เรื่องของการ “ผายลม” หรือ “ตด” เรื่องน่ารู้เมื่อคุณ “ตด” และ ตดสามารถบอกโรคได้
การผายลม หรือ ตด เรื่องปกติที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ อาการที่ลมระบายออกมาทางทวารหนัก เกิดจากแก๊สที่สะสมในระบบย่อยอาหาร และ ตดยังสามารถบอกถึงสุขภาพภายในของลำไส้ได้ด้วย
ตดเกิดจากอะไร ?
ตดเป็นกระบวนการขับลม แก๊ส ในกระเพาะอาหารและลำไส้ ตดจะประกอบไปด้วยแก๊สที่ไม่มีกลิ่น 99% อันได้แก่ แก๊สไนโตรเจน คาร์บอนไดออกไซด์ ไฮโดรเจน ออกซิเจน มีเทน ส่วนแก๊สมีกลิ่นนั้นมีอยู่เพียง 1% ในตดเท่านั้น ซึ่งแก๊สที่มีกลิ่นจะเกิดจากการหมักหมมของอาหารในลำไส้ ก่อให้เกิดเป็นกำมะถัน ต้นเหตุของกลิ่นเหม็นของตด
ตดแบบไหนบอกโรคอะไรได้บ้าง?
กลิ่นของตด
- ตดไร้กลิ่น เกิดจากการได้รับโปรตีนน้อย
- ตดมีกลิ่น เกิดจากการทานอาหารที่มีโปรตีน และ ผักที่มีกลิ่นแรงมาก
- ตดมีกลิ่นแรงมากผิดปกติ อาจเกิดจากลำไส้มีการติดเชื้อแบคทีเรีย
ความถี่ของตด
โดยธรรมชาติคนเราจะตดเฉลี่ยวันละ 10-20 ครั้ง ฉะนั้นถ้าตดมากกว่า หรือ น้อยกว่านี้ แสดงว่าร่างกายกำลังผิดปกติ
- ตดน้อย ตดน้อยกว่า 10 ครั้งต่อวัน เสี่ยงโรคลำไส้อุดตัน
- ตดปกติ ตด 10-20 ครั้งต่อวัน ถือว่าปกติ
- ตดมาก ตดมากกว่า 20 ครั้งต่อวัน เสี่ยงโรคทางเดินอาหาร
เสียงของตด
เกิดจากการเกร็งของกล้ามเนื้อหูรูด และ ความดันในลำไส้ใหญ่ ถ้ากล้ามเนื้อหูรูดไม่ค่อยกระชับ และ ความดันภายในลำไส้ใหญ่มีน้อยตดก็จะเบา แต่ถ้ากล้ามเนื้อหูรูดบีบตัวแน่น และ แรงดันภายในลำไส้ใหญ่สูง ตดก็จะมีเสียงที่ดังกังวาล
- ตดไร้เสียง เกิดจากกล้ามเนื้อหูรูดไม่กระชับ ทำให้บีบตัวได้น้อย แรงดันในลำไส้จึงมีไม่มาก
- ตดมีเสียง เกิดจากกล้ามเนื้อหูรูดบีบตัวมาก แรงดันในลำไส้จึงมีมาก ตดแบบนี้เป็นพวกดีแต่เสียง มักไม่ค่อยมีกลิ่น
สาเหตุที่ทำให้เกิดการตด
- อากาศที่ผ่านเข้าลำไส้ทางจมูก หรือ ปาก ในช่วงที่เคี้ยวอาหาร
- กินอาหารประเภท เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว ชีส กระหล่ำปลี หัวหอม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม จะทำให้เกิดแก๊สในร่างกายมากเกินไป
- การเคี้ยวหมากฝรั่ง หรือ อมลูกอม
- อาหารสุขภาพที่มีปริมาณซัลเฟตสูง เช่น บร็อคโคลี่ ดอกกะหล่ำ กะหล่ำปลี ทำให้ตดมีกลิ่นเหม็น สารประกอบพวกซัลเฟอร์ที่อยู่ในเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนม ก็ทำให้เกิดกลิ่นได้เช่นเดียวกัน
- เมื่อกินอาหารที่มีน้ำตาลแลคโตสเป็นส่วนประกอบ เช่น นม โยเกิร์ต ผลิตภัณฑ์จากนม น้ำตาลที่ไม่ถูกดูดซึมนี้ จะถูกแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ทำปฏิกิริยาการหมัก (Fermentation) ทำให้เกิดก๊าซจำนวนมาก
- การเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด ทำให้อาหารย่อยไม่หมด เกิดอาการท้องอืดมีแก๊สในลำไส้
- กินเนื้อสัตว์มากเกินไป ร่างกายจะย่อยอาหารประเภทนี้ได้ช้า แบคทีเรียในลำไส้จะมาช่วยย่อย ก่อให้เกิดปฏิกิริยาการหมัก เกิดแก๊สในลำไส้
- กินอาหารที่มีไขมันมากเกินไป ซึ่งร่างกายจะใช้เวลาในการย่อยไขมันนาน เสี่ยงต่อการเกิดแก๊สในกระเพาะและลำไส้ ทำให้เรอบ่อย หรือ ผายลมบ่อยได้
- นอนไม่พอ วิตกกังวล ความเครียด อาจทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานไม่ดี
- ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดีอยู่แล้ว เช่น คนที่ท้องอืดประจำ
วิธีป้องกันไม่ให้ตดมากเกินไป
