นักสัตววิทยาเผย!! การต้มกุ้ง-ปูทั้งเป็น ถือเป็นการทารุณกรรมสัตว์ เพราะมันมีความรู้สึกเจ็บปวดเหมือนกัน
เราต่างก็มีความเชื่อว่า อาหารทะเลอย่างเช่นกุ้ง ปูมจะอร่อย ต้องสดใหม่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะจับ กุ้ง-ปู เป็น ๆ โยงลงหม้อต้มเดือด ๆ เพราะจากงานวิจัยพบว่า กุ้งปูก็สามารถรับรู้ความเจ็บปวดได้ไม่ต่างจากมนุษย์
สำนักพิมพ์ New York Post ของสหรัฐอเมริกา ได้รายงานข่าว โดยอ้างผลวิจัยของนักสัตววิทยาจากมหาวิทยาลัยโกเธนเบิร์กของสวีเดน พบว่าสัตว์น้ำเปลือกแข็งจำพวกกุ้งและปู สามารถรับรู้ความรู้สึกเจ็บปวดได้เมื่อพวกมันถูกนำไปต้มทั้งเป็น
โดยการศึกษานี้ใช้การตรวจทางสรีรวิทยาไฟฟ้า (Electrophysiological) เพื่อตรวจจับการตอบสนองของร่างกายโดยธรรมชาติของปูชายฝั่ง ในขณะที่กระตุ้นด้วยสิ่งกระตุ้นที่เป็นอันตราย 2 ประเภท คือสิ่งกระตุ้นทางกลหรือสารเคมี และกรดน้ำส้ม
นักวิจัยพบว่าปูชายฝั่งแสดงการตอบสนองในระบบประสาทส่วนกลางซึ่งบ่งบอกถึงการตอบสนองต่อความเจ็บปวดตามมาตรฐาน ร่างกายของปูชายฝั่งทุกส่วนตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่ทำให้เกิดความเจ็บปวด ยกเว้นหนวดซึ่งตอบสนองต่อสิ่งเร้าทางเคมีเท่านั้น
หลักการความเจ็บปวดเหล่านี้ไม่เพียงใช้ได้กับปูชายฝั่งเท่านั้น แต่ยังใช้ได้กับสัตว์น้ำเปลือกแข็งจำพวกกุ้งด้วย ซึ่งข้อค้นพบดังกล่าวทำให้ ‘เอเลฟเธอเรียส คาซิอูราส’ (Eleftherios Kasiouras) นักศึกษาปริญญาเอก ม.โกเธนเบิร์ก เรียกร้องให้ยุติการประกอบอาหารด้วยวิธีต้มปูและกุ้งแบบเป็น ๆ
“เราเชื่อว่าการต้มสัตว์จำพวกกุ้งที่ยังมีชีวิตอยู่ควรได้รับการห้าม และควรใช้เทคนิคการปรุงอาหาร เช่น การช็อตด้วยไฟฟ้าทันทีที่จับสัตว์จำพวกกุ้งได้ มีหลักฐานมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งรวมถึงการวิจัยของเรา ที่ระบุว่าสัตว์จำพวกเดคาพอด (Decapod-สัตว์จำพวกกุ้งและปู) จะรู้สึกเจ็บปวด ดังนั้น เราจึงควรปฏิบัติต่อพวกมันเหมือนกับที่เราปฏิบัติต่อสัตว์ชนิดอื่น ๆ” คาซิอูราส กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปูเป็นสัตว์บริโภคเพียงชนิดเดียวที่ไม่ได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมายคุ้มครองสัตว์ ซึ่งหมายความว่าการฆ่าปูเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย
โดยองค์กรคุ้มครองสัตว์ Crustacean Compassion กล่าวว่า มีวิธีฆ่าปูที่ผิดจริยธรรมหลายวิธี เช่น การต้ม การแยกชิ้นส่วน การฆ่าด้วยไฟฟ้า การแยกส่วน การเติมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การจมน้ำจืด และการแช่เย็นทั้งแบบแห้งและแบบเปียก