ทำไมป้ายชื่อภาษาแมนจูของตำหนักไท่เหอในพระราชวังต้องห้ามถูกลบออกไป?
ในประวัติศาสตร์จีน มีเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและวัฒนธรรมอย่างมาก หนึ่งในเหตุการณ์เหล่านั้นคือการหายไปของอักษรแมนจูจากป้ายของตำหนักไท่เหอ (Hall of Supreme Harmony) ในวังต้องห้าม ซึ่งมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการขึ้นสู่อำนาจของหยวนซื่อไค่ (袁世凯) ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
ในสมัยราชวงศ์ชิง ป้ายต่างๆ ในวังต้องห้ามมักจะมีข้อความทั้งในภาษาแมนจูและภาษาจีน เพื่อสะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความพยายามในการสร้างความชอบธรรมในการปกครองของราชวงศ์ชิงที่เป็นชนกลุ่มน้อยเหนือประชากรส่วนใหญ่ที่เป็นชาวฮั่น อย่างไรก็ตาม เมื่อหยวนซื่อไค่พยายามฟื้นฟูระบบจักรวรรดิในปี 1915 สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
หยวนซื่อไค่ ผู้ซึ่งเคยเป็นผู้นำทางทหารที่มีอำนาจและดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐจีน ได้ประกาศตัวเองเป็นจักรพรรดิ แต่การกระทำนี้กลับได้รับการตอบสนองอย่างรุนแรงจากประชาชนและกลุ่มต่างๆ ที่ไม่เห็นด้วย ในช่วงเวลานั้น หนึ่งในผู้ใกล้ชิดของเขาคือหวังจิ้งไท่ (Wang Jingtai) ได้เสนอให้ลบอักษรแมนจูออกจากป้ายของอาคารสำคัญ เพื่อสื่อสารถึงการตัดขาดจากราชวงศ์ชิงและเพื่อปรับตัวให้เข้ากับแนวคิดชาตินิยมที่กำลังเติบโต
หยวนซื่อไค่ตัดสินใจที่จะนำข้อเสนอนี้ไปใช้ แต่เขาก็ต้องเผชิญกับความกลัวว่าจะเกิดการตอบโต้จากผู้ภักดีต่อราชวงศ์ชิงที่ยังคงอยู่ในกรุงปักกิ่ง ดังนั้น เขาจึงเลือกที่จะลบเฉพาะข้อความแมนจูออกจากอาคารภายนอก เช่น ตำหนักไท่เหอ ในขณะที่ยังคงเก็บข้อความเหล่านั้นไว้ในอาคารภายในพระราชวัง การกระทำนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่กว้างขึ้นในการตัดขาดระหว่างระบอบของเขากับประเพณีของราชวงศ์ชิง ขณะเดียวกันก็พยายามรักษาความมั่นคงท่ามกลางการต่อต้านที่เพิ่มขึ้น
การลบอักษรแมนจูจากป้ายตำหนักไท่เหอ จึงไม่เพียงแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงทางสัญลักษณ์ แต่ยังสะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างอำนาจจักรวรรดิแบบดั้งเดิมและแนวคิดสาธารณรัฐที่เกิดขึ้นใหม่ในยุคนั้น การกระทำนี้ของหยวนซื่อไค่ได้สร้างผลกระทบอย่างยาวนานต่อประวัติศาสตร์จีน และยังคงเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจในการศึกษาความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและวัฒนธรรมในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายนี้