"แชมพู"สำหรับสระผม มาได้อย่างไร
"แชมพู" สำหรับสระผม มาได้อย่างไร
จากหนังสือ 108 ซองคำถาม เล่ม 4 เขียนโดย กองบรรณาธิการ นิตยสาร "สารคดี" เขียนว่า
ชาวอียิปต์โบราณเป็นผู้ริเริ่ม พวกเขาชำระล้างเส้นผมด้วยน้ำเปล่าผสมกับน้ำจากผลของพืชตระกูลซีทรัส (ส้ม มะกรูด มะนาว) กรดมะนาวมีฤทธิ์ขจัดไขมันจากหนังศีรษะให้หมดไปจากเส้นผมได้อย่างดียิ่ง น้ำยาล้างทำความสะอาดเส้นผมซึ่งผสมกันเองตามบ้าน โดยเติมกลิ่นหอมและมักจะผสมสบู่ปริมาณเล็กน้อยลงไปด้วย เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นเวลาหลายร้อยปี
น้ำยาสระผมชนิดใหม่ซึ่งคล้ายสารซักฟอกเกิดขึ้นในยุโรป เมื่อตอนปลายสมัยกลาง ได้จากการต้มน้ำ สบู่ กับโซดา หรือโปแตช (น้ำด่าง) ส่วนผสมที่คล้ายคลึงกับแชมพูแต่ใกล้เคียงกับสบู่มากกว่านี้ปรุงขึ้นในบ้าน สูตรของแต่ละบ้านถือเป็นมรดกตกทอดจากคนรุ่นปู่ย่าตายายสู่รุ่นลูกหลาน
คำว่า "แชมพู" กำเนิดขึ้นในประเทศอังกฤษในช่วงเวลาเดียวกับที่นักเคมีชาวเยอรมันค้นพบสารซักฟอก ซึ่งพัฒนามาเป็นแชมพูสมัยใหม่ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ในช่วงปี ค.ศ 1970-1879 รัฐบาลอังกฤษได้ถ่ายโอนอำนาจการควบคุมอินเดียจากบริษัทบริติชอีสต์อินเดียอันทรงอิทธิพล รัฐบาลอังกฤษผ่อนปรนให้ชาวอินเดียซึ่งพูดภาษาฮินดูมีส่วนร่วมในทางการเมืองมากขึ้น เครื่องแต่งกายและศิลปะอินเดีย รวมทั้งถ้อยคำภาษาฮินดู กลายเป็นสิ่งที่นิยมชมชอบในอังกฤษ ในยุคแห่งความนิยมอินเดียนี้เองที่ช่างทำผมชาวอังกฤษได้บัญญัติคำว่า "แชมพู" ขึ้นจากรากคำภาษาฮินดู "แชมโป" ซึ่งแปลว่า"นวดคลึง"
แชมพูเมื่อครั้งกระโน้นไม่ใช่ของเหลวบรรจุขวดที่หาซื้อได้ตัวไปตามร้าน แชมพูคือการนวดคลึงหนังศีรษะและผมที่เปียกชุ่มด้วยน้ำสบู่ให้แก่ลูกค้าของร้านทำผมชั้นนำในอังกฤษ แต่ละร้านจะไม่เปิดเผยสูตรเฉพาะของตนโดยถือเป็นความลับสุดยอดช่างทำผมจะเป็นผู้ปรุงส่วนผสมของน้ำยาสระผมด้วยตนเองโดยทำกันอยู่หลังร้าน ถึงแม้ว่าสูตรอาจแตกต่างกันออกไปบ้าง แต่ส่วนประกอบหลัก 3 ตัวที่ขาดไม่ได้ คือ น้ำ สบู่ และโซดาส่วนแชมพูซึ่งมีสารซักฟอกเป็นส่วนผสมสำคัญ และถือกันว่าเป็นแชมพูจริง ๆ นั้น แรกผลิตขึ้นในประเทศเยอรมนีในช่วงศตวรรษที่ 1890-1899 และมีจำหน่ายในท้องตลาดหลังสงครามโลกครั้งที่ 1
จอห์น เบรก เป็นผู้เปิดตลาดแชมพูในประเทศสหรัฐอเมริกาประมาณปี ค.ศ. 1900 ขณะนั้นเบรกอายุ 25 ปี เป็นหัวหน้าหน่วยอาสาสมัครดับเพลิงของรัฐแมสซาชูเซ็ตส์ เขาประสบปัญหาผมร่วงร้ายแรง แม้ว่าแพทย์หลายคนที่เขาไปปรึกษายืนยันว่าไม่มีวิธีใดจะรักษาอาการศีรษะล้านได้ เบรกซึ่งเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีก็ไม่ยอมรับคำทำนายอาการโรคของแพทย์เหล่านั้น เขาพยายามพัฒนาตัวยาป้องกันผมร่วง ตัวยาปลูกผม รวมทั้งวิธีการนวดหนังศีรษะในลักษณะต่าง ๆ เพื่อต่อสู้กับอาการศีรษะล้านที่คุกคามเขาอยู่
ในปี ค.ศ. 1908 เบรกเปิดศูนย์บำบัดรักษาหนังศีรษะขึ้น ณ เมืองสปริงฟีลด์ ในไม่ช้าแชมพูสูตรพิเศษของเขาก็เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางตามร้านทำผมในเมืองนั้น เขาขยายกิจการออกไปยังเมืองอื่น ๆ ทั้งยังคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ในปี ค.ศ. 1930 เบรกแนะนำแชมพูสำหรับผมธรรมดาเข้าสู่ตลาดอีก 3 ปีต่อมาเขาเสนอแชมพูสำหรับผมมันและผมแห้ง ธุรกิจดูแลเส้นผมของเขาประสบความสำเร็จ ขยายออกไปทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา
อ้างอิงจาก: หนังสือ 108 ซองคำถาม เล่ม 4 แต่งโดย กองบรรณาธิการ นิตยสาร "สารคดี" หน้าที่ 96
นิสัย "ดาร์กๆ" ตามวันเกิด: สำรวจด้านมืดที่ซ่อนอยู่
เคล็ดลับป้องกัน "ผิวแตก" ในฤดูหนาว
#ทายนิสัยจากกาแฟ: เดือนเกิดคุณเปรียบเหมือนกาแฟแก้วไหน? ทายบุคลิก ความรัก และการเงินจากเครื่องดื่มแก้วโปรด
คนละครึ่งพลัส vs เงินหมื่นดิจิตอล ใช้งบประมาณไปเท่าไร
เก็บเงินได้ทุกเดือน ไม่ใช่เพราะรวยขึ้น…แต่เพราะเปลี่ยนวิธีคิดเรื่องเงิน
พิมรี่พายให้เดือนละ 10,000 ตลอดชีวิต
กล้องชัด!เก๋งเลี้ยวข้ามเลนกลางถนนตัดหน้าบรรทุกพ่วง 22 ล้อพุ่งชนยับ เจ็บ 3
เปิดตำนาน "เย็นตาโฟ" ไขความลับก๋วยเตี๋ยวสีชมพู ต้นกำเนิดจาก "เต้าหู้หมัก"
อ่างทองน้ำท่วมหนักสุดในรอบหลายปี ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนและโรงพยาบาล
พบศพแล้ว! กระบะลุงวัย 57 ซิ่งเหินฟ้าชนราวสะพานกระเด็นตกคลองจมดิ่ง นักประดาน้ำงมค้นหานานกว่า 10 ชั่วโมง
เป็นปรากฏการณ์สนามแตก วันแห่งประวัติศาสตร์ อบจ.ชัยนาท คว้าแชมป์สมัยแรก
ทายนิสัยจากขนมไทยมงคลชิ้นโปรดของคุณ บ่งบอกจุดแข็ง-พลังในตัวคุณ
เก็บเงินได้ทุกเดือน ไม่ใช่เพราะรวยขึ้น…แต่เพราะเปลี่ยนวิธีคิดเรื่องเงิน
คนละครึ่งพลัส vs เงินหมื่นดิจิตอล ใช้งบประมาณไปเท่าไร



