หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ผลไม้เมืองร้อนที่ห้ามกินตอนท้องว่าง

เนื้อหาโดย good4289

เมืองไทยเป็นเมืองร้อนสามารถหาผลไม้ต่างๆทานได้อย่างง่ายดาย ซึ่งผลไม้เป็นทางเลือกหนึ่งที่คนรักสุขภาพนิยมทานกัน แต่ผลไม้บางชนิดไม่แนะนำให้ทานตอนท้องว่างเพราะแทนที่จะได้รับประโยชน์จากผลไม้กลายเป็นว่ากระเพาะอาหารอาจจะได้รับอันตรายแทน ตัวอย่างของผลไม้ยอดนิยมได้แก่

 

1.กล้วยหอม

หลายคนชอบรับประทานกล้วยหอมก่อนออกกำลังกาย เพราะให้พลังงาน วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ แต่ไม่แนะนำให้ทานกล้วยหอมตอนท้องว่าง เพราะในกล้วยหอมมีแมกนีเซียมสูง เมื่อทานตอนท้องว่างจะทำให้ระดับแมกนีเซียมในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดภาวะไม่สมดุลของแร่ธาตุภายในร่างกาย ส่งผลเสียต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด

นอกจากนี้ กล้วยหอมยังมีน้ำตาลสูง กระตุ้นให้กระเพาะหลั่งกรด ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก แน่นท้อง ย่อยยาก และในระยะยาวอาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ แนะนำให้ทานกล้วยหอมหลังอาหาร 1-2 ชั่วโมง หรือทานร่วมกับอาหารอื่น ๆ เพื่อลดผลกระทบต่อกระเพาะอาหาร

 

2.ผลไม้ตระกูลส้ม

ส้มเป็นผลไม้ที่หลายคนชอบโดยเฉพาะสาวๆเพราะส้มเป็นแหล่งวิตามินซีที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ และทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แต่ในส้มมีกรดซิตริกและกรดแอสคอร์บิกสูง เมื่อทานตอนท้องว่าง กรดจะไปกระตุ้นเยื่อบุกระเพาะอาหาร ทำให้รู้สึกแสบร้อนและปวดท้อง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นแผลในกระเพาะอาหาร โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาโรคกระเพาะ การทานส้มตอนท้องว่าง อาจทำให้แผลในกระเพาะมีอาการรุนแรงขึ้น แนะนำให้ทานส้มหลังอาหาร 1-2 ชั่วโมง

 

3.สับปะรด

สับปะรดผลไม้รสหวานอมเปรี้ยว เป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่ไม่แนะนำให้ทานตอนท้องว่าง เพราะสับปะรดมีเอนไซม์ไบรมีเลน ซึ่งมีฤทธิ์ในการย่อยโปรตีน หลายคนแสบลิ้นก็เพราะเอนไซม์ตัวนี้ไปย่อยเนื้อเยื่อในปาก ดังนั้นถ้าทานสับปะรดตอนท้องว่าง จะทำให้เอนไซม์นี้ไปย่อยเยื่อบุกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดการระคายเคือง เป็นแผล และนำไปสู่อาการต่างๆ เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ แสบร้อนกลางอก ท้องเสีย ซึ่งเป็นอันตรายโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหาร แนะนำให้ทานสับปะรดหลังมื้ออาหารประมาณ 2-3 ชั่วโมง หั่นสับปะรดเป็นชิ้นเล็กๆ ตัดส่วนแกนแข็ง ๆ ออก และแช่ในน้ำเกลืออ่อนๆ ก่อนทาน เพื่อลดปริมาณเอนไซม์บรอมีเลน

 

4.ลิ้นจี่

ผลไม้รสชาติหวานอร่อย กินแล้วสดชื่น แต่ลิ้นจี่มีน้ำตาลสูง การทานลิ้นจี่ตอนท้องว่างจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน ส่งผลให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย หรือแม้กระทั่งเป็นลมหมดสติ นอกจากนี้ น้ำตาลที่ได้จากการทานลิ้นจี่จะถูกย่อยสลายอย่างรวดเร็วในขณะท้องว่าง ทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร ส่งผลให้เกิดอาการท้องอืด แน่นท้อง และรู้สึกไม่สบาย แนะนำให้ทานลิ้นจี่หลังมื้ออาหาร เมื่อมีอาหารอยู่ในกระเพาะแล้ว

เนื้อหาโดย: good4289
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
good4289's profile


โพสท์โดย: good4289
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: อ้ายเติ่ง
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่งช่องอานม้าแตก! ทหารไทยรุกยึดบังเกอร์ ปักธงชาติคืนพื้นที่ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกรายBBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลกอาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มิตรภาพใต้สมุทร เมื่อ "วาฬเพชฌฆาต" จับมือ "โลมา" ร่วมทีมล่าล่าเหยื่อส่อง 10 เลขดังประเดิมปีใหม่! แนวทางแม่ทำเนียนลอตเตอรี่ งวดวันที่ 2 มกราคม 2569
กระทู้อื่นๆในบอร์ด อาหาร
ชายวัย 60 ปี กินแต่ "ของต้ม" หวังสุขภาพดี แต่กลับมีปัญหาสมองตื้อและความจำเสื่อมยายทวดวัย 100 ปี เปลี่ยนมาเป็นฟู้ดบล็อกเกอร์ กินอาหารหลากหลาย เช่น ชานมและหม่าล่า พร้อมเผยเคล็ดลับการมีอายุยืนที่ทุกคนทำได้แพทย์ระบบประสาทเตือนว่า 3 อาหารยอดฮิตที่กินบ่อยอาจทำลายสมองและเสี่ยงต่อการสมองเสื่อมโดยไม่รู้ตัวร้านอาหาร ชลธาร กำแพแสน จ.นครปฐม
ตั้งกระทู้ใหม่