นักวิจัยพบว่า ผู้ที่รับประทาน ดาร์กช็อคโกแลต เป็นประจำ สามารถลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ดีกว่าผู้ที่ไม่รับประทาน
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวซินหัวรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวานนี้ (6 ธันวาคม 2567) ว่าวารสารการแพทย์ บีเอ็มเจ เผยแพร่ผลการศึกษาล่าสุด พบว่าผู้รับประทานช็อกโกแลตเป็นประจำมีความเสี่ยงป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ต่ำกว่า แต่ต้องเป็น ดาร์กช็อกโกแลต ไม่ใช่ ช็อกโกแลตนม โดยคณะนักวิจัยยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่เชื่อว่าดาร์กช็อกโกแลตมีประโยชน์ต่อระบบเผาผลาญมากกว่าช็อกโกแลตนม เพราะมีน้ำตาลน้อยกว่าและสารประกอบจากพืชสูงกว่า ซึ่งผลการศึกษาบางส่วนพบว่า ดาร์กช็อกโกแลตลดการอักเสบและปรับปรุงความไวต่ออินซูลิน ผลการศึกษาจำนวนมากก่อนหน้านี้ ตรวจสอบผลกระทบต่อสุขภาพจากการรับประทานช็อกโกแลต ส่วนการศึกษาฉบับใหม่เป็นหนึ่งในการศึกษาไม่กี่ฉบับ ซึ่งเปรียบเทียบดาร์กช็อกโกแลตกับช็อกโกแลตนมโดยเฉพาะ และเป็นหนึ่งในการศึกษาหัวข้อนี้ครั้งใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน เดอะ วอชิงตัน โพสต์ รายงานเกี่ยวกับผลการศึกษาดังกล่าว ว่าดาร์กช็อกโกแลตมีโกโก้อยู่มากกว่า ส่งผลให้มีความเข้มข้นของสารประกอบจากพืชอันเป็นประโยชน์ ซึ่งเรียกว่าโพลีฟีนอล (Polyphenol) มากกว่าหลายเท่า โดยเฉพาะที่เรียกว่าฟลาโวนอยด์ (flavonoid) สารประกอบที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเหล่านี้ ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและพบได้ในอาหารจากพืชหลายชนิด ทั้งผลไม้ ผัก ชา และกาแฟ โดยการศึกษาหลายฉบับชี้ว่าฟลาโวนอยด์อาจช่วยป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ด้วยการปรับปรุงการตอบสนองต่ออินซูลิน และการสลายน้ำตาลของร่างกาย รวมถึงปกป้องเบตาเซลล์ที่ผลิตและปล่อยอินซูลินจากตับอ่อน