หน้าบวม วิธีลดหน้าบวมอย่างเร่งด่วน ทำอย่างไรจึงเห็นผล

 

หน้าบวม เกิดจากอะไร

• การนอนหลับหลังตื่นนอน อาจสังเกตได้ว่าใบหน้ามีอาการบวมมากกว่าปกติ เกิดจากการนอนราบที่ทำให้ของเหลวไหลมาสะสมบริเวณใบหน้า มักเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นหากนอนน้อยหรือมากกว่าปกติ นอกจากนี้ ท่าทางการนอนก็อาจทำให้เกิดกักเก็บน้ำเพิ่มมากขึ้น อย่างเช่น ท่านอนคว่ำหน้า อาจทำให้อาการหน้าบวมแย่ลงได้

 

 

• เครื่องสำอาง  การไม่ลบเครื่องสำอางบนใบหน้าก่อนเข้านอนหรือลบไม่สะอาด อาจทำให้ผิวระคายเคืองจนเกิดผื่นแพ้สัมผัสที่อาจทำให้เกิดรอยแดง ผดผื่น รวมไปถึงใบหน้าและรอบดวงตาบวมได้เช่นกัน

 

• อาหาร  อาหารที่มีโซเดียมสูง อย่างเช่น อาหารฟาสต์ฟู้ด อาหารที่มีเกลือผสมในปริมาณสูง อาหารแปรรูป อาหารหมักดอง อาจส่งผลให้หน้าบวมได้ เนื่องจากโซเดียมทำให้ร่างกายเก็บกักน้ำมากขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมไปถึงบริเวณใบหน้า

 

 

• แอลกอฮอล์  การบริโภคแอลกอฮอล์ อย่างเช่น เบียร์ เหล้า จะทำให้ร่างกายขาดน้ำ ผิวหนังและอวัยวะต่าง ๆ จะพยายามกักเก็บน้ำเอาไว้ให้มากที่สุด ส่งผลให้เกิดอาการตัวบวมและหน้าบวม ทั้งยังอาจทำให้ดวงตาแดงก่ำ ตาแห้ง ผิวแห้ง อีกด้วย

 

• ยารักษาโรค  อาการหน้าบวมอาจเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด อย่างเช่น แอสไพริน เพนิซิลลิน (Penicillin) ซัลฟา (Sulfa) กลูโคคอร์ติคอยด์ (Glucocorticoid)

 

• ภาวะสุขภาพบางประการ อย่างเช่น ประจำเดือน การสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ อย่างเช่น ฝุ่น ควัน ละอองเกสรดอกไม้ โรคไซนัสอักเสบ โรคกุ้งยิงตา (ที่มีอาการบวมรอบดวงตา) ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ (Hypothyroidism) กลุ่มอาการคุชชิง (Cushing Syndrome) ภาวะครรภ์เป็นพิษ เนื้อเยื่อเซลล์อักเสบ การขาดสารอาหารอย่างรุนแรง ฝีหนองที่รากฟัน

 

 

วิธีลดหน้าบวม

• ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น ใช้น้ำแข็งประคบ ประคบเย็น ความเย็นจะช่วยให้เส้นเลือดหดตัวและลดอาการหน้าบวมได้ ให้นำผ้าสะอาดชุบน้ำเย็นหรือห่อน้ำแข็งมาประคบวนให้ทั่วใบหน้าหรือบริเวณที่ต้องการประมาณ 5-10 นาที หรือใส่น้ำแข็งเล็กน้อยลงในน้ำสะอาดที่ใช้ล้างหน้าในตอนเช้า จากนั้นก็ล้างหน้าตามปกติ อาจช่วยให้อาการบวมลดลงได้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำแข็งมาสัมผัสกับผิวโดยตรงเพราะหากน้ำแข็งไม่สะอาดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหน้าได้

 

