หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

10 อันดับ ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจ (GDP) ใหญ่ที่สุดในโลก 2024 ประเทศไทยอยู่อันดับที่เท่าไหร่?

โพสท์โดย nmchobpost

10 อันดับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจ หรือ GDP ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ใหญ่ที่สุดในโลก ข้อมูลปี 2024 ประเทศไทยอยู่อันดับที่เท่าไหร่ของโลก?

 

อันดับที่ 1 : สหรัฐอเมริกา 

ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกามีขนาดเศรษฐกิจ คิดเป็น 26% ของเศรษฐกิจโลก ในปี 2024 โดยมีขนาดเศรษฐกิจ 29.168 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 1 ของโลก ตั้งแต่ปี 1960 (พ.ศ.2503) จนถึงปัจจุบัน อัตรการเติบโต 2.6% ต่อปี ระบบเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐมีเทคโนโลยีขั้นสูง เป็นแหล่งปิโตรเลียมเหล็กและพลังงานอีกมากมาย และ เทคโนโลยีที่ทำให้สหรัฐมีความก้าวหน้ายั่งยืน มีอุตสากรรมยานยนต์ การบินและอวกาศ รวมถึง ธุรกิจการเกษตร , อิเล็กทรอนิกส์ , การโทรคมนาคม ที่ทำให้สหรัฐเป็นประเทศที่มีขนาด GDP ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลก และมี GDP ต่อหัวอยู่ที่ ประมาณ 86,601 ดอลลาร์สหรัฐซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต้นๆของโลกเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆทั่วโลก

 

อันดับที่ 2 : จีน

 

อีกหนึ่งประเทศมหาอำนาจของโลกที่เป็นคู่แข่งของสหรัฐอเมริกา คือประเทศจีน อัตราการเติบโตคิดเป็น 5.0% ต่อปี จีน มีขนาดเศรษฐกิจ (GDP) อยู่ที่ 18.273 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ  ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐ คิดเป็น 19% ของเศรษฐกิจโลก  ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่ได้รับการสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลี จีนได้เพิ่มความพยายามในการกระตุ้นการลงทุน และการบริโภค ในประเทศ โดยมีการคาดการณ์ว่าภาคบริการและอุตสาหกรรมใหม่ เช่น วัสดุและพลังงานใหม่จะเติบโตอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า สินค้าส่งออกหลักของจีนประกอบด้วย สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ , เครื่องจักร , ยานยนต์ , อุปกรณ์การแพทย์และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน GDP ต่อหัวของจีนอยู่ที่ประมาณ 12.968 ดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยังคงดำเนินต่อไปแม่ว้าจะมีการชะลอตัวลงบ้างในช่วงที่ผ่านมา

 

อันดับที่ 3 : เยอรมนี

 ประเทศเยอรมนี มีอัตรการเติบโตของ GDP 0.2% ต่อปีมีการหดตัวเล็กน้อย ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของสหภาพยุโรปมีขนาดเศรษฐกิจ (GDP) อยู่ที่ 4.710 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ระบบเศรษฐกิจของเยอรมนีให้ความสำคัญกับการส่งออกเป็นอย่างมาก และมีชื่อเสียงในด้านวิศวกรรม ยานยนต์ เคมี และเภสัชกรรม เศรษฐกิจของเยอรมนีกำลังประสบกับการเติบโตช้าลงของเศรษฐกิจ เนื่องจากความท้าทายทางด้านโครงสร้าง เช่น ต้นทุนพลังงานสูงขึ้น และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากจีน แต่เยอรมนีมีการบริโภคภาคเอกชนที่แข็งแกร่งและอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงจะช่วยหนุนเศรษฐกิจให้กลับมาเติบโตอีกครั้งในระยะกลาง ซึ่งเยอรมนีมี GDP ต่อหัวอยู่ที่ 55,521 ดอลลาร์สหรัฐ เยอรมนีมีความเชี่ยวชาญด้านโครงการวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่ง รวมถึงส่งเสริมนวัตกรรม ตลอดจนความมุ่งมั่นที่ชัดเจน

 

อันดับที่ 4 : ญี่ปุ่น

อัตราการเติบโตของ (GDP) อยู่ที่ 1.2-1.5% มีขนาดเศรษฐกิจ 4.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับว่าชะลอตัวเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า เนื่องจากปัจจัยหลายด้าน เช่น ความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลก การส่งออกที่ยังคงอ่อนแอ และภาวะเงินเฟ้อที่สูง ญี่ปุ่นมีระบบเศรษฐกิจที่โดดเด่นเป็นปัจจับทำให้เทรโนโลยีก้าวหน้า ความสามารถในการผลิต และอุตสาหกรรมการบริการ ภาคส่วนสำคัญ ได้แก่ ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักร และการเงิน ญี่ปุ่นมี GDP ต่อหัวอยู่ที่ 33,138 ดอลลาร์สหรัฐ ญี่ปุ่นได้รับการยกย่องในด้านจรรยาบรรณ ในการทำงานที่แน่วแน่ การบุกเบิกความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและส่งออกสินค้าคุณภาพที่ยอดเยี่ยม

 

อันดับที่ 5 : อินเดีย

ในปี 2024 อินเดียมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 7% มีขนาดเศรษฐกิจ (GDP) 3.89 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของโลก อินเดียมีการบริโภคที่ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบทของอินเดีย มีส่วนสำคัญต่อการเติบโตนี้ ระบบเศรษฐกิจของอินเดียมีความหลากหลายและมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีการสนับสนุนเศรษฐกิจในหลายภาคส่วน อินเดียยังมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในไตรมาส 3 ของปีงบประมาณ 2023-2024 โดยเฉพาะในภาคบริการและภาคอุตสาหกรรม โดย GDP ต่อหัวอยู่ที่ 2,730 ดอลล่าร์สหรัฐ นับว่ามีรายได้ต่อหัวที่น้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆทั่วโลก นอกจากนี้อินเดียยังใช้ประโยชน์จากการตลาดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่แรงงานที่อายุน้อยและเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่กำลังขยายตัว

 

อันดับที่ 6 : สหราชอาณาจักร

ประเทศอังกฤษมีอัตราการเติบโตของ GDP อยู่ที่ 1.1% มีขนาดเศรษฐกิจ (GDP) 3.588 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับที่ 6 ของโลก การเติบโตนี้ตามมาหลังจากช่วงเวลาของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดยมีปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโต เช่น ภาวะเงินเฟ้อและการเติบโตที่ช้าช่วงปลายปี 2023 อังกฤษมี GDP ต่อหัวอยู่ที่ 52,423 ดอลลาร์สหรัฐ เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรประกอบด้วย การผสมผสานของภาคบริการ ภาคการผลิต และภาคการเงิน ลอนดอนเป็นศูนย์กลางทางการเงินทั่วโลกที่ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเป็นจำนวนมากขณะที่ พันธมิตรทางการค้ายังส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรด้วย

 

อันดับที่ 7 : ฝรั่งเศส 

อัตราการเติบโตของ GDP 0.9% ต่อปี มีขนาดเศรษฐกิจ GDP 3.130 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่ในอันดับที่ 7 ของโลก แต่การเติบโตในปีนี้จะชะลอตัวลงเล็กน้อยลงจากปีที่แล้ว โดยการเติบโตในปี 2024 จะได้รับแรงหนุนจากการบริโภคของภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นหลังจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง GDP ต่อหัว อยู่ที่ 47,369 ดอลลาร์สหรัฐ ระบบเศรษฐกิจของฝรั่งเศสมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการกระจายความหลากหลาย และให้ความสำคัญอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การบินและอวกาศ การท่องเที่ยว สินค้าหรูหรา และการเกษตร ฝรั่งเศสยังมีระบบสวัสดิการสังคมที่แข็งแกร่งโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาที่ดี

 

