- ได้เรียนรู้ว่าคนที่มีความคิดแบบตำหนิผู้อื่นมักมองหาสาเหตุจากภายนอก เมื่อสิ่งต่างๆเกิดความผิดพลาดหรือทำตามเป้าหมายไม่สำเร็จ เขาจะไม่คำนึงถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมตัวเองถึงเก็บเงินไม่ได้จึงนึกวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมไม่ออก ทำให้เก็บเงินไม่ได้ ไม่ว่าเวลาผ่านไปเท่าใดก็ตาม
- ได้เรียนรู้ว่าคนทั่วไปอาจคิดว่าถ้าเราช่วยเหลือทางการเงิน คนอื่นก็ช่วยเหลือเราด้วยเหมือนกัน แต่คนรวยมองว่าเงินที่ให้ยืมคือเงินที่ไม่ได้คืน
- ได้เรียนรู้ว่าคนทั่วไปไม่อยากให้คนใกล้ตัวลำบากเรื่องเงิน คนรวยมองว่าแต่ละคนต้องรับผิดชอบการเงินของตัวเอง
- ได้เรียนรู้ว่าถ้าเราอยากช่วยเหลือคนอื่น ควรทำด้วยความตั้งใจของตัวเอง ไม่ใช่เพราะโดนบังคับฝืนใจ เพราะถ้าเราคิดว่าการช่วยเหลือคนอื่นคือหน้าที่ ก็จะทำให้ชีวิตของตัวเองลำบาก
- ได้เรียนรู้ว่าอย่าคิดว่าถ้าเรามีเงินมากขึ้นก็จะใช้เงินมากขึ้นตาม แต่ให้คิดว่าเราจะเอาเงินส่วนนี้ไปออม ไปลงทุน เพื่อเพิ่มเงินต่อไป...แบบนี้การเงินถึงจะมั่นคง
- ได้เรียนรู้ว่าการที่เราไม่ให้ยืมเงินและอีกฝ่ายต้องรับผิดชอบตัวเองก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ถึงมีอะไรเกิดขึ้นแล้วเงินหมด เขาก็ต้องรับผิดชอบเอง จึงไม่ใช่เหตุผลที่เราจะต้องแบกรับภาระด้วย
- ได้เรียนรู้ว่าความเชื่อที่ว่าถ้าเราให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่คนที่เดือดร้อน เวลาที่เราต้องการความช่วยเหลือเขาก็จะมาช่วยเราเหมือนกัน ถึงเป็นสิ่งที่ทำให้เราล้มละลาย ดังนั้น โปรดเขียน Money Script ใหม่ว่าเงินที่ให้ยืมไปมักจะไม่หวนคืนกลับมา
- ได้เรียนรู้ว่าเราสามารถเกิดความเอนเอียงตาคนหมู่มากได้กับทุกผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ เสื้อผ้า สินค้าแบรนด์ไหนๆก็ตาม ดังนั้น เวลาจะซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการใดๆ จงวิเคราะห์ให้ออกว่ามันมีคุณค่าพอให้เราจ่ายเงินหรือเปล่า เพื่อที่เราจะได้ไม่ถูกอิทธิพลของคนรอบข้างหรือสิ่งแวดล้อมครอบงำ
- ได้เรียนรู้ว่าคนที่มองเงินเป็นสถานะอย่างมากก็อาจมีรายจ่ายสิ้นเปลืองมากขึ้น เพราะใช้เงินเพื่อคุ้มครองสถานะของตัวเอง เช่น ซื้อของแบรนด์เนม..มีรถหรูหราเพื่อบ่งบอกว่าเรามีกำลังจ่ายมากกว่าคนอื่น ให้ภาพลักษณ์ของตัวเองดูดี
- ได้เรียนรู้ว่ากรณีที่เราจะให้ใครยิมเงินควรทำหลักฐานกู้ยืมเงินเอาไว้เป็นลายลักษณ์อักษร นี่เป็นเรื่องปกติ ซึ่งหากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนจะพบว่า การที่เราไม่อยากให้อีกฝ่ายแบกความรับผิดชอบนั้นถือเป็นเรื่องประหลาด เพราะในความเป็นจริงสถาบันการเงินก็ทำในลักษณะนี้เช่นกัน
- ได้เรียนรู้ว่าคนที่มี Money Script แบบคนบ้างานจะมุ่งเน้นไปที่การหาเงินเป็นหลักจนลืมไปว่าหลังจากที่หาเงินได้แล้วจะทำอะไรต่อไป เป้าหมายการหาเงินควรจะเป็นการทำให้ตัวเองมีความสุข ไม่ใช่เพียงการถือครองเงิน หากมองข้ามแก่นแท้ของเรื่องนี้ก็จะพบว่าต่อให้หาเงินได้มากเท่าไหร่ก็ไม่มีความสุขเลย
- ได้เรียนรู้ว่าเรากำลังซื้อสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผล เพราะคล้อยตามคนอื่นหรือเปล่า ? ถ้าซื้อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแล้วหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร ? นอกจากค่าใช้จ่ายที่เสียแล้วยังมีเรื่องในแง่ลบอื่นๆที่จะเกิดขึ้นกับเราอีกมั้ย ? แค่ เรามีสติกับ 3 คำถามนี้ก็สามารถหลีกเลี่ยงกับดักพฤติกรรมทำตามคนอื่นได้แล้ว
ทั้งหมดนี้ทำให้เราเข้าใจการเงินของตัวเองมากขึ้น แม้จะไม่ใช่ในเชิงวิชาการ แต่ก็เป็นประเด็นในเรื่องของนิสัยและพฤติกรรมทางการเงินที่ชวนให้เราต้องพิจารณาทบทวนตัวเองว่าเราจะทำอย่างไรกับปัญหาที่เกิดขึ้น
เนื้อหาโดย: machete007
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปีHot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
"ธรรมนัส" สวนดราม่าจัดซีเกมส์ ย้ำไทยพร้อม 100% แต่ขอทำแบบ "พึ่งตัวเองล้วนๆ"
Unseen ไทยแลนด์ เกาะรูปหัวใจ "ทุ่งทะเลหลวง" สุโขทัย
“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตันกระทู้อื่นๆในบอร์ด
ทั่วไป
เผยคำทำนาย "บาบา วานก้า" ปลายปี 2025 มนุษย์ต่างดาวอาจโผล่กลางงานฟุตบอลโลก
WOOF แก่แบบมีคุณภาพ เทรนด์การเงินใหม่ของคนวัยเกษียณ พึ่งตัวเอง มีเงินใช้ ไม่เป็นภาระลูกหลาน
แฮ็กสมอง อารมณ์ดีใน 10 วินาที เปลี่ยนอารมณ์ลบให้ดีขึ้นภายใน 10 วินาที
นักวิเคราะห์ นักเทรด และนักคณิตศาสตร์ประกัน



