วิธีแก้อาการปวดไมเกรน โดยไม่ต้องพึ่งยา
วิธีที่ 1 การกดจุด
มีรายงานผลการศึกษาในปี 2012 ทดสอบกับผู้ป่วยไมเกรนแบบไม่มีออร่า (ไม่เห็นแสงวูบวาบ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนก่อนที่จะเริ่มปวดศีรษะ) จำนวน 40 คน พบว่า
การกดจุดตำแหน่ง PC6 หรือ บริเวณเหนือส้นมือ (มาทางข้อพับ) ประมาณ 3 นิ้ว สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะจากไมเกรนได้
การใช้นิ้วหัวแม่มือ และ นิ้วชี้กดจุดตำแหน่ง LI-4 หรือ บริเวณระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ของอีกข้างหนึ่ง โดยกดประมาณข้างละ 5 นาที สามารถบรรเทาอาการปวดศีรษะที่เกิดจากกล้ามเนื้อคอยึดตึงได้อีกด้วย
วิธีที่ 2 สูดดมน้ำมันหอมระเหย
น้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ ช่วยบรรเทาความเครียด อาการปวดศีรษะ เรื่องนี้เคยถูกตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ European Neurology ว่า การสูดดมน้ำมันลาเวนเดอร์สามารถลดความรุนแรงของอาการปวดศีรษะไมเกรนในผู้ป่วยบางรายได้
วิธีที่ 3 ทานขิง (ผง)
ในปี 2014 ได้มีการศึกษาในผู้ป่วยไมเกรนจำนวนกว่า 100 คน เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของขิงผง กับ ยารักษาไมเกรน sumatriptan ซึ่งนักวิจัยพบว่าประสิทธิภาพในการลดอาการไมเกรนของขิงเทียบเท่ากับสถิติของ sumatriptan รวมไปถึงผลข้างเคียงจากการใช้ขิงยังเป็นศูนย์ ยกเว้นกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการแพ้ขิงผง
วิธีที่ 4 เล่นโยคะ
การเล่นโยคะช่วยผ่อนคลายความเครียด รวมไปถึงความเครียดของกล้ามเนื้อ ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาในปี 2014 โดยแบ่งผู้ป่วยไมเกรนออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเข้ารับการรักษาไมเกรนด้วยวิธีดั้งเดิมเพียงอย่างเดียว ในขณะที่กลุ่มที่สอง เข้ารับการรักษาไมเกรนด้วยวิธีดั้งเดิมร่วมกับการเล่นโยคะ ซึ่งพบว่า กลุ่มที่เข้าร่วมโปรแกรมโยคะสามารถบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้ดีกว่ากลุ่มที่รักษาด้วยวิธีดั้งเดิมเพียงอย่างเดียว
วิธีที่ 5 เสริมด้วยแมกนีเซียม และ อาหารการกิน
เพราะภาวะขาดแมกนีเซียมมีความสัมพันธ์กับการเกิดอาการปวดไมเกรนแบบมีออร่า หรือ แสงวูบวาบที่เป็นสัญญาณเตือนก่อนที่จะเริ่มปวดศีรษะ ซึ่งสอดคล้องกับผลงานวิจัยชิ้นหนึ่ง ระบุไว้ว่า การเสริมแมกนีเซียมช่วยลดความถี่ของการเกิดไมเกรนในผู้ป่วยบางรายได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก่อนจะเริ่มกินแมกนีเซียมเสริมควรปรึกษาแพทย์ก่อน โดยเฉพาะ หากคุณมีโรคประจำตัวอื่นร่วมด้วย
อาหารที่ช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้เช่น ถั่วต่าง ๆ ผักใบเขียว เก๊กฮวย อาหารที่มีวิตามินบี ธาตุเหล็ก น้ำมันปลาที่มีกรดโอเมก้า 3 เป็นต้น
วิธีที่ 6 บำบัดด้วยความร้อน-ความเย็น
การอาบน้ำร้อนสลับน้ำเย็นประมาณ 5 นาที หรือ ใช้การประคบร้อนบริเวณท้ายทอย และ ใช้การประคบเย็นบริเวณหน้าผาก ทำแบบนี้สลับกันทุก ๆ 2-3 นาที จะสามารถบรรเทาอาการลงได้
วิธีที่ 7 นอนหลับพักผ่อน
หากมีอาการปวดมาก ๆ ให้นอนหลับเพราะ การนอนพักผ่อนจะช่วยให้ระบบเส้นเลือด และ ระบบกล้ามเนื้อมีการคลายตัวลดเกร็ง ทำให้อาการปวดศีรษะบรรเทาลงได้