การฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม? มีความเสี่ยงและข้อควรรู้อะไรบ้าง?

การฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม? มีความเสี่ยงและข้อควรรู้อะไรบ้าง?

การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ต้องการปรับปรุงรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น หรือแก้ไขปัญหาริ้วรอยและร่องลึกที่เกิดจากอายุ เช่น ร่องแก้ม ร่องใต้ตา หรือปรับทรงคางและจมูกให้อยู่ในรูปทรงที่ต้องการ แต่ความปลอดภัยของการฉีดฟิลเลอร์นั้นยังเป็นข้อกังวลที่หลายคนสงสัย ว่าแท้จริงแล้ว การฉีดฟิลเลอร์มีอันตรายหรือไม่ มาดูรายละเอียดของเรื่องนี้กันอย่างรอบด้าน

การฉีดฟิลเลอร์และกฎหมายในไทย

ในประเทศไทย [url=https://vincent.clinic/th/service/detail/16]การฉีดฟิลเลอร์[/url]เป็นหนึ่งในวิธีเสริมความงามที่ได้รับความนิยมสูง อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัย กฎหมายกำหนดให้การฉีดฟิลเลอร์ต้องทำโดยแพทย์ผู้มีใบประกอบโรคศิลป์และได้รับการฝึกอบรมเฉพาะด้านเท่านั้น ฟิลเลอร์ที่นำมาใช้ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ซึ่งมักเป็นฟิลเลอร์ที่ทำจากสารไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หากพบว่าผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตเป็นผู้ทำการฉีดฟิลเลอร์ อาจมีโทษทางกฎหมาย เนื่องจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือการฉีดฟิลเลอร์โดยไม่มีความรู้ที่ถูกต้องอาจเสี่ยงต่ออันตราย เช่น การติดเชื้อ การอุดตันเส้นเลือด และการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต

ฟิลเลอร์คืออะไร?

ฟิลเลอร์ที่ได้รับการยอมรับในทางการแพทย์คือสารไฮยาลูรอนิค แอซิด ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มในชั้นใต้ผิวหนัง ให้ริ้วรอยและร่องลึกดูตื้นขึ้น หรือใช้ในการปรับรูปหน้าให้สมส่วน อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือสารเติมเต็มที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น ซิลิโคนเหลวที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ อาจทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ และเป็นอันตรายอย่างรุนแรง

ความเสี่ยงและผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์ แม้ว่าจะได้รับการยอมรับว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัย แต่ก็ยังคงมี[url=https://vincent.clinic/th/article/detail/127]ความเสี่ยงของการฉีดฟิลเลอร์[/url] ซึ่งความเสี่ยงเหล่านี้จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความชำนาญของแพทย์ ประเภทของฟิลเลอร์ และมาตรฐานของสถานพยาบาล

1. การติดเชื้อ (Infection) หากการฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน หรือสภาพแวดล้อมที่ฉีดไม่สะอาด อาจเกิดการติดเชื้อในบริเวณที่ฉีด ทำให้เกิดอาการปวด บวม แดง และอาจลามไปยังบริเวณใกล้เคียงได้
2. การอักเสบและการแพ้ (Inflammation and Allergy) แม้ว่าสารไฮยาลูรอนิคเป็นสารที่ร่างกายสามารถรับได้ดี แต่ก็อาจเกิดปฏิกิริยาตอบสนองที่ไม่พึงประสงค์ เช่น อาการบวม แดง หรือมีผื่นขึ้น ซึ่งในบางกรณีต้องทำการฉีดสลายฟิลเลอร์เพื่อแก้ไขปัญหา
3. อาการฟิลเลอร์เคลื่อนที่ (Migration) ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้ฉีดในตำแหน่งที่เหมาะสมอาจเคลื่อนที่จากจุดที่ฉีด ทำให้รูปลักษณ์ดูไม่เป็นธรรมชาติและอาจเกิดการบวมผิดปกติ
4. อุดตันเส้นเลือด (Vascular Occlusion) หากฟิลเลอร์ฉีดเข้าสู่เส้นเลือดโดยไม่ตั้งใจ อาจทำให้เกิดการอุดตันเส้นเลือด ซึ่งเป็นอาการที่อันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะหากเส้นเลือดนั้นเป็นเส้นเลือดที่ส่งเลือดไปเลี้ยงดวงตา อาจนำไปสู่การตาบอดได้