• จำกัดการบริโภคแอลกอฮอล์ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้เลือดมีความเข้มข้นสูง ร่างกายต้องดึงน้ำจากเซลล์ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมาเจือจางแอลกอฮอล์ในเลือด ของเหลวจึงมาสะสมอยู่ในเลือดในปริมาณมาก ส่งผลให้บางส่วนของร่างกายเกิดอาการบวมได้ อย่างเช่น ใบหน้า หน้าท้อง เท้า แอลกอฮอล์ยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ เมื่อปัสสาวะบ่อย ๆ ร่างกายจึงขาดน้ำ การจำกัดการบริโภคแอลกอฮอล์ อาจช่วยลดอาการหน้าบวมได้ โดยทั่วไป ผู้ชายควรดื่มแอลกอฮอล์ไม่เกิน 2 แก้ว/วัน และผู้หญิงควรดื่มแอลกอฮอล์ไม่เกิน 1 แก้ว/วัน นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อทดแทนของเหลวที่สูญเสียไป

 

 

• ออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด อย่างเช่น วิ่งเหยาะ ๆ ปั่นจักรยาน เต้นแอโรบิค จะช่วยให้ของเหลวที่สะสมอยู่ตามใบหน้าไหลเวียนไปยังหลอดเลือด เป็นการช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น นับเป็นหนึ่งใน วิธีลดหน้าบวม ที่ให้ผลดี

 

• ปรับอิริยาบถและท่าทางในชีวิตประจำวัน ให้อยู่ในท่าที่ศีรษะอยู่เหนือระดับหัวใจจะช่วยให้ของเหลวไม่คั่งบริเวณใบหน้า รวมทั้งช่วยให้เลือดไหลเวียนตามปกติ อย่างเช่น นั่งเอน นอนหมอนสูง นวดคลึงเบา ๆ บริเวณที่มีอาการบวม อาจช่วยลดการสะสมของของเหลว ช่วยลดหน้าบวมได้เช่นกัน

 

 

• ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมลดอาการบวม ส่วนผสมในสกินแคร์ที่มีประสิทธิภาพช่วยลดอาการบวม คือ คาเฟอีน ชาเขียว วิตามินอี และ วิตามินซี อย่างเช่น มาส์กชาเขียว ครีมคาเฟอีน เพราะส่วนผสมเหล่านี้มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้หลอดเลือดหดตัวลง จึงช่วยลดอาการบวมได้ แถมยังช่วยลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก พร้อมเติมเต็มให้ผิวดูอิ่มฟูไปในตัวด้วย ผู้ที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย ควรทดสอบการแพ้บนผิวหนังบริเวณข้อพับก่อนใช้ หรือควรปรึกษาเภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำและวิธีการใช้ที่ถูกต้อง

 

• ใช้อุปกรณ์นวดหน้า อย่างเช่น "ลูกกลิ้งหินหยก" หรือ "หินกัวชา" เมื่อทาสกินแคร์เรียบร้อยแล้วให้ใช้อุปกณ์พวกนี้นำมานวดหน้า โดยไล่ตั้งแต่บริเวณหน้าผาก โหนกแก้ม ใต้ตา ลงมาจนถึงกราม นวดแบบนี้ประมาณ 10–15 รอบ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้ทำงานดีขึ้น จะลดอาการบวมหน้าลงได้

 

 

• ดื่มน้ำให้มาก ๆ เมื่อร่างกายขาดน้ำ เซลล์และเนื้อเยื่อของร่างกายจะดูดซับน้ำและกักเก็บไว้ อาจทำให้เกิดอาการบวมได้ การดื่มน้ำเข้าไป เซลล์จะปล่อยน้ำที่กักเก็บไว้และช่วยให้อาการบวมลดลง ควรดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว

 

• เมกอัพช่วยได้ ลองใช้เทคนิคการแต่งหน้าที่จะช่วยอำพรางความบวมได้ โดยใช้วิธีการเฉดดิ้งหรือคอนทัวร์ ควรลงสีที่เข้มกว่าผิวจริง 1-2 เฉด ในบริเวณที่อยากให้ดูแคบลง อย่างเช่น ข้างแก้ม สันกรามไปจนถึงเหนียง เพื่อสร้างเงาและมิติบนใบหน้า