เพียงแค่ใส่ 1 สิ่งนี้ลงไปในกาแฟ..ก็ผอมขึ้นได้ สิ่งที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้!
เทรนด์การลดน้ำหนักใน TikTok กำลังเป็นที่พูดถึง โดยมีการแนะนำให้เติมอบเชย 1 ช้อนชาในกาแฟยามเช้าควบคู่กับผงโกโก้เพื่อช่วยเผาผลาญไขมัน
อบเชยทำมาจากเปลือกด้านในของต้นอบเชย (Cinnamomum) และแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่ อบเชยจีน (Cassia) และ อบเชยศรีลังกา (Ceylon)
อบเชยจีนที่พบได้บ่อยกว่า มีรสขมและมีปริมาณสารซินนามัลดีไฮด์ (cinnamaldehyde) ซึ่งเป็นสารที่ให้กลิ่นและรสเฉพาะตัวของอบเชยสูงกว่า
ในขณะที่อบเชยศรีลังกามีรสหวานกว่าและมีปริมาณซินนามัลดีไฮด์น้อยลงประมาณ 40%
งานวิจัยหลายชิ้นที่ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการใช้อบเชยและการลดน้ำหนักพบว่า ผู้ที่ใช้อบเชยเป็นอาหารเสริมสามารถลดน้ำหนักได้เฉลี่ย 0.67 กิโลกรัม โดยการทดลองเหล่านี้มีระยะเวลาตั้งแต่ 2-6 เดือน และใช้ทั้งอบเชยในรูปแบบผงและสารสกัด ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นคนในแถบตะวันออกกลางและอนุทวีปอินเดีย
เหตุผลที่อบเชยอาจช่วยลดน้ำหนักได้มาจากคุณสมบัติที่ช่วยให้กลูโคสเข้าสู่เซลล์ได้เร็วขึ้น ซึ่งช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและเพิ่มประสิทธิภาพของอินซูลิน
นอกจากนี้ อบเชยยังมีคุณสมบัติที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน รวมถึงส่งเสริมการเผาผลาญไขมันและทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น โดยชะลอการย่อยอาหารจากกระเพาะเข้าสู่ลำไส้เล็ก
Kara Collier นักโภชนาการและผู้ร่วมก่อตั้ง Nutrisense เคยกล่าวไว้ว่า อบเชยยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และมีฤทธิ์ต้านจุลชีพ แต่ยังคงต้องมีการศึกษากับมนุษย์เพิ่มเติมเพื่อยืนยันประโยชน์เหล่านี้อย่างแน่ชัด
ทั้งกาแฟและโกโก้ก็อาจช่วยเรื่องน้ำหนักได้เช่นกัน งานวิจัยจาก Harvard’s T.H. Chan School of Public Health พบว่าการดื่มกาแฟวันละ 4 แก้วสามารถลดไขมันในร่างกายได้ประมาณ 4% ส่วนโกโก้มีใยอาหารสูง ซึ่งช่วยให้รู้สึกอิ่มนานและช่วยรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
แม้ว่าอบเชยจะเป็นส่วนประกอบที่พบได้ในอาหารคาวหวานหลายชนิด แต่ก็มีความเสี่ยงต่อสุขภาพเช่นกัน
ในปีนี้ สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ได้ออกคำเตือน 3 ครั้งเกี่ยวกับการปนเปื้อนสารตะกั่วและโลหะหนักในอบเชยแบบผงที่จำหน่ายในร้านค้าหลายแห่ง เช่น Dollar Tree, Patel Brothers และ Eurogrocery
นอกจากสารตะกั่วแล้ว บางคนอาจรู้สึกปวดท้องหรือเกิดอาการแพ้หลังบริโภคอบเชย อีกทั้งอบเชยยังมีสารคูมาริน (coumarin) ซึ่งอาจทำให้ตับเสียหายได้หากบริโภคในปริมาณมาก
•อบเชยจีนมีปริมาณคูมารินสูงถึง 1%
•ขณะที่อบเชยศรีลังกามีเพียง 0.004%
หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับการบริโภคอบเชย โดยเฉพาะในกรณีที่คุณกำลังใช้ยาที่อาจเกิดปฏิกิริยากับอบเชย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพิ่มอบเชยในอาหารประจำวันของคุณ
ที่มา: new york post