ภาวะดื้อ "อินซูลิน"เกิดจากอะไร และเราสามารถป้องกันได้อย่างไรบ้าง
ภาวะดื้ออินซูลิน เป็นภาวะที่ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลินอย่างเต็มที่ ทำให้เซลล์ต่างๆ เช่น กล้ามเนื้อ ตับ และเซลล์ไขมันไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือดไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเรื่อยๆ ภาวะนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และกลุ่มอาการเมตาบอลิก (metabolic syndrome)
กระบวนการเกิดภาวะดื้ออินซูลิน
เมื่อรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต ร่างกายจะแปลงคาร์โบไฮเดรตเป็นน้ำตาลกลูโคส ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ตับอ่อนจะหลั่งอินซูลินออกมาเพื่อนำน้ำตาลจากเลือดเข้าสู่เซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงาน แต่เมื่อเกิดภาวะดื้ออินซูลิน อินซูลินไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ในการนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้ตับอ่อนต้องผลิตอินซูลินเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ตับอ่อนอาจเริ่มทำงานได้ไม่เต็มที่และไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เพียงพอ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นและนำไปสู่โรคเบาหวานในที่สุด
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะดื้ออินซูลิน
1.พันธุกรรม หากมีประวัติคนในครอบครัวที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะดื้ออินซูลิน
2.โรคอ้วนหรือน้ำหนักเกิน การมีไขมันสะสมโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้องจะทำให้เซลล์ไขมันตอบสนองต่ออินซูลินได้แย่ลง
3.การขาดการออกกำลังกาย การไม่มีกิจกรรมที่กระตุ้นการใช้งานกล้ามเนื้อจะลดประสิทธิภาพของการตอบสนองต่ออินซูลิน
4.การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม การบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลสูง ไขมันอิ่มตัวสูง และคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสีมากเกินไป จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและกระตุ้นการหลั่งอินซูลินมากขึ้น
5.ภาวะเครียดและการนอนหลับไม่เพียงพอ ภาวะเครียดจะกระตุ้นฮอร์โมนที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น และการนอนหลับไม่เพียงพอจะลดการตอบสนองต่ออินซูลิน
วิธีป้องกันและจัดการภาวะดื้ออินซูลิน
1.ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ การลดน้ำหนักและควบคุมสัดส่วนของร่างกายจะช่วยลดไขมันในร่างกาย โดยเฉพาะไขมันในช่องท้องที่เป็นปัจจัยสำคัญของภาวะดื้ออินซูลิน
2.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- เพิ่มปริมาณผัก ผลไม้ ถั่ว ธัญพืชเต็มเมล็ด ที่มีไฟเบอร์สูงและคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยช้า
- ลดอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันอิ่มตัวสูง เช่น ขนมหวาน ขนมอบ และของทอด
- เลือกบริโภคโปรตีนคุณภาพสูง เช่น ปลา ไข่ เต้าหู้ และธัญพืช
3.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยให้กล้ามเนื้อใช้พลังงานจากน้ำตาลและเพิ่มการตอบสนองต่ออินซูลิน ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ เช่น เดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน
4.ลดความเครียดและปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ การจัดการความเครียดด้วยการทำกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น การนั่งสมาธิ การฝึกหายใจลึก และการนอนหลับอย่างเพียงพอ (7-8 ชั่วโมงต่อคืน) จะช่วยปรับปรุงการตอบสนองของร่างกายต่ออินซูลิน
5.ตรวจสุขภาพเป็นประจำ การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดและค่าดัชนีชี้วัดอื่น ๆ จะช่วยติดตามสุขภาพและสามารถป้องกันปัญหาได้อย่างทันท่วงที
การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงด้วยการรับประทานอาหารที่เหมาะสม การออกกำลังกาย และการพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะดื้ออินซูลินและส่งเสริมสุขภาพโดยรวม
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
"ธรรมนัส" สวนดราม่าจัดซีเกมส์ ย้ำไทยพร้อม 100% แต่ขอทำแบบ "พึ่งตัวเองล้วนๆ"
ซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่น
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับของจีน ทดสอบบินและยิงกระสุนจริงครั้งแรกแล้ว
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ



