สลิธีรินอาจไม่ได้ฉลาดแกมโกง!
สลิธีรินอาจไม่ได้ฉลาดแกมโกง!
เมื่อเราพูดถึงบ้านสลิธีริน 2 คำที่จะปรากฏขึ้นมาก่อนคือ #เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ และ #ฉลาดแกมโกง เพียงแค่นี้ก็ทำให้บ้านงูดูเป็นแกะดำที่สุดในบรรดาบ้านทั้งสี่ของฮอกวอตส์ได้อย่างง่ายดาย แถมฝั่งตัวร้ายในแฮร์รี่ พอตเตอร์ส่วนใหญ่ก็มาจากบ้านนี้กันแทบทั้งนั้น
เราต้องยอมรับว่าคติที่ซัลลาซาร์ สลิธีรินยึดถือนั้น ส่งผลให้นักเรียนของเขามักจะถูกดึงดูดหรือเอนเอียงไปหาศาสตร์มืดได้ง่ายมาก สำหรับใครที่ไม่เข้าใจ ลองเปรียบว่าศาสตร์มืดเป็นยาเสพติดให้โทษดูละกัน ถ้าต่อมศีลธรรมคุณยังไม่บิดเบี้ยว แน่นอน.. คุณจะพยายามสอนลูกหลานหรือแม้แต่คนใกล้ชิดไม่ให้เข้าไปใกล้หรือยุ่งเกี่ยวกับมันแน่นอน
แต่ถ้าเป็นสลิธีริน.. พวกเขาจะมองอีกมุมหนึ่งว่า “ใช่มันไม่ดี แต่เราอาจหาประโยชน์จากมันก็ได้นี่นา”
พอตั้ง mind set แบบนี้ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่ามันดีหรือไม่ดี ก็ต้องศึกษาพวกมันให้ลึกลงไปไงล่ะ นั่นจึงอาจเป็นสาเหตุว่าทำไมเด็กบ้านสลิธีรินส่วนใหญ่มักชอบศึกษาเวทมนตร์ที่อันตราย และไม่ว่าจะเป็นศาสตร์มืดหรือยาเสพติดให้โทษ(ในชีวิตจริง) สองสิ่งนี้ล้วนเป็นสิ่งที่เย้ายวนและล้อเล่นกับสัญชาติญาณดิบของมนุษย์ทั้งนั้น คนที่ตั้งมั่นแน่วแน่และไม่ถูกพวกมันควบคุมเสียก่อนจึงมีน้อยมาก
ที่ผมยกตัวอย่างมาในข้างต้นนี้ ผมกำลังจะบอกอะไร? ผมคิดว่าสลิธีรินคือพวกที่มองโลกตามความเป็นจริง พวกเขามองว่าทุกอย่างบนโลกนี้มีสองด้านเสมอ ต่อให้เป็นสิ่งที่เลวร้ายแค่ไหนก็ตามก็มักจะมีอีกด้านที่อาจหาประโยชน์ได้แฝงอยู่ด้วยเสมอ
ขณะที่อีก 3 บ้านพยายามชูเรื่องคุณธรรม ความดี ความกล้าหาญและความเพียร ผมไม่ปฏิเสธว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เราไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ - แต่ขณะเดียวกัน เราเคยลองย้อนถามกลับตัวเองดูกันไหมว่า แล้วคนอื่นๆ ล่ะ พวกเขายึดถือความเชื่อนี้เหมือนกับเรารึเปล่า?
คติที่อีก 3 บ้านยึดถือนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ มันจะมีสักกี่คนกันล่ะ ที่ยึดมั่นสิ่งเหล่านี้ไว้ได้ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ?
เมื่อเราเติบโตขึ้น หลายครั้ง.. เราจะพบความจริงว่า การทำตัวเป็นคนดีตลอดเวลามันยากมากและมักจะทำให้เราถูกเอารัดเอาเปรียบโดยไม่รู้ตัว - การจะไปถึงเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องต่อสู้กับใครบางคนหรือกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ต่อให้คุณใช้วิธีขาวสะอาด เที่ยงตรงหรือพยายามยึดมั่นในคุณธรรมเพียงใด คุณมักจะพบเสมอว่ามันไม่เพียงพอและมักจะทำให้เราไม่ไปถึงเป้าหมายจริงๆ
มันต้องมีสักคนที่รับบทเป็นตัวร้าย คนที่ทุกคนมักจะเกลียดและไม่ชอบ แต่ถ้าไม่มีคนๆ นี้เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ก็ไม่อาจบรรลุผลได้เช่นกัน ชัดเจนที่สุดคือเซเวอร์รัส สเนป เราก็รู้กันดีว่าเขาเป็นหนึ่งในคีย์สำคัญมากที่ช่วยให้แฮร์รี่เอาชนะโวลเดอมอร์ได้
และคนที่มักจะต้องรับบทเป็นตัวร้ายก็มักหนีไม่พ้นพวกสลิธีรินนี่ล่ะ มันไม่ได้เป็นกันง่ายๆ นะ ไม่ใช่แค่ว่าคุณมีคลังความรู้เรื่องศาสตร์มืดอยู่เต็มหัวแล้วจะเล่นบทนี้ได้เลย คุณต้องกล้าหาญและเชื่อมั่นในตนเองสูงมาก ๆ ขณะเดียวกันก็ต้องพยายามอ่านความคิดของฝ่ายตรงข้ามให้ออกด้วย
ในแฮร์รี่ พอตเตอร์มันทำง่ายเพราะมีเวทมนตร์ แต่ในโลกความเป็นจริงการจะเป็นคนลักษณะแบบนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย คุณต้องเจนโลกมาพอสมควร คุณอาจจะต้องเคยประสบพบเจอกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจคุณมาอย่างรุนแรงและต้องใช้ความพยายามหนักมากกว่าจะก้าวข้ามมันออกมาได้ (เป็นมุมมองส่วนตัวของผมนะว่าคนที่ผ่านเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาได้ พวกเขาจะมองโลกไม่เหมือนเดิม)
ย้ำอีกรอบนะครับว่า.. ผมไม่ได้ต้องการชี้นำว่าการจะไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ เราต้องใช้วิธีการ “นอกคอก” เข้ามาช่วยทุกครั้ง เพราะก็มีหลายครั้งเหมือนกันที่พอใช้วิธีนอกคอก มันก็มักจะนำผลลัพธ์ที่ไม่คาดฝันติดมาด้วยและบางทีมันก็เป็นความผิดพลาดมหันต์ที่ยากจะแก้ไข
ผมแค่เพียงต้องการสื่อว่า.. ในความเป็นจริงการทำตัวเป็นคนเถรตรงและซื่อจนเกินไป ไม่ได้อาจช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ หรือมันอาจจะบรรลุได้แต่ต้องใช้ความพยายามและอดทนมากๆๆ ซึ่งบางทีผมก็มีมุมมองว่า “เวลาฉันมีค่านะ”
โดยเฉพาะหากเป็นเป้าหมายที่ต้องใช้คนหลายคนช่วยกันผลักดันไปให้ถึงด้วยแล้ว มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะรวบรวมคนที่คิดเหมือนกันในทุกๆ เรื่องเพื่อมาขับเคลื่อนในสิ่งเดียวกัน
อ้างอิงจาก: stampchan