"เธอต้องถูกลงโทษ" เพราะเธอพูดความจริง (ที่ฉันไม่อยากฟัง)
"เธอต้องถูกลงโทษ" เพราะเธอพูดความจริง (ที่ฉันไม่อยากฟัง)
ความน่าสนใจอีกอย่างที่ผมพบ คือ สิ่งที่เกิดในโลกความจริง เส้นเรื่องมันดันเหมือนและคล้ายกับในแฮร์รี่เลย เมื่อเล่มภาคีนกฟินิกซ์ดำเนินเรื่องไปจนถึงตอนกลาง ก็มีเหตุการณ์ที่เป็นเหมือนจุดเปลี่ยนเกิดขึ้นมา
ในหนังสือแฮร์รี่ คือข่าวการแหกคุกอัซคาบันครั้งใหญ่ (บทที่ 25 แมลงปีกแข็งออกโรง) ส่วนในโลกความจริงของเรา มันคือ ช่วงกลางปี 2022 เป็นช่วงที่หลายๆ คนเริ่มจะมองเห็นและเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่โรว์ลิงออกมาพูดนั้นคืออะไร ยกตัวอย่างเช่น ข่าวนักกีฬาข้ามเพศที่ไปลงแข่งว่ายน้ำกับผู้หญิงและเอาชนะได้ทุกสนาม (ก็แหงสิวะ!) หรือ ข่าวขององค์กร Mermaids ที่ถูกจับโป๊ะจนได้ว่ากระทำเรื่องอื้อฉาวต่อเยาวชนโดยการล่อลวงให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 เข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ - เหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้หลายคนซึ่งเคยเข้าใจว่าโรว์ลิงเหยียดคนข้ามเพศ เริ่มหันกลับมาตั้งคำถามว่าสิ่งที่โรว์ลิงเคยออกมาพูดนั้นคืออะไร
ยิ่งไปกว่านั้น... หลังจากการแหกคุกอัซคาบันครั้งใหญ่ เฮอร์ไมโอนี่ก็จัดการให้แฮร์รี่ได้นัดสัมภาษณ์กับริต้า สกีตเตอร์ เพื่อให้เขาเล่าความจริงทั้งหมด รวมถึงเหตุการณ์ที่เขาเจอในสุสานลิตเติ้ลแฮงเกิลตั้น เผื่อเอาไปลงเดอะ ควิบเบลอร์ - ซึ่งพอผมลองนั่งคิดเทียบดู เหตุการณ์นี้มันก็เทียบเคียงได้กับการที่โรว์ลิงให้สัมภาษณ์กับ Megan Phelps-Roper เมื่อตอนต้นปีใน Podcast ชุด The Witch Trials of J.K.Rowling เหมือนกันนะ ซึ่งในการสัมภาษณ์นั้นเธอได้ออกมาเปิดใจและเล่าทุกแง่มุมทุกอย่างให้เราฟัง ทั้งที่มาว่าทำไมเธอจึงสนใจเรื่องนี้ และทำไมเธอจึงมีจุดยืนแบบนี้
บางคนอาจบอกว่าโรว์ลิงคือคนที่มาก่อนกาล แต่สำหรับผม มันไม่มีอะไรซับซ้อนมากมาย เธอยังคงเหมือนเดิม ยึดถือมุมมองและความเชื่อตามที่เธอเคยเขียนลงไปในหนังสือ นั่นคือ “การยืนอยู่ข้างความจริง”
ขณะที่ฝั่งตรงข้ามเอาแต่โจมตีและพร่ำบอกว่าเธอทรยศ เธอหักหลังในสิ่งที่เธอเคยเขียนลงไป
Friedman จึงบอกไงว่า “คิดว่าตัวเองโตมาเป็นเฮอร์ไมโอนี่ แต่จริงๆ แล้วกลับเป็นโดโลเรส อัมบริดจ์ต่างหาก
อ้างอิงจาก: พอตเตอร์ไดอารี่