วิธีที่เรานึกถึงคนอื่น มีผลกระทบต่อวิธีที่เขาจะนึกถึงเรา
ทุกคนเป็นตัวแปรให้เกิดอนาคต
จินตนาการเกี่ยวกับอนาคตเข้มข้นไปในทางใด
อนาคตก็ถูกดัดแปลงไปในทางนั้น
แต่ละคนเป็นฟันเฟืองที่ใหญ่เล็กต่างกันก็จริง
แต่แม้ฟันเฟืองขนาดเล็กที่สุด
ก็ถูกวางตำแหน่งไว้อย่างมีหน้าที่
และมีผลกระทบต่อฟันเฟืองใหญ่ๆที่เกี่ยวข้องกับตน
ไม่มีฟันเฟืองใดในกลจักรใหญ่ที่ไร้ความหมาย
การแผ่เมตตาแบบพุทธ
เป็นข้อพิสูจน์ที่รู้เฉพาะตนว่า
วิธีที่เรานึกถึงคนอื่น
มีผลกระทบต่อวิธีที่เขาจะคิดถึงเรา
เมื่อใดก็ตามที่จิตความเป็นกุศลหนักแน่น
เช่น หลังสวดอิติปิโส หลังนั่งสมาธิ หรือหลังเดินจงกรม
หากอาศัยจิตแบบนั้นน้อมนึกถึงศัตรู
ศัตรูในใจเราจะดูเป็นมิตรมากขึ้น
ถ้าทำต่อเนื่องไม่เกิน ๓ วัน
ก็จะเห็นผลเกิดขึ้นในความจริงด้วย
เช่น ท่าทีของเขาหรือเธออ่อนโยนลง
ดูเหมือนเขาหรือเธอมีแก่ใจพูดกับเราในทางดีขึ้น
ในทางตรงข้ามสุดขั้ว
เมื่อใดก็ตามที่ระดับความอาฆาตแค้นเข้มข้นสูงสุด
แล้วครุ่นคิดทำลายล้างหรือสาปแช่งใคร
เขาจะดูเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งในใจ
และดูเลวที่สุดในโลกสำหรับเรามากขึ้นทุกวัน
แต่ละคนมาปรากฏเป็นมโนภาพในใจคุณ
ด้วยใบหน้า น้ำเสียง และวิธีแสดงออกของเขา
แต่ตัวการสร้างจินตนาการให้เขาเป็นมิตรหรือศัตรู
คือวิธีคิดของคุณเอง
สายสัมพันธ์ก็จะค่อยๆก่อตัวขึ้นเข้มข้น
ตามวิธีที่ต่างฝ่ายต่างคิดถึงกัน
ไม่ว่าจะเป็นไปในทางเกื้อกูล ในทางแก่งแย่งชิงดี
ในทางเป็นครอบครัวเดียวกัน ในทางเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน
กรรมเก่าบันดาลให้ใจไหลไปทางหนึ่งได้
แต่กรรมใหม่ก็หักเหให้เบี่ยงไปอีกทางได้เช่นกัน
อ้างอิง : ดังตฤณ