แพทย์ออกมาแนะนำ ว่าเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายอย่างไรให้ได้ประโยชน์ แทนที่จะเป็นโทษ
เรื่องเกี่ยวกับสุขภาพนี้เป็นข้อมูลของนายแพทย์เหงียน มินห์ อันห์ จากศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาล Bach Mai แนะนำว่าการออกกำลังกายมีประโยชน์อย่างมาก แต่ต้องเหมาะสมกับตัวเรา ในการฝึกซ้อม เราต้องแบ่งว่าออกกำลังกายแบบไหนเพียงพอ และออกกำลังกายแบบไหนที่หนักเกินไป ถ้าเราออกกำลังกายเฉลี่ย 30-45 นาทีต่อวัน และออกกำลังกาย 5 วันต่อสัปดาห์ ถือว่าเป็นการออกกำลังกายหนักปานกลาง หากออกกำลังกายมากกว่านี้ ต้องดูว่าร่างกายสามารถทนทานต่อการออกกำลังกายที่หนักในระดับนั้นได้หรือไม่ เพราะอาจเป็นอันตรายได้ สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายหนักเกินไป ต้องดูปัจจัยโดยรวมของตัวเอง ว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายหรือไม่ เช่น คนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิต หรือเบาหวาน เป็นต้น ในกรณีที่หลังออกกำลังกาย เรามักรู้สึกเซื่องซึม เหนื่อย เบื่ออาหาร หรือนอนไม่หลับ จำเป็นต้องทบทวนดูว่า ออกกำลังกายหนักเกินไปหรือไม่ เพื่อลดปริมาณลงให้เหมาะสมกับร่างกายของเรา รองศาสตราจารย์ ดร.เหงียน มาน คานห์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย Viet Duc กล่าวว่า มีบางกรณีที่อาการหัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมอง เกิดขึ้นขณะออกกำลังกาย ทำให้หลายคนกังวลใจ เพราะเราได้เห็นข่าวหลายต่อหลายครั้งถึงคนที่เสียชีวิตจากอาการหัวใจวายขณะเล่นกีฬา โดยเฉพาะผู้สูงอายุ แพทย์แนะนำว่า การเล่นกีฬาต้องเหมาะสมกับวัย กีฬาที่ต้องใช้การออกกำลังกายอย่างหนัก เช่น ฟุตบอล และการวิ่งระยะไกล เป็นกีฬาของวัยรุ่น ผู้สูงอายุ ควรออกกำลังกายด้วยการเดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ และต้องอบอุ่นร่างกายอย่างระมัดระวัง และค่อยๆ เพิ่มจังหวะ เพื่อให้หัวใจหดตัวและปรับตัวได้ทัน ร่างกายมนุษย์มีเกณฑ์ที่แน่นอน หากต้องการทำงานเกินเกณฑ์นั้น ก็ต้องใช้กระบวนการฝึกฝนและการปรับตัวที่ยาวนาน การเร่งกระบวนการดังกล่าว ส่งผลให้ร่างกายรับภาระมากเกินไป หัวใจไม่สามารถให้เลือดได้เพียงพอ และปอดต้องทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อแลกเปลี่ยนออกซิเจน อัตราการเต้นของหัวใจปกติประมาณ 90 ครั้ง/นาที หากดันทะลุไปที่ 180-200 ครั้ง/นาที แสดงว่าเร็วเกินไป เกินเกณฑ์ที่ร่างกายรับได้ ทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันและโรคหลอดเลือดสมอง ผู้เชี่ยวชาญยังกล่าวอีกว่า ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงที่สุดที่โรงพยาบาลพบในนักกีฬา คือภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน และโรคหลอดเลือดสมอง นักกีฬาจึงจำเป็นต้องมีอุปกรณ์มาวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ห้ามปล่อยให้อัตราการเต้นของหัวใจสูงเกินกว่า 120 ครั้ง/นาที