มลภาวะทางเสียง ผลกระทบต่อสุขภาพ และ การใช้ชีวิต อาจเพิ่มความเสี่ยง โรคซึมเศร้า ไม่รู้ตัว
องค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ได้ให้ข้อมูลว่า ระดับเสียงที่ต่ำกว่า 70 เดซิเบล จะไม่ก่อให้เกิดอันตราย และระดับเสียงที่มากกว่า 85 เดซิเบลขึ้นไป หากฟังอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า 8 ชั่วโมง อาจจะเป็นอันตรายสร้างปัญหาสุขภาพทั้งระยะสั้น และระยะยาว แต่บางครั้งมลพิษทางเสียงอาจไม่ใช่เสียงที่ดัง เพราะเสียงเบากว่าก็สร้างความรำคาญ ความหงุดหงิดใจได้ไม่แพ้กัน
มลภาวะทางเสียงที่อาจจะพบเจอได้
- เสียงการจราจรบนท้องถนน อย่างเช่น เสียงรถ เสียงแตร เสียงรถฉุกเฉิน
- เสียงจากการก่อสร้าง อย่างเช่น เสียงขุดเจาะ เสียงเครื่องจักรอื่น ๆ
- เสียงจากสนามบิน ในขณะที่เครื่องบินกำลังบินขึ้น หรือลงจอด
- เสียงจากที่ทำงาน โดยเฉพาะหากทำงานในสถานที่ที่เปิดโล่ง
- เสียงจากโรงงานอุตสาหกรรม อย่างเช่น เสียงพัดลม เสียงเครื่องจักร
- เสียงจากสถานีรถไฟ
- เสียงจากเครื่องใช้ในบ้าน อย่างเช่น เครื่องดูดฝุ่นเครื่องตัดหญ้า การเปิดเพลงดังเป็นเวลานาน ๆ
- เสียงจากพลุ หรือดอกไม้ไฟ
ผลกระทบจากมลภาวะทางเสียง
- รบกวนการนอน เสียงรบกวนขณะนอนหลับ อย่างเช่น เสียงกรน เสียงกัดฟัน หรือเสียงการจราจรที่ลอดเข้ามาในห้อง หูเรายังคงทำงานอยู่ในขณะนอนหลับแม้ว่าจะไม่รู้สึกตัว จึงทำให้ได้ยินเสียงเหล่านั้น เมื่อการนอนหลับถูกขัดขวาง ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายฟื้นฟูได้น้อยลง ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันทำงานลดลง รู้สึกง่วงซึมระหว่างวัน อารมณ์ไม่ดี ในระยะยาวอาจทำให้ร่างกายอ่อนแอ เหนื่อยล้า และเสี่ยงต่อโรคเครียด ภาวะซึมเศร้า โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคเรื้อรังอีกหลายโรค นอกจากนี้การพักผ่อนไม่เพียงพอ อาจทำให้ฮอร์โมน เกรลิน (Ghrelin) ซึ่งควบคุมความหิวเพิ่มขึ้น จึงกระตุ้นให้รู้สึกหิวบ่อย นำไปสู่น้ำหนักที่เพิ่มและโรคอ้วนได้
- ทำให้อารมณ์เสีย เสียงเหล่านั้นมักกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางลบ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องการพักผ่อน หรือต้องจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง การศึกษาชิ้นหนึ่งชี้ว่า เสียงเดิน หรือเสียงฝีเท้า ที่เกิดขึ้นขณะนอนหลับภายในอาคารพักอาศัย อาจทำให้เกิดความรู้สึกทางลบได้ ตั้งแต่รู้สึกไม่พอใจ รำคาญใจ เครียด โมโห โกรธแค้น บางคนถึงขั้นรู้สึกปวดหัว เหนื่อยล้า และไม่สบายจากการได้ยินเสียงเหล่านี้
- เพิ่มความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อม ผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ในผู้ที่มีอาการหูหนวกจำนวนหนึ่งมีอาการสมองเสื่อมร่วมด้วย จึงคาดว่าทั้งสองอาการนี้อาจมีบางอย่างที่เชื่อมโยงกัน นักวิจัยบางคนสันนิษฐานว่าเสียงที่ดังเกินไป ไม่เพียงส่งผลต่อเซลล์ขนในหูชั้นในอักเสบ และนำไปสู่อาการหูหนวกเท่านั้น แต่อาจส่งผลให้เซลล์สมองบางส่วนอักเสบ และเพิ่มความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อมได้ ข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน จึงจำเป็นต้องได้รับการศึกษาเพิ่มเติมว่าเสียงดังส่งผลกระทบต่อเซลล์สมองได้หรือไม่
- การได้ยินมีปัญหา หรือ เสี่ยงต่อหูหนวก การได้ยินเสียงดังมาก ๆ เพียงครั้งเดียวที่ทำให้เกิดหูหนวก การได้ยินเสียงดังในระดับกลางติดต่อกันเป็นเวลานานก็อาจทำให้สูญเสียการได้ยิน นักวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า เซลล์ขนนั้นมีจำนวนประมาณหนึ่งหมื่นเซลล์และข้อจำกัดของเซลล์ขนก็คือ เมื่อถูกทำลายมันจะไม่สามารถงอกหรือฟื้นฟูตนเองได้ ดังนั้นการได้ยินเสียงดังอาจทำให้เซลล์ขนเหล่านี้อ่อนแอและตายลง พอนานวันเข้าจึงทำให้เซลล์ขนส่งสัญญาณไปยังสมองได้น้อยลง และอาจทำให้หูหนวกในที่สุด
- เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ งานศึกษาชิ้นหนึ่งได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของเสียงกับความผิดปกติของทารกในครรภ์ พบว่า หลักฐานทางวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งบ่งบอกว่าการได้รับเสียงรบกวนขณะอยู่ในครรภ์อาจเพิ่มความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ได้ อย่างเช่น ทำให้ทารกน้ำหนักตัวน้อย คลอดก่อนกำหนด หรืออาจทำให้แท้ง อย่างไรก็ตามงานศึกษานี้ยังแนะนำให้มีการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อยืนยันถึงผลกระทบต่อทารกในครรภ์ที่อาจเกิดขึ้น
มลภาวะทางเสียงเกี่ยวข้องกับโรคซึมเศร้าอย่างไร
เสียงรบกวน หรือมลภาวะทางเสียง เป็นตัวการในการสร้างความรำคาญ และความตึงเครียดทางสภาพแวดล้อม การเปิดรับกับมลภาวะทางเสียงในระดับที่ดังเกินกำหนด หรือเป็นเวลานาน มักจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทั้งทางร่างกาย และทางจิตใจ
มีงานวิจัยที่ศึกษาในเรื่องของความเกี่ยวข้องระหว่างมลภาวะทางเสียง และสุขภาพจิต อย่างเช่น โรควิตกกังวล และโรคซึมเศร้า พบว่า มลภาวะทางเสียงมีความเกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของโรคซึมเศร้า และโรควิตกกังวลมากเป็นสองเท่า เนื่องจากเสียงรบกวนเหล่านี้ เป็นตัวการสำคัญของการสร้างความรำคาญ ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม
นอกจากนี้ปัญหาการนอนไม่หลับที่มาพร้อมกับมลภาวะทางเสียง ทำให้ร่างกาย และจิตใจเกิดความเครียดสะสม เนื่องจากร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ ปัจจัยเหล่านี้เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรควิตกกังวล และโรคซึมเศร้า
ปกป้องสุขภาพจากมลภาวะทางเสียง
1.สวมอุปกรณ์กันเสียง อุปกรณ์กันเสียงมีหลากหลายรูปแบบ หลายคนอาจเคยชินกับ Earplugs หรือจุกอุดหูที่มีลักษณะเป็นโฟม หรืออาจใช้ Earmuffs ซึ่งมีลักษณะคล้ายหูฟังแบบครอบหู โดยอุปกรณ์เหล่านี้อาจลดเสียงได้ราว 15‒30 เดซิเบล สามารถใช้ร่วมกันได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดเสียง
2.งดฟังเสียงดังเป็นเวลานาน อย่างเช่น เสียงทีวี เสียงเพลง เสียงดนตรีในคอนเสิร์ต การฟังเสียงเหล่านี้มักรู้สึกเพลิดเพลินกับเสียงมากกว่าคิดถึงผลกระทบ แต่เพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการฟังเสียงเหล่านี้ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะการฟังผ่านหูฟัง หรือลดความดังของเสียงลง
3.ซื้ออุปกรณ์ที่ทำงานเงียบ อย่างเช่น เครื่องดูดฝุ่น อาจทำงานเสียงดังจนทำให้เกิดมลพิษทางเสียง เพื่อลดผลกระทบจากอาจเลือกซื้ออุปกรณ์ที่มีการทำงานเบาลง
4.ปิดหน้าต่าง การปิดหน้าต่างจะช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก ไม่ให้เข้ามาในบ้าน หรือในห้องที่อยู่ ควรจะเปิดหน้าต่างก็ต่อเมื่อภายนอกไม่มีเสียงดังรบกวน
5.ติดตั้งแผ่นซับเสียงหรือฉนวนกันเสียง เพื่อป้องกันมลภาวะทางเสียงอย่างจริงจัง แผ่นซับเสียงและฉนวนกันเสียงนี้จะสามารถป้องกันมลภาวะทางเสียงไม่ให้เข้ามา หรือออกไปจากห้องได้เกือบทั้งหมด
6.สวมหูฟังที่ตัดเสียงรบกวน หูฟังขนาดใหญ่แบบครอบหูที่สามารถป้องกันเสียงรบกวน สามารถป้องกันมลภาวะทางเสียงได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องทำงานอุตสาหกรรม และผู้ที่ต้องทำงานในบริเวณที่มีเสียงดัง
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ปมปริศนาการจากไป! พ่อแม่ 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' อายัดศพ หลังทราบผลชันสูตร
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
ปมปริศนาการจากไป! พ่อแม่ 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' อายัดศพ หลังทราบผลชันสูตร
"เป็กกี้ ศรีธัญญา" โพสต์แซ่บถึง "นิยาย" ที่แสนสนุก ใครคือเจ้าของเรื่องตัวจริง?
กองกำลังพิเศษ BHQ ทรยศฮุนเซน แอบไปซบ อก สมรังสี
เหนือความเชื่อ! "ซูเปอร์ฟูลมูน" เรื่องที่เราอาจไม่เคยรู้...
“ย้อนวันวานอาหารจานละ 2-3 บาท กินอิ่มทั้งบ้านด้วยเงินไม่กี่บาท ราคาน่ารักที่วันนี้หาไม่ได้แล้ว”
เผยคำทำนาย "บาบา วานก้า" ปลายปี 2025 มนุษย์ต่างดาวอาจโผล่กลางงานฟุตบอลโลก
WOOF แก่แบบมีคุณภาพ เทรนด์การเงินใหม่ของคนวัยเกษียณ พึ่งตัวเอง มีเงินใช้ ไม่เป็นภาระลูกหลาน
แฮ็กสมอง อารมณ์ดีใน 10 วินาที เปลี่ยนอารมณ์ลบให้ดีขึ้นภายใน 10 วินาที
นักวิเคราะห์ นักเทรด และนักคณิตศาสตร์ประกัน







