เบิร์ดจะรอดหรือไม่? หากคดีคอนเม้นต์ขยะของเขาเกิดขึ้นที่ต่างประเทศ
ในต่างประเทศ การกระทำของ influencer ที่สร้างคอนเทนต์แนว prank (แกล้ง) ด้วยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและรุนแรง เช่น บังคับให้ผู้อื่นกินเจลหล่อลื่น หรือรุมเตะกระทืบ อาจนำไปสู่การถูกดำเนินคดีตามกฎหมายหลายข้อหา ทั้งในระดับอาญาและทางแพ่ง ขึ้นอยู่กับลักษณะของการกระทำ ประเทศที่เกิดเหตุ และกฎหมายในเขตอำนาจนั้นๆ
การทำร้ายร่างกาย (Assault and Battery):
หากมีการกระทำที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายของผู้อื่น เช่น การเตะหรือทำร้ายร่างกาย อาจถูกดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งถือเป็นความผิดทางอาญาในหลายประเทศ แม้ผู้เสียหายจะไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง แต่การกระทำที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดหรือการบังคับร่างกายก็เพียงพอที่จะเป็นฐานความผิดนี้ได้
การใช้ความรุนแรงหรือข่มขู่ (Coercion or Threats):
การบังคับให้ผู้อื่นทำสิ่งที่พวกเขาไม่ยินยอม เช่น การกินเจลหล่อลื่น อาจเข้าข่ายเป็นการใช้ความรุนแรงทางกายหรือจิตใจ ซึ่งเป็นความผิดในบางประเทศ โดยเฉพาะหากมีการบันทึกภาพและเผยแพร่เพื่อหวังผลตอบแทนทางการเงินหรือชื่อเสียง
การทำให้อับอาย (Harassment or Public Humiliation):
การกระทำที่ทำให้เหยื่อรู้สึกอับอายอย่างรุนแรงหรือเสียศักดิ์ศรีในที่สาธารณะ อาจเข้าข่ายเป็นการคุกคามหรือการทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งถือเป็นความผิดทางอาญาในบางเขตอำนาจ
การกระทำที่เป็นอันตรายต่อเด็กหรือเยาวชน:
หากเหยื่อเป็นเด็กหรือเยาวชน การกระทำดังกล่าวอาจถูกตีความว่าเป็นการล่วงละเมิดต่อผู้เยาว์ (Child Abuse) ซึ่งมีบทลงโทษร้ายแรงในหลายประเทศ
การทำคอนเทนต์ prank ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมและรุนแรงในต่างประเทศ อาจนำไปสู่ข้อหาทางอาญา เช่น ทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ หรือคุกคาม และอาจถูกฟ้องร้องทางแพ่งหรือถูกแบนจากแพลตฟอร์ม การเผยแพร่เนื้อหาดังกล่าวมีความเสี่ยงทั้งด้านกฎหมายและชื่อเสียงอย่างสูง.