เหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่กลาง LosAngeles สร้างความเสียหายมหาศาล
ลอสแอนเจลีส, แคลิฟอร์เนีย — เช้าวันที่ 9 มกราคม 2025 เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่อาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในย่านธุรกิจใจกลางเมืองลอสแอนเจลีส เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อทรัพย์สินและทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพออกจากอาคารใกล้เคียงเพื่อความปลอดภัย
ไฟเริ่มลุกไหม้ในเวลาประมาณ 06.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยต้นเพลิงมาจากชั้นล่างของอาคารซึ่งมีร้านค้าและโกดังเก็บสินค้าอยู่จำนวนมาก วัสดุที่ติดไฟง่าย เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้ พลาสติก และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วทั่วทั้งอาคาร
หน่วยดับเพลิงลอสแอนเจลีส (LAFD) ได้รับแจ้งเหตุทันที และส่งเจ้าหน้าที่กว่า 150 นาย พร้อมด้วยรถดับเพลิง 20 คัน และเฮลิคอปเตอร์เพื่อควบคุมเพลิงจากด้านบน เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงกว่าจะควบคุมเพลิงไว้ได้ในระดับหนึ่ง แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นถือว่าสาหัส
นายจอห์น สมิธ โฆษกของ LAFD ระบุว่า “เพลิงไหม้ครั้งนี้มีความรุนแรงมาก เราต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งควันไฟหนาทึบและโครงสร้างของอาคารที่เริ่มพังถล่ม” เขายังยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บรุนแรง แต่มีประชาชนหลายคนที่สูดดมควัน
ไฟจนต้องรับการปฐมพยาบาล
อาคารที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ที่มีทั้งร้านค้าและสำนักงาน จึงมีผู้คนอยู่ในพื้นที่ค่อนข้างหนาแน่นในช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ต้องอพยพประชาชนจากอาคารใกล้เคียงออกไปในรัศมี 500 เมตรเพื่อป้องกันอันตรายเพิ่มเติม
ประชาชนที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ไฟเริ่มลุกไหม้จากชั้นล่างก่อนที่จะลามขึ้นไปยังชั้นบน “มันน่ากลัวมาก เพราะไฟลามไวมากและควันไฟหนามากจนเรามองไม่เห็นอะไรเลย” นายไมเคิล โรเบิร์ตส์ พนักงานบริษัทที่อยู่ในอาคารใกล้เคียงกล่าว
ทางการยังอยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุของเพลิงไหม้ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรในพื้นที่โกดังเก็บสินค้า แต่นายสมิธระบุว่า “ยังเร็วเกินไปที่จะสรุป เราจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนจะให้ข้อมูลเพิ่มเติม”
ความเสียหายเบื้องต้นคาดว่ามีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่ถูกเก็บไว้ในโกดัง และโครงสร้างของอาคารที่เสียหายเกือบทั้งหมด
นายกเทศมนตรีเมืองลอสแอนเจลีสได้แถลงการณ์ขอบคุณเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมย้ำถึงความสำคัญของการดูแลความปลอดภัยด้านอัคคีภัยในพื้นที่เมืองใหญ่
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงทำงานในพื้นที่เพื่อดับไฟที่หลงเหลือและตรวจสอบความเสียหายเพิ่มเติม ทางการขอความร่วมมือประชาชนหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่เกิดเหตุ และติดตามประกาศอย่างเป็นทางการสำหรับข้อมูลล่าสุด