20 ปี สึนามิ จากบทเรียนสู่ความพร้อมรับมือ เราแข็งแกร่งขึ้นแค่ไหน?
จำวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ได้ไหม? วันที่คลื่นยักษ์สึนามิถล่มหลายประเทศแถบมหาสมุทรอินเดีย ภาพความเสียหาย ความสูญเสีย ยังคงตราตรึงใจใครหลายคน เหตุการณ์ครั้งนั้นพรากชีวิตผู้คนไปกว่าสองแสนคน แถมยังทำให้คนอีกนับล้านไร้ที่อยู่ มันเหมือนเสียงปลุกดังสนั่น ให้โลกหันมาสนใจภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างจริงจัง และแน่นอนว่า “สึนามิ” กลายเป็นภัยที่เราต้องเตรียมรับมือให้ดีกว่าเดิม
ยูเนสโก (UNESCO) โดยเฉพาะคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยสมุทรศาสตร์ หรือ IOC ไม่ได้นิ่งนอนใจ พวกเขารวมหัวกับอีก 150 ประเทศสมาชิก เร่งสร้างระบบเตือนภัยสึนามิทั่วโลก แบบที่เคยทำสำเร็จมาแล้วในแถบแปซิฟิกตั้งแต่ปี 2508 เป้าหมายคือ ไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำรอยอีก
**20 ปีผ่านไป ระบบเตือนภัยปังขึ้นเยอะ!**
ตอนนี้ ระบบเตือนภัยสึนามิครอบคลุมพื้นที่สำคัญๆ ตั้งแต่แปซิฟิก อินเดีย เมดิเตอร์เรเนียน แคริบเบียน ยันแอตแลนติกเหนือ ถ้าเกิดอะไรผิดปกติขึ้นกับระดับน้ำทะเล ระบบจะส่งสัญญาณเตือนไปยังชุมชนชายฝั่งอย่างรวดเร็ว ให้เวลาพวกเขาเตรียมตัวอพยพ หนีเอาชีวิตรอด ระบบนี้ช่วยชีวิตคนไว้ได้เยอะมากจริงๆ
**แต่แค่เตือนอย่างเดียวไม่พอ! ต้องรู้วิธีเอาตัวรอดด้วย**
ยูเนสโกเลยคิดโครงการ “Tsunami Ready” ขึ้นมาในปี 2558 โครงการนี้เหมือนเป็นเครื่องหมายรับรองให้ชุมชนที่เตรียมพร้อมรับมือกับสึนามิ มีตั้ง 12 ข้อที่ต้องผ่าน ตั้งแต่การทำแผนที่พื้นที่เสี่ยงภัย ยันการฝึกซ้อมอพยพหนีสึนามิเป็นประจำ ตอนนี้มีชุมชนใน 30 กว่าประเทศแล้วที่ได้ใบรับรองนี้ สุดยอดไปเลย!
**เบอร์นาร์โด อาเลียกา หัวหน้าทีมรับมือสึนามิของยูเนสโก บอกว่า**
> “เราไม่ได้เน้นแค่การเตือนภัย แต่เราอยากให้ทุกคนเตรียมพร้อมรับมืออย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการติดตามสถานการณ์แบบเรียลไทม์ การให้ความรู้กับชาวบ้าน การสร้างแนวป้องกันชายฝั่งให้แข็งแรง ตอนนี้เรารู้ล่วงหน้าภายในไม่กี่นาทีว่าสึนามิกำลังจะมา และชุมชนต่างๆ ก็พร้อมรับมือแล้ว ต้องขอบคุณความก้าวหน้านี้ที่ช่วยชีวิตผู้คนไว้มากมาย”
**อนาคตของการรับมือสึนามิ**
ยูเนสโกยังเดินหน้าพัฒนาระบบเตือนภัยและความพร้อมของชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับหลายประเทศทั่วโลกในโครงการ “ทศวรรษวิทยาศาสตร์มหาสมุทรเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” เป้าหมายคือ ให้ชุมชนที่เสี่ยงภัย 100% ได้รับการรับรอง Tsunami Ready ภายในปี 2573 และจะสำรวจทำแผนที่พื้นทะเลให้ครอบคลุม 100% แถมยังมีเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างทุ่นลอยน้ำ DART ที่ช่วยติดตามคลื่นสึนามิแบบเรียลไทม์ ทำให้เตือนภัยได้แม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น
**บทเรียนจากสึนามิ ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น**
คุณซยารีฟะห์ นาร์กิส หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากสึนามิปี 2547 ฝากบอกว่า
> “ภัยพิบัติเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เราต้องเตรียมพร้อมเสมอ สังเกตสิ่งรอบตัว รู้ว่าอะไรอันตราย จำสัญญาณเตือนภัยทางธรรมชาติให้ดี และรู้เส้นทางอพยพไปยังที่ปลอดภัย เราต้องเข้มแข็ง!”
20 ปีที่ผ่านมา เราเรียนรู้ที่จะอยู่กับภัยพิบัติ และเราพร้อมรับมือกับมันมากขึ้น ยูเนสโกและอีกหลายประเทศทั่วโลกยังคงเดินหน้าพัฒนา เพื่อสร้างโลกที่ปลอดภัยจากภัยพิบัติให้กับพวกเราทุกคน
















