"คนไทยติดหรู ชีวิตติดแกลม” ในสภาวะที่เศรษฐกิจฝืดเคือง หนี้ครัวเรือนพุ่งสูง
“ติดแกลม” มีความหมายว่า ติดแบรนด์เนม ติดหรู ติดของที่มีราคาแพง โดