วิธีเพิ่มสมรรถภาพเพศชาย ทำได้ง่าย ๆ ได้ด้วยตนเอง
1.หยุดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ มีส่วนสำคัญในการทำลายหลอดเลือด ส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ รวมไปถึงการไหลเวียนเลือดไปยังอวัยวะเพศด้วย ผลที่ตามมาจึงทำให้น้องชายแข็งตัวได้ไม่เต็มที่ และนำไปสู่การหย่อนสมรรถภาพทางเพศในที่สุด
นิโคตินในบุหรี่ เป็นศัตรูตัวร้ายกับฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทสเตอโรน) มันทำให้ฮอร์โมนเพศชายลดลง ทำให้เกิดการรวมตัวของกรดไขมันในเลือดเพิ่มขึ้น จากผลของการรวมตัวของกรดไขมันเพิ่มขึ้นนี้ ทำให้มันไปอุดตันเส้นเลือดเล็ก ๆ ที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศชาย จะสังเกตได้ว่า ผู้ชายที่สูบบุหรี่จัด มักจะมีปัญหาเรื่องการเเข็งตัวของอวัยวะเพศ ในบางราย อวัยวะเพศไม่แข็งตัวเลยด้วย และยังมีสารพิษอีกหลายชนิดในบุหรี่ที่ส่งผลให้อสุจิลดลง
แอลกอฮอล์ หากดื่มในปริมาณที่มากจนเกินไป ส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนเพศชาย ทำให้บางรายที่ทั้งดื่มทั้งสูบและไม่ออกกำลังกาย เกิดภาวะเสื่อมสรรถภาพทางเพศก่อนวัย อสุจิลดลงและไม่แข็งแรง
2.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีสารอาหารช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ
การรับประทานอาหารดี ๆ เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยเพิ่มความแข็งแรง และบำรุงระบบสืบพันธุ์ มีอาหารหลายอย่างมากที่มีส่วนช่วยในการเสริมสมรรถภาพเพศชายให้ดีขึ้น อย่างเช่น ผักโขม ดาร์กช็อกโกแลต ปลาแซลมอน หอยนางรม กระเทียม เป็นต้น
3.ดูแลสุขภาพหลอดเลือดให้แข็งแรง
วิธีการดูแลสุขภาพหลอดเลือดให้แข็งแรง สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทั้งแบบคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่ง รวมกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
4.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ถ้าคุณอยากมีสุขภาพเพศชายที่แข็งแรง การให้ความสำคัญกับคุณภาพการนอนหลับจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยการนอนหลับที่มีคุณภาพ ควรนอนหลับให้ได้วันละ 7 – 8 ชั่วโมงต่อวัน และมีครบทุกระยะวงจรการหลับ ไม่ว่าจะเป็น
หลับตื้น : เป็นช่วงที่ร่างกายเข้าสู่การหลับ แต่ยังไม่มีการฝัน
หลับลึก : หรือนอนหลับสนิท เป็นช่วงที่ร่างกายเข้าสู่โหมดพักผ่อน ใช้เวลาประมาณ 30 – 60 นาที โดยอุณหภูมิร่างกายและความดันโลหิตจะลดลง อัตราการเต้นของหัวใจเหลือเพียง 60 ครั้งต่อนาที และโกรทฮอร์โมนจะหลั่งออกมา
หลับฝัน : เป็นช่วงที่ร่างกายพักผ่อน แต่สมองยังตื่นตัวอยู่
หากนอนไม่ครบทุกวงจรการนอนหลับ แม้ว่าจะนอนมากกว่า 7 – 8 ชั่วโมง ก็อาจทำให้ตื่นมาแล้วไม่สดชื่น หรือไม่กระปรี้กระเปร่าได้
5.หมั่นกระตุ้นอวัยวะเพศชายเป็นประจำ
อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะช่วยให้สุขภาพทางเพศดีขึ้นได้ เนื่องจากมีเลือดเข้าไปหล่อเลี้ยงอวัยวะเพศชายและต่อมลูกหมากเป็นจำนวนมากนั่นเอง
6.เพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
การมีกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานที่แข็งแรง สามารถช่วยแก้ปัญหาหลั่งเร็ว และทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวได้ดีขึ้นได้ สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยขั้นตอนต่อไปนี้
- หาตำแหน่งกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน โดยการถอดเสื้อผ้า ยืนหน้ากระจก แล้วลองขมิบก้นดู ถ้าขมิบได้ถูกต้อง จะสามารถสังเกตเห็นการหดตัวขององคชาตในลักษณะเคลื่อนเข้าสู่แกนกลางลำตัว และมีการยกขึ้นของถุงอัณฑะ
- หลังจากนั้นให้ขมิบเหมือนพยายามจะกลั้นปัสสาวะ แล้วจินตนาการว่า กำลังพยายามยกถุงอัณฑะขึ้น และบังคับให้องคชาตเคลื่อนเขาสู่แกนกลางลำตัว
- เกร็งค้างประมาณ 8 วินาที พักประมาณ 8 วินาที แล้วทำวนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ
- ทำ 8 – 12 ครั้งต่อเซ็ต ฝึกทำวันละ 3 เซ็ต และพยายามทำเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้มีกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานที่แข็งแรงขึ้นได้
7.หมั่นบริหารจัดการความเครียดให้ดี
ความเครียดและความวิตกกังวล ทำให้ร่างกายและจิตใจไม่อยากคิดเรื่องมีเพศสัมพันธ์ ฮอร์โมนความเครียดส่งผลกระทบต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ทำให้เกิดภาวะต่อมหมวกไตล้า นอนไม่หลับ เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
วิธีบริหารจัดการความเครียดง่าย ๆ
- ออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ หรือห้างสรรพสินค้า เพื่อเปิดหูเปิดตาและเพิ่มความผ่อนคลาย
- โทรหาเพื่อนคุย เพื่อแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน
- ลองเขียนระบายความเครียดลงสมุดสักเล่ม
- ออกกำลังกายเบา ๆ ในช่วงเช้าที่มีแสงแดดอ่อน ๆ จะช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นโดรฟินและเซโรโทนิน ทำให้ร่างกายผ่อนคลายและลดความเครียดได้ดี
- หาเวลาว่างไปทำกิจกรรมที่ชอบ อย่างเช่น เล่นเกมส์ อ่านหนังสือนิยาย ดูหนัง ฟังเพลง หรือท่องเที่ยว
8.ออกกำลังกาย
มีรายงานจากการศึกษาวิจัยในต่างประเทศ พบว่า ผู้ชายในวัยปกติที่ออกกำลังกายเป็นประจำจะมีระดับฮอร์โมนเพศชายสูงขึ้น ส่วนผู้ชายที่ค่อนข้างมีอายุแล้ว การออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเพศชาย และเพิ่มความฟิตปึ๋งปั๋งให้กับร่างกายได้
รายงานการวิจัยในผู้ชายที่เป็นโรคอ้วนหรือมีน้ำหนักเกิน เป็นสาเหตุที่ทำให้ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลง ชี้ให้เห็นว่า การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากช่วยลดน้ำหนักแล้ว ยังช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเพศชายอีกด้วย ด้วยการออกกำลังกายแบบแรงต้าน อย่างเช่น ยกน้ำหนัก weight training ทุกรูปแบบ เป็นต้น