ฟิลเลอร์ปาก เพิ่มความอวบอิ่ม แก้ปัญหารูปทรงปาก
ฟิลเลอร์ปาก เพิ่มความอวบอิ่ม แก้ปัญหารูปทรงปาก
ฟิลเลอร์ปาก เป็นหนึ่งในเทรนด์ความงามที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน ด้วยความสามารถในการปรับรูปทรงริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม ชุ่มชื้น และเป็นธรรมชาติ การฉีดฟิลเลอร์ปากยังช่วยแก้ปัญหาริมฝีปากบาง ริมฝีปากไม่เท่ากัน หรือแม้กระทั่งแก้ไขปากแห้งแตกเป็นขุยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ฟิลเลอร์ปากคืออะไร?
การฉีดฟิลเลอร์ปากคือการเติมสารไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid: HA) เข้าไปในบริเวณริมฝีปาก ซึ่งสารชนิดนี้มีคุณสมบัติช่วยอุ้มน้ำ ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ชุ่มชื้น และมีความยืดหยุ่น นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์ปากยังสามารถช่วยแก้ปัญหารูปทรงปากที่ไม่สมดุล ปากบาง หรือปากคว่ำได้อีกด้วย
สัดส่วนปากทองคำ (Golden Ratio)
การปรับทรงปากที่เหมาะสมกับใบหน้า ควรยึดตามหลักสัดส่วนทองคำ ดังนี้
- ริมฝีปากบนและล่างควรมีสัดส่วน 1:1.618
- ขอบปากต้องสมมาตรกัน
- มุมปากควรยกขึ้นเล็กน้อย
- ริมฝีปากควรเรียบเนียน ไม่มีริ้วรอย
ทรงฟิลเลอร์ปากยอดนิยม
ทรงปากทีได้รับความนิยมสำหรับคนไทย มี 3 ทรง ดังนี้
- ทรงปากกระจับ: ลักษณะรูปทรงปากโค้งคล้ายผลกระจับ หรือปีกนก มีความเรียวสวย ดูมีมิติ
- ทรงปากเกาหลี (Cherry Lips): ลักษณะรูปทรงปากอวบอิ่มคล้ายเชอร์รี่ บริเวณกลางปาก ให้ลุคสดใสน่ารัก
- ทรงปากสายฝอ: ลักษณะรูปทรงปากอวบแน่น เซ็กซี่ ริมฝีปากเต็มทั้งบนและล่าง มีความเจ่อเล็กน้อย
ฟิลเลอร์ปากช่วยอะไรได้บ้าง?
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก ลดอาการแห้งแตก
- ปรับทรงปากให้ได้รูป ไม่ว่าจะเป็นทรงปากกระจับ ทรงเกาหลี หรือทรงสายฝอ
- แก้ไขปัญหาริมฝีปากบาง หรือริมฝีปากไม่เท่ากัน
- ลดริ้วรอยบริเวณริมฝีปาก
- ยกมุมปากที่ตกขึ้น ทำให้ใบหน้าดูสดใส
- เพิ่มมิติให้ริมฝีปากดูเต็มแน่นและอวบอิ่มขึ้
ฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงปากให้สวยขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากบาง ไม่สมดุล
- ผู้ที่ริมฝีปากแห้งและตกร่อง
- ผู้ที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งให้กับใบหน้า
ฟิลเลอร์ปากไม่เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ที่มีแผลหรือการอักเสบบริเวณริมฝีปาก
- ผู้ที่แพ้สารไฮยาลูรอนิกหรือยาชา
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี?
ฟิลเลอร์ปาก Restylane
- ฟิลเลอร์ปาก Restylane จากประเทศสวีเดน นำเข้าโดยบริษัท Galderma (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งรุ่นที่แนะนำสำหรับฉีดฟิลเลอร์ปาก ได้แก่ Restylane Kysse และ Restylane Classic
ฟิลเลอร์ปาก Juvederm
- ฟิลเลอร์ปาก Juvederm จากประเทศอเมริกา นำเข้าโดยบริษัท Allergan (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งรุ่นที่แนะนำสำหรับฉีดฟิลเลอร์ปาก ได้แก่ Juvederm Volbella และ Juvederm Volift
ฟิลเลอร์ปาก Belotero
- ฟิลเลอร์ปาก Belotero จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำเข้าโดยบริษัท เมิร์ซ เฮลธ์ แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งรุ่นที่แนะนำสำหรับฉีดฟิลเลอร์ปาก ได้แก่ Belotero lips shape, Belotero lips contour และ Belotero Intense
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.romrawin.com/mouth-filler/
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ปาก
- เพิ่มความอวบอิ่ม ปรับทรงปากให้สวยเข้ารูป
- แก้ปัญหาปากแห้ง แตก ลอกได้
- ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลทันที
- สามารถฉีดฟิลเลอร์เพิ่มได้ หากไม่พอใจผลลัพธ์
- ปลอดภัยสูง ฉีดสลายได้ง่าย ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
เตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก
- งดแอสไพรินและอาหารเสริมที่มีผลต่อเลือด 1 สัปดาห์
- งดทายาผลัดเซลล์ผิวและแว็กซ์ริมฝีปาก 1 สัปดาห์
- งดแอลกอฮอล์ และออกกำลังกายหนัก 24 ชั่วโมงก่อนทำ
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปาก
- ปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์วิเคราะห์ทรงปาก และเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสม
- ทำความสะอาดริมฝีปาก และรอบ ๆ ริมฝีปาก รวมถึง แปะยาชา เพื่อลดความรู้สึกเจ็บ
- เมื่อเริ่มฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะใช้เวลาในการฉีด ประมาณ 15 - 30 นาที
- หลังฉีดเสร็จ แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลหลังฉีด หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหรือสัมผัสริมฝีปากในช่วงแรก
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
- งดทาลิปสติก 24 ชั่วโมง
- งดอาหารรสจัดและเครื่องดื่มร้อน 2 สัปดาห์
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
- งดดึงปาก หรือลอกหนังริมฝีปาก
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสริมฝีปากแรง ๆ
ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ปาก
- มีผื่นหรือจุดแดงขึ้นบริเวณริมฝีปาก
- มีอาการปวด หรือบวมแดงหลังฉีด ซึ่งหายได้ใน 1 สัปดาห์
- ฟิลเลอร์เป็นก้อน อาจเกิดจากปริมาณมากเกินไปหรือฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม
- มีอาการแพ้หรืออักเสบ ควรพบแพทย์ทันที หากเกิดบวมแดงและเจ็บปวด
ฟิลเลอร์ปากเป็นก้อน สาเหตุมาจากอะไร?
- ฟิลเลอร์ปากเป็นก้อน เกิดจากแพทย์ขาดประสบการณ์ อาจฉีดผิดตำแหน่งหรือชั้นผิว
- ฟิลเลอร์ปากเป็นก้อน เกิดจากใช้ฟิลเลอร์ไม่มีมาตรฐาน ทำให้จับตัวเป็นก้อน
- ฟิลเลอร์ปากเป็นก้อน เกิดจากฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณมากเกินไป
- ฟิลเลอร์ปากเป็นก้อน เกิดจากเลือกฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับบริเวณริมฝีปาก
- ฟิลเลอร์ปากเป็นก้อน เกิดจากอาการบวมหลังฉีด ซึ่งต้องใช้เวลา 7 - 14 วัน เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์ปาก
ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานแค่ไหน?
- ฟิลเลอร์ปากมีอายุการใช้งาน 6 - 18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดฟิลเลอร์และการดูแลตัวเองหลังฉีด
ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม?
- ระหว่างฉีดฟิลเลอร์ปาก อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่สามารถลดอาการเจ็บด้วยการแปะยาชา
ฉีดฟิลเลอร์ปากกี่ CC ดี?
- ฟิลเลอร์ปาก โดยปกติ จะเริ่มต้นที่ 1 - 2 CC ขึ้นอยู่กับทรงปากเดิม และรูปทรงที่ต้องการ
ฟิลเลอร์ปากฉีดได้บ่อยแค่ไหน?
- ฟิลเลอร์ปาก สามารถฉีดเติมใหม่ได้ เมื่อฟิลเลอร์เริ่มสลาย หากต้องการฉีดเพิ่มต้องเว้นระยะ 2 - 4 สัปดาห์
ฉีดฟิลเลอร์ปากอันตรายไหม?
- การฉีดฟิลเลอร์ปากไม่อันตราย หากใช้ฟิลเลอร์แท้ที่สลายได้เอง และฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญ เนื่องจากริมฝีปากมีเส้นเลือดฝอยจำนวนมาก การเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์จึงช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัย
ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน? กี่วันเห็นผล?
- หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก อาการบวมจะลดลงใน 4 - 5 วัน และเห็นทรงปากชัดเจน อวบอิ่ม สวยเป็นธรรมชาติใน 1 - 2 สัปดาห์
ฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ไหม?
- หากไม่พอใจผลลัพธ์ สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยไฮยาโลรูนิเดส (Hyaluronidase) ในกรณีที่ฟิลเลอร์แท้ เพื่อแก้ไขทรงปากหรือฟิลเลอร์เป็นก้อน แต่หากเป็นฟิลเลอร์ปลอมต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัด
ผ่าตัดปากมาแต่ปากบาง ฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม?
- สำหรับผู้ที่ผ่าตัดปากมาแล้ว สามารถฉีดฟิลเลอร์ปากแก้ไขได้ หากพังผืดจากการผ่าตัดไม่รั้งมากเกินไป แต่ถ้าเนื้อปากบางมากอาจฉีดไม่ได้ ควรศึกษาข้อมูลก่อนผ่าตัดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้
การฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยปรับรูปทรงริมฝีปากให้อวบอิ่ม สวยงาม และแก้ปัญหาปากแห้งแตกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว หากคุณสนใจฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่รมย์รวินท์คลินิกทุกสาขาใกล้บ้านคุณ
อ้างอิงจาก: https://www.romrawin.com/mouth-filler/
https://www.romrawin.com/mouth-filler-brand/