อันดับที่ 8 : อิตาลี

อิตาลีมีอัตราการเติบโตของ GDP 0.7 ต่อปี มีขนาดเศรษฐกิจ GDP อยู่ที่ 2.328 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ใหญ่เป็นอันดับที่ 8 ของโลก เป็นอันดับสามในสหภาพยุโรป ซึ่งมีการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากปีก่อน โดยการเติบโตนี้จะได้รับการสนับสนุนจากความต้องการในประเทศและการส่งออกที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้ โดย GDP ต่อหัวอยู่ 39,580 ดอลลาร์สหรัฐ อิตาลีมีตลาดที่พัฒนาเป็นอย่างมาก ประเทศนี้เป็นที่รู้จักในด้านภาคธุรกิจที่เป็นผู้บุกเบิกและมีอิทธิพล ทั้งยังมีอุตสาหกรรมทางการเกษตรที่สามารถแข่งขันได้

 

อันดับที่ 9 : บราซิล 

อัตราการเติบโตของ GDP 2.1% ต่อปี บราซิลมีขนาดเศรษฐกิจ GDP อยู่ที่ 2.190 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าเติบโตในอัตราที่ค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับปี 2023 ที่เติบโต 2.9% สาเหตุหลักมาจากผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่สูงและความท้าทายจากเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม การส่งออกจากภาคการเกษตรและเหมืองแร่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของ GDP โดย GDP ต่อหัวอยู่ที่ 10,352 ดอลล่าร์สหรัฐ บราซิลยังเป็นศูนย์กลางการผลิตและการส่งออกทางการเกษตรที่สำคัญของโลก การบริโภคภายในประเทศ และการพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐาน ต่างมีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

 

อันดับที่ 10 : แคนาดา 

ประเทศแคนาดามีอัตราการเติบโตของ GDP 1.3% ต่อปี ขนาดเศรษฐกิจ GDP ของประเทศ อยู่ที่ 2.215 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการเติบโตที่ช้าลงจากปีก่อน ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของ GDP ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยที่สูง ซึ่งส่งผลให้มีความชะลอตัวในการใช้จ่ายของ ครัวเรือนและการลงทุนในธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยกระบวนการส่งออก โดยเฉพาะภาคพลังงานและยานยนต์ แม้จะมีความท้าทายจากเงินเฟ้อและหนี้สินของครัวเรือน แต่เศรษฐกิจของแคนาดาจะค่อยๆฟื้นตัวในช่วงปลายปี โดย GDP ต่อหัวอยู่ที่ 53,834 ดอลล่าร์สหรัฐ ระบบเศรษฐกิจของแคนาดาพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ รวมถึงน้ำมันก๊าซ แร่ธาตุต่างๆและไม้ นอกจากนี้ยังมีการบริโภคที่เจริญรุ่งเรือง อุตสาหกรรมผลิตที่มั่นคง มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการส่งเสริมนวัตกรรมอย่างแน่วแน่

• แล้วประเทศไทยอยู่อันดับที่เท่าไหร่ของโลก?

ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 32 ของโลก

อัตราการเติบโตของ GDP ไทยอยู่ที่ 2.4% มีขนาดเศรษฐกิจ GDP 548.89 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจ GDP อยู่อันดับที่สองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากอินโดนีเซีย ตามการคาดการณ์นับว่าชะลอตัวและฟื้นตัวค่อนข้างช้าเศรษฐกิจไทย เกิดจากความท้าทายใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลต่อการค้า การบริการและการท่องเที่ยวของไทย ความท้าทายเรื่องภาคการคลัง ในช่วงหลังโควิด-19 การลงทุนของไทยติดลบมาก ความท้าทายเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจ โดย GDP ต่อหัวอยู่ที่ 7,812 ดอลลาร์สหรัฐ โดยการส่งออกหลักของไทยคือ อุตสาหกรรมยานยนต์ การบริการทางการเงิน เครื่องใช้ไฟฟ้า และการท่องเที่ยวเป็นหลัก ซึ่งการโทรคมนาคมและการค้าบริการกำลังก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการขยายตัวของอุตสาหกรรม ประเทศไทยถูกยกย่องว่าเป็น หนึ่งในเรื่องราวความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในด้านการพัฒนา ในด้านการพัฒนาและทางสังคม แต่ในตอนนี้ภาคอุตสาหกรรมแลการบริการ เป็นภาคส่วนหลักของประเทศ 

โพสท์โดย: nmchobpost
อ้างอิงจาก: วิกิพีเดีย , Indianexpress , ทันข่าวทูเดย์
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
nmchobpost's profile


โพสท์โดย: nmchobpost
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
9 VOTES (4.5/5 จาก 2 คน)
VOTED: เป็ดปักกิ่ง, nmchobpost
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เกิดเหตุเครนล้มทับรางรถไฟฟ้า ก่อนรถไฟฟ้าวิ่งมาชนเละ ที่เซี่ยงไฮ้เลขเด็ด "แม่นมาก ขั้นเทพ" งวดวันที่ 2 มกราคม 68 มาแล้ว!..อยากรวย มาส่องกันเลย!!ทุเรียนฟีเวอร์ในจีน! ทำไมคนจีนถึงคลั่งรักทุเรียนหนักมาก นำเข้าปีที่แล้วทะลุ 2 แสนล้านบาท!เขาพระวิหาร: สัญลักษณ์แห่งความงดงามและความขัดแย้งTesla เรียกคืนรถยนต์3 รุ่น เกือบ 700,000 คันสรุปดราม่าลิปสติกกับบทเรียนของ "เพชรปากปลาร้า"เด็กไทยไม่ธรรมดา น้องไนท์วัย 8 ขวบ ช่างสักมือทองที่ดังไกลระดับโลกอุรัสยา เสปอร์บันด์ คว้าตำแหน่งดาราที่ถูกค้นหามากที่สุดบน Google ปี 2567 อีกครั้ง!"4 ราศี รวยไม่หยุด เตรียมรับดาวใหญ่ที่มาพร้อมกับเงินก้อนใหญ่ปี 2568แบมแบมถูกกลั่นแกล้งเรื่องรูปลักษณ์ และถูกกล่าวหาว่าทำศัลยกรรม แต่เขากลับตอบโต้ได้อย่างเจ็บแสบ ทำให้แฟนคลับเฮลั่น!มายาลิฟเฟลล์ : ภูเขาไฟสีมรกตแห่งไอซ์แลนด์สาวอินเดียถูกด่าหลังเอาขนมปังมาทำเสื้อ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สรุปดราม่าลิปสติกกับบทเรียนของ "เพชรปากปลาร้า"เด็กไทยไม่ธรรมดา น้องไนท์วัย 8 ขวบ ช่างสักมือทองที่ดังไกลระดับโลกทุเรียนฟีเวอร์ในจีน! ทำไมคนจีนถึงคลั่งรักทุเรียนหนักมาก นำเข้าปีที่แล้วทะลุ 2 แสนล้านบาท!Tesla เรียกคืนรถยนต์3 รุ่น เกือบ 700,000 คันแบมแบมถูกกลั่นแกล้งเรื่องรูปลักษณ์ และถูกกล่าวหาว่าทำศัลยกรรม แต่เขากลับตอบโต้ได้อย่างเจ็บแสบ ทำให้แฟนคลับเฮลั่น!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ทั่วไป
3 ขั้นตอน จัดบ้านรับปีใหม่ เสริมสิริมงคล ให้ปัง ตลอดทั้งปีอาหาร 7 ชนิดที่คนท้องเสียไม่ควรกินเคล็ดลับ บำรุงผิวหน้าหนาว แก้ปัญหา “ผิวแตก” ดูแลผิวให้ชุ่มชื้นตลอดวันสาวป่วยน้ำหนักลด และชอปปิ้งออนไลน์อย่างบ้าคลั่ง แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคหายาก
ตั้งกระทู้ใหม่