จริงหรือไม่!! "อาบน้ำเย็น" ช่วยป้องกันหวัดได้
จริงหรือไม่!! "อาบน้ำเย็น" ช่วยป้องกันหวัดได้
จากหนังสือ 100 วิธี รับมือโรคหวัด (HEALTH CARE FOR INFLUENZA) เขียนโดย หลินอิงชิน และคณะ กล่าวว่า
การอาบน้ำเย็น โดยทั่วไปหมายถึงอุณหภูมิของน้ำอยู่ระหว่าง 10-21 องศาเซลเซียส ผู้ที่เคยชินกับการอาบน้ำอุ่น เมื่อเริ่มอาบน้ำเย็นอาจจะหนาวสั่น แต่พอผ่านไปก็จะรู้สึกอุ่นขึ้น เนื่องจากเมื่อตัวเรากระทบน้ำเย็น หลอดเลือดที่ผิวหนังจะหดตัว แต่หลอดเลือดที่หดตัวนี้จะขยายออกทันที จึงเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ช่วยแก้ปัญหามือเท้าเย็นได้
ด้วยหลักการดังกล่าว การอาบน้ำเย็นเป็นประจำจึงช่วยแก้ปัญหาการไหลเวียนเลือด เพิ่มภูมิคุ้มกันสามารถป้องกันโรคหวัดได้
หากฝึกทุกวันจนทนความหนาวได้ หลังจากอาบน้ำแล้วอาจแช่น้ำเย็นวันละ 5 นาที จะได้ผลดีขึ้น ในฤดูหนาวอาจอาบน้ำอุ่นและน้ำเย็นสลับกัน เป็นผลดีต่อสุขภาพ
เทคนิคการอาบน้ำเย็นในฤดูหนาว
หากอากาศหนาวจนไม่กล้าอาบหรือแช่น้ำเย็น ให้ใช้วิธีดังนี้
- เริ่มจากเช็ดตัวด้วยน้ำเย็น ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นบิดให้หมาดเริ่มจากเซ็ตแขนที่ยกสูง สู่หน้าอก ท้อง แล้วเริ่มเช็ดจากข้อเท้าขึ้นบนจนถึงส่วนท้อง ท้ายสุดจึงเช็ดแผ่นหลัง หลังจากเช็ดด้วยผ้าเปียกเสร็จให้ใช้ผ้าขนหนูแห้ง (ควรใช้ผ้าที่ค่อนข้างหนา) ถูตัวแรงๆให้แห้ง
- เปิดน้ำร้อนใส่อ่างก่อนเพื่อให้มีไอร้อนทั่วห้อง ทำให้อุณหภูมิห้องสูงขึ้น
- ทางที่ดีควรฝึกอาบน้ำเย็นจนเป็นนิสัยตั้งแต่ฤดูร้อน
นอกจากนี้ การแช่อาบด้วยน้ำมันหอมระเหย เป็นวิธีที่ดีในการรักษาหวัด การแช่อาบเป็นอีกวิธีหนึ่งในการดูดซึมน้ำมันหอมระเหยผ่านผิวหนัง โดยหยดน้ำมันหอมระเหยลงในอ่างอาบน้ำ น้ำมันหอมระเหยไม่เพียงแต่ซึมผ่านผิวหนัง ไอร้อนยังช่วยให้น้ำมันหอมระเหยฟุ้งกระจาย และเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการพูดดม ผู้ป่วยโรคหวัดควรใช้วิธีแช่อาบ แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีไข้ เพราะอาจทำให้อ่อนเพลียมากขึ้น
อ้างอิงจาก: หนังสือ 100 วิธี รับมือโรคหวัด (HEALTH CARE FOR INFLUENZA) เขียนโดย หลินอิงชิน และคณะ