โรคเลือดออกตามไรฟัน
โรคเลือดออกตามไรฟัน หรือ โรคลักปิดลักเปิด (Scurvy) เกิดจากการขาดวิตามิน C ซึ่งจำเป็นต่อการสังเคราะห์คอลลาเจนในร่างกาย
โรคเลือดออกตามไรฟัน เป็นแค่อาการเริ่มต้นของโรคเหงือกอักเสบและโรคทางช่องปาก ไม่ใช่แค่เลือดออกเท่านั้น ยังมีอาการที่ตามมาของโรคเลือดออกตามไรฟัน คือ
1.เหงือกบวม แดง รู้สึกเจ็บ เหงือกร่นและนุ่ม ทำให้มองดูห่างจากฟัน
2.ฟันจะดูยาวขึ้น รู้สึกฟันโยกเมื่อรับประทานอาหาร ถ้าไม่รีบรักษาฟันอาจจะหลุดได้
3.มีกลิ่นปาก เพราะเศษอาหารสะสมบริเวณตามร่องฟัน และ บาดแผลบริเวณเหงือก เป็นที่สะสมของเชื้อแบคทีเรีย
4.ก่อให้เกิดโรคเหงือกและฟันต่าง ๆ มากมายตามมา
วิธีสังเกตอาการเลือดออกตามไรฟัน
- แปรงฟันแล้วมีเลือดติดอยู่บริเวณของแปรง
- บ้วนปากแล้วมีเลือดออกมา
- เหงือกบวมแดงเป็นรอยหยัก (เหงือกคนเราปกติรูปร่างเรียบ)
สาเหตุของเลือดออกตามไรฟัน
- ขาดวิตามิน C
- ดูแลช่องปากไม่ทั่วถึงและไม่ถูกวิธี
- ขนแปรงสีฟันแข็งเกินไป แปรงฟันไม่ถูกวิธี หรือ ใช้แปรงสีฟันอันเดิมนานเกินไปจนเป็นที่สะสมของแบคทีเรีย
- การก่อตัวของคราบพลัคตามแนวเหงือก ซึ่งอาจทำให้เหงือกอักเสบ จนเหงือกบวม มีเลือดออกตามไรฟันได้
วิธีการป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
1.ควรกินผลไม้ที่ให้วิตามิน C สูง หรือ กินยาวิตามิน C บำรุงร่างกาย แต่ ควรกินในปริมาณที่พอดีกับร่างกาย ควบคู่กับการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาด เข้าห้องน้ำบ่อย ๆ เพื่อให้วิตามิน C ระบายออกมา เพราะวิตามิน C ไม่สะสมในร่างกาย
2.ควรแปรงฟันให้ทั่วทั้งช่องปากและซอกฟัน ใช้ไหมขัดฟันบริเวณที่ขนแปรงทำความสะอาดไม่ถึง บ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปาก เพื่อทำความสะอาดให้ทั่วช่องปาก ถ้ามีฟันผุหรือหินปูน ควรรักษาโดยเร็วที่สุด
3.ควรใช้แปรงสีฟันที่ขนแปรงอ่อนนุ่มและเปลี่ยนแปรงทุก ๆ 2-4 เดือน
4.เมื่อมีอาการของเลือดออกตามไรฟัน หรือ โรคทางช่องปากอื่น ๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที
แต่หากมีการปรับพฤติกรรมในการแปรงฟัน ทำตามคำแนะนำข้างต้นแล้วเลือดยังไม่หยุด หรือ มีเลือดออกเป็นประจำ และ มีโรคทางช่องปากอื่น ๆ ควรรีบปรึกษาทันตแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการวางแผนรักษาที่เหมาะสม