อาการผิดปกติหลังฉีดฟิลเลอร์และวิธีปฏิบัติ

หากเกิดอาการผิดปกติหลังการฉีดฟิลเลอร์ ควรรีบไปพบแพทย์โดยทันที ซึ่งอาการผิดปกติที่ควรเฝ้าระวังมีดังนี้

• ตาพร่ามัวหรือการมองเห็นผิดปกติ อาจเกิดจากการอุดตันเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงดวงตา หากมีอาการนี้ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อลดความเสี่ยงของการสูญเสียการมองเห็นถาวร
• เนื้อตาย (Necrosis) หากบริเวณที่ฉีดเกิดการขาดเลือดจนเกิดอาการเนื้อตาย ผิวหนังจะเปลี่ยนเป็นสีดำหรือซีด และมีอาการเจ็บปวด หากพบอาการนี้ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน
• การติดเชื้อเรื้อรัง หากหลังจากฉีดฟิลเลอร์มีอาการปวด บวม แดง และไม่ลดลงภายในไม่กี่วัน ควรพบแพทย์เพื่อตรวจสอบว่ามีการติดเชื้อหรือไม่

การเลือกสถานที่และแพทย์ที่เชี่ยวชาญ

หนึ่งในปัจจัยสำคัญในการป้องกันอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์คือการเลือกสถานที่และแพทย์ที่มีความชำนาญ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคลินิกที่เลือกใช้บริการมีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล และแพทย์ที่ให้บริการควรเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์โดยตรง เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับการบริการที่ปลอดภัย

ข้อควรรู้ก่อนการฉีดฟิลเลอร์

1. ตรวจสอบแพทย์ที่ให้บริการ ควรเลือกแพทย์ที่ได้รับการฝึกอบรมด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ และมีใบประกอบวิชาชีพที่ถูกต้อง
2. ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ที่นำมาใช้ต้องมีการบรรจุในบรรจุภัณฑ์เดิมที่มีเครื่องหมายรับรองจากอย. และห้ามใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่มีมาตรฐานเด็ดขาด
3. เข้าใจความเสี่ยงและผลข้างเคียง การฉีดฟิลเลอร์อาจเกิดผลข้างเคียงได้ ผู้บริโภคควรทำความเข้าใจและเตรียมพร้อมรับมือหากมีอาการที่ไม่พึงประสงค์
4. เลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ในราคาถูกเกินจริง ควรหลีกเลี่ยงคลินิกที่ไม่มีใบอนุญาตหรือมีการโฆษณาราคาถูกเกินจริง เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงในการได้รับฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
5. ปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการฉีด หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การสัมผัสบริเวณที่ฉีดโดยตรง และการสัมผัสกับแสงแดดจัดหลังการฉีดฟิลเลอร์จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน

บริเวณที่ต้องระวังในการฉีดฟิลเลอร์

• จมูก บริเวณนี้มีเส้นเลือดที่เชื่อมโยงกับดวงตาโดยตรง หากฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่งอาจทำให้เส้นเลือดอุดตันจนเกิดความเสี่ยงต่อการตาบอด
• หน้าผาก การฉีดในบริเวณนี้อาจทำให้ฟิลเลอร์เข้าสู่เส้นเลือดและทำให้เกิดการอุดตันในหลอดเลือดที่ส่งเลือดไปเลี้ยงดวงตา
• ร่องแก้ม บริเวณนี้มีเส้นเลือดสำคัญมาก การฉีดฟิลเลอร์ในจุดนี้จึงต้องใช้ความระมัดระวังสูง

การฉีดฟิลเลอร์มีความเสี่ยงหากไม่ระมัดระวังในการเลือกสถานที่ แพทย์ผู้ฉีด และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่เป็นของแท้กับคลินิกที่น่าเชื่อถือได้มาตรฐาน และดูแลโดยแพทย์มากประสบการณ์ เพราะหากแพทย์ไม่มีประสบการณ์มากพอจะทำให้การเลือกโมเลกุลฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับปัญหา วางตำแหน่งการฉีดไม่แม่นยำ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างเช่น เกิดเป็นลักษณะเป็นก้อน ผิวไม่เรียบ รูปหน้าไม่เป็นไปตามต้องการ เป็นต้น หากใครยังไม่กล้าฉีดฟิลเลอร์แนะนำให้ลองเข้ามาปรึกษากับทาง[url=https://vincent.clinic/th]Vincent Clinic [/url] ดูก่อนค่ะ เพราะเรามีทีมแพทย์มากประสบการณ์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ที่จะช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ออกมาดี เป็นไปตามที่ต้องการ ทั้งยังปลอดภัยอีกด้วย