ตารางเมนูอาหาร 7 วันสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมความดันโลหิต โดยยึดหลักอาหาร DASH (Dietary Approaches to Stop Hypertension)
การควบคุมอาหารสำหรับผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงมีความสำคัญอย่างมากเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งการรับประทานอาหารที่เหมาะสมสามารถช่วยควบคุมความดันโลหิตได้ มีแนวทางการรับประทานอาหารที่แนะนำดังนี้:
1. ลดการบริโภคเกลือและโซเดียม: ลดเกลือในอาหารให้น้อยกว่า 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน (ประมาณ 1 ช้อนชา) แต่ถ้าเป็นไปได้ควรลดให้น้อยกว่า 1,500 มิลลิกรัม โดยเลือกใช้เครื่องปรุงที่มีโซเดียมน้อย เช่น ซีอิ๊วแบบลดเกลือ
2. กินผักและผลไม้ให้เพียงพอ: ผักและผลไม้มีโพแทสเซียมสูงซึ่งจะช่วยขับโซเดียมออกจากร่างกายได้ เลือกทานผลไม้สดหรือผักสดให้หลากหลาย เช่น กล้วย มะเขือเทศ ส้ม และแคนตาลูป
3. หลีกเลี่ยงอาหารไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลสูง: ลดอาหารทอดหรืออาหารที่มีไขมันสูง หลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอล เช่น เนื้อสัตว์แปรรูป นมไขมันเต็ม
4. เพิ่มการบริโภคไขมันที่ดี: เลือกไขมันไม่อิ่มตัวที่มีประโยชน์ เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนลา อโวคาโด และถั่วต่างๆ
5. ทานอาหารที่มีเส้นใยสูง: เส้นใยอาหารช่วยควบคุมน้ำหนักและช่วยในการลดความดันเลือด อาหารที่มีเส้นใยสูง เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลเกรน และถั่ว
6. ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: ควรลดการดื่มแอลกอฮอล์หรือหลีกเลี่ยงเลย เพราะแอลกอฮอล์สามารถเพิ่มความดันโลหิตได้
7. ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำเพียงพอจะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดความดันโลหิตสูง
8. เลี่ยงอาหารสำเร็จรูปและอาหารจานด่วน: อาหารเหล่านี้มักมีโซเดียมและไขมันสูง ควรหลีกเลี่ยงและหันมาเลือกอาหารที่ปรุงสดใหม่แทน
ตัวอย่างอาหารที่ดีสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง:
ข้าวโอ๊ตกับผลไม้สดและอัลมอนด์
สลัดผักสดกับน้ำมันมะกอกและถั่วต่างๆ
เนื้อปลา เช่น แซลมอน ทูน่า ย่างหรืออบโดยไม่ใส่เกลือ
สมูทตี้ผลไม้รวม (ไม่ใส่น้ำตาลเพิ่ม)
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอย่างค่อยเป็นค่อยไปจะช่วยให้สามารถควบคุมความดันโลหิตได้ดีในระยะยาว
นี่คือตัวอย่างตารางเมนูอาหาร 7 วันสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมความดันโลหิต โดยยึดหลักอาหาร DASH (Dietary Approaches to Stop Hypertension) ซึ่งเน้นการลดโซเดียมและเพิ่มผักผลไม้:
วันจันทร์
เช้า: ข้าวโอ๊ตต้มกับนมอัลมอนด์ ผลไม้สด (กล้วยหรือเบอร์รี่) และอัลมอนด์โรยหน้า
กลางวัน: สลัดผักใบเขียวกับเนื้ออกไก่ย่าง น้ำมันมะกอกเล็กน้อย
เย็น: ปลาแซลมอนย่างกับหน่อไม้ฝรั่งและแครอทย่าง มันฝรั่งต้ม
วันอังคาร
เช้า: โยเกิร์ตไขมันต่ำกับผลไม้สด (เช่น มะละกอและแอปเปิล) และถั่ววอลนัท
กลางวัน: ข้าวกล้องกับต้มจืดเต้าหู้ ผักกาดขาว และเห็ด
เย็น: สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศใส่ผักโขมและมะเขือเทศสด กับเนื้อปลาอบ
วันพุธ
เช้า: ขนมปังโฮลวีททาอะโวคาโดบด โรยเมล็ดเจียและผักสด
กลางวัน: ผัดบร็อคโคลี่ แครอท และเต้าหู้กับข้าวกล้อง
เย็น: สเต็กไก่ย่างเสิร์ฟกับสลัดผักและน้ำสลัดใสเล็กน้อย
วันพฤหัสบดี
เช้า: สมูทตี้ผักผลไม้ (เช่น ผักโขม กล้วย ส้ม และน้ำมะพร้าว)
กลางวัน: สลัดทูน่ากับผักต่างๆ เช่น แตงกวา แครอท พริกหวาน และมะเขือเทศ
เย็น: มันเทศอบกับผักรวมย่างและถั่วแดง
วันศุกร์
เช้า: ข้าวโอ๊ตต้มกับผลไม้สด (เบอร์รี่และกล้วย) โรยอัลมอนด์
กลางวัน: ข้าวกล้อง ผัดผักรวมมิตร (บร็อคโคลี่ เห็ด พริกหยวก) และเต้าหู้
เย็น: แกงเลียงผักรวมกับข้าวกล้องและเนื้อไก่ไม่ติดหนัง
วันเสาร์
เช้า: โยเกิร์ตไขมันต่ำกับเมล็ดเจียและผลไม้สด (แอปเปิลหรือกล้วย)
กลางวัน: สลัดผักรวมใส่ถั่วลูกไก่ อะโวคาโด และน้ำสลัดใส
เย็น: ปลาอบโรสแมรี่กับหน่อไม้ฝรั่งและมันหวาน
วันอาทิตย์
เช้า: สมูทตี้เบอร์รี่รวม (เช่น บลูเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่) กับนมอัลมอนด์
กลางวัน: ข้าวกล้อง ผัดผักรวมเต้าหู้ และถั่วต่างๆ
เย็น: สเต็กไก่อบกับผักรวม (เช่น แครอท บร็อคโคลี่ มะเขือเทศ)
การรับประทานตามตารางนี้จะช่วยลดโซเดียม เพิ่มโพแทสเซียมและแมกนีเซียม ทั้งยังเน้นเส้นใยอาหารสูงเพื่อช่วยควบคุมความดันโลหิต