ส่วนใหญ่คนที่ถือศีลได้สะอาดจะอยู่เหนือดวง
เวลากรรมเก่าจะให้ผล
อย่างไรก็ต้องเป็นไปตามที่ถูกวางพล็อตไว้
แต่กรรมที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในชีวิตปัจจุบัน
จะเป็น ‘ตัวชี้ขาด’ ว่า
ของเก่าจะให้ผลมากหรือว่าน้อย
ตัวอย่างเช่น
คนบางคน แค่เปลี่ยนวิธีพูด
จากเดิมพูดแบบไม่มั่นใจ
กลายเป็นพูดแบบมีความมั่นใจขึ้นมา
ชีวิตก็ต่างออกไป กลายเป็นคนดัง
กรรมเก่า เดือนนี้ปีนี้ กำลังจะดังอยู่แล้ว
แต่ถ้าไม่มีเหตุปัจจัย
ไม่มีกรรมใหม่ที่ไปฝึกพูด ยังคงพูดไม่เก่ง
ดวงเดิมอาจจะส่งเสริมให้ดังขึ้นมาได้
แต่ไม่ดังเท่าการที่พูดเก่งขึ้น
อีกตัวอย่าง
พระเจ้าอชาตศัตรู
ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์จากการฆ่าพ่อตัวเอง
มาฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า
มีจิตที่เบิกบาน เข้าใจธรรมะกระจ่าง
พระพุทธเจ้า ตรัสกับเหล่าภิกษุว่า
ถ้าพระเจ้าอชาตศัตรูไม่ทำปิตุฆาตเสียก่อน
จะบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน
ต่อหน้าพระองค์ทีเดียว
ของเดิม ทุนเดิม
มีมากพอที่จะได้เป็นอริยบุคคล
แต่ไปคบคนไม่ดี
ไปนับถือพระเทวทัต หลงผิดไปด้วยกัน
แทนที่บุญเก่าจะให้ผลได้เป็นพระโสดาบัน
กลายไปเป็นว่าต้องลงนรกก่อน
.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
กรรมเก่า
ขีดชะตาไว้ชัดเจนแน่นอน
แต่ไม่ใช่ว่าจะแก้ไม่ได้ด้วยกรรมใหม่!
โหราจารย์บางท่าน จะสอนลูกศิษย์ว่า
ถ้าลูกค้ามีศีลมีธรรม ถือศีลได้บริสุทธิ์
อย่าไปทายอะไรไม่ดี
เพราะว่าคนที่ถือศีลสะอาดบริสุทธิ์
ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ อยู่เหนือดวง
เพราะฉะนั้น
ถ้าถือศีลได้บริสุทธิ์ในชาติปัจจุบัน
จะเป็นกรรมใหม่ในแบบที่ทำให้
สิ่งเลวร้าย ไล่ล่าเราไม่ทัน
หรือ มาทัน แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ถนัดถนี่
.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
แต่ประเด็นก็คือ
เราไม่สามารถรู้ได้ว่า
ต้นเหตุ คือกรรมที่กำลังจะให้ผลนั้น
เราทำไว้แบบหนักแน่น ยาวนาน
หรือว่า ทำไว้แป๊บๆ
ถ้าทำกรรมอะไรอย่างหนึ่งไว้ทั้งชาติเลย
เช่น เป็นเพชฌฆาต ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตทั้งชาติ
จะให้ผลกับพื้นดวงเลย
เป็นคนที่สุขภาพอ่อนแอ
อายุสั้น เป็นคนมีโรคมาก
ฉะนั้น ด้วยการฆ่าสัตว์มาทั้งชีวิต
แค่ปล่อยปลาสองสามร้อยตัว
แล้วอธิษฐานขอให้กรรมนี้จงละลายหายไป
ก็เหมือนเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง
.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
กรรมคือเจตนา เจตนาคือกรรม
ถ้าจะแก้ ก็ต้องแก้กัน
ด้วยกรรมอันเป็นตรงข้ามเท่านั้น
การแก้กรรมที่ถูกต้อง
ก็คือเล็งเข้ามา นิสัยเสียๆอะไรที่มีอยู่
ขอให้มีแก่ใจที่จะทำให้มันเปลี่ยนแปลง
นั่นแหละ ที่เรียกว่าการแก้กรรม
นั่นแหละ ต้นเหตุกรรมที่ชัดเจนว่า
จะทำให้เราทะลุเพดานจำกัดได้นะครับ