- หลีกเลี่ยงอาหารที่รู้ว่าจะทำให้ตดง่าย หากรู้ว่าอาหารอะไรที่กินในชีวิตประจำวันแล้วทำให้ตดง่าย ให้ลองลดปริมาณการรับประทานอาหารเหล่านั้นให้น้อยลง
- แบ่งมื้ออาหารย่อยในแต่ละวัน บางครั้งการกินอาหารมื้อใหญ่มากเกินไปก็ทำให้ตดบ่อยขึ้นได้ ลองแบ่งมื้ออาหารที่ต้องกินให้แต่ละวันให้ถี่ขึ้นแต่ปริมาณน้อยลง แก๊สในลำไส้ใหญ่อาจน้อยลงและตดน้อยลงได้
- กินอาหารให้ช้าลง การเคี้ยวอาหารเร็วรวมถึงดื่มน้ำเร็วเกินไป จะเป็นการเพิ่มอากาศเข้าไปในร่างกายขณะกลืนอาหาร ดังนั้นการเคี้ยวอาหารให้ช้าลง ค่อย ๆ ดื่มน้ำ จะสามารถทำให้คุณตดน้อยลงได้
- หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ วันละประมาณ 30 นาทีจะทำให้สุขภาพของคุณแข็งแรง และ ปริมาณแก๊สในร่างกายจะอยู่ในปริมาณเหมาะสม
- อย่ากินอาหารที่มีไขมันสูง เพราะจะทำให้การย่อยอาหารของกระเพาะอาหารช้าลง และ เกิดปริมาณแก๊สมากเกินไป
- การกินยาไซเมทิโคน (Simethicone) เพราะยากลุ่มนี้เป็นยาที่ถูกใช้เพื่อแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยขับแก๊สในกระเพาะอาหารและลำไส้ นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการจุกเสียดจากแก๊สที่มีปริมาณมากเกินไปด้วย
- หยุดสูบบุหรี่ และ เคี้ยวหมากฝรั่ง เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับแก๊สส่วนเกินเข้ามาในทางเดินอาหารมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มอัดลม เพราะจะทำเกิดฟองแก๊สเพิ่มในทางเดินอาหาร
เรื่องผายลม หรือ ตด ไม่ใช่เรื่องตลก น่าขบขัน ชวนล้อเลียน แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ สิ่งสำคัญคือ ให้ลองหมั่นสังเกตว่า “คุณตดบ่อยเกินไปหรือไม่ ? หรือ ตดมีกลิ่นเหม็นมากหรือไม่ ?” รวมทั้ง “มีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เกิดขึ้นไหม ?”
เพราะหากตดบ่อยเกินไป หรือ ตดมีกลิ่นเหม็นมาก และ มีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ร่วมด้วย นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงภาวะผิดปกติบางอย่างในร่างกายก็เป็นได้
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
AI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 2 มกราคม 69..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปี
10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต
เซียนหวยคึกคัก ม้าสีหมอกปล่อยแนวทางเลขเด็ด งวด 2 มกราคม 2568
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
หลังหยุดยิงได้ไม่กี่ชั่วโมง พบเครื่องบินปริศนา บินเข้าสู่กรุงพนมเปญ
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
เผยข้อเสนอหยุดยิงในการประชุม GBC พอเขมรรู้ถึงกับโวยวาย
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
วัฒนธรรมของ สัตว์เลื้อยคลาน ที่มันคือกิ้งก่าขนาดใหญ่
นี่หน่ะหรือ ขนมที่ใช้ในพิธีขันหมาก
ศึกเดือดกลางเมืองชล! "ไอซ์ รักชนก" ปะทะคารมกลุ่มแม่ยก "พี่เฮ้ง" ปมแก้รัฐธรรมนูญและตรวจสอบทุจริต
บราวนี่ ไม่ใช้เตาอบ ส่วนผสมน้อย อร่อยสร้างภาพ
ความงามที่ไม่เสื่อมคลายของ คิมซารัง แม้จะอายุเกือบ 50 ปีแล้วก็ตาม
'ซ่าหริ่ม' ขนมไทยโบราณที่ยังนิยมอยู่ในยุคปัจจุบัน
สายแป้งเฮลั่น! วิจัยใหม่ "แก้ต่าง" ให้ขนมปังขาว ไม่ใช่ผู้ร้ายทำลายสุขภาพ กินถูกวิธีก็ดีต่อใจ
ค่าตัดผม
เพราะเหตุใดเมื่อฟังเพลงบางเพลง จะทำให้เรานึกถึง ‘ใครบางคน’ เพลงนั้นจึงช่วยปลุกความทรงจำในวันวาน
[ทาส กทม. ต้องอ่าน!] กฎหมายใหม่มาแล้ว! ไม่จดทะเบียน "หมา-แมว" เสี่ยงปรับครึ่งแสน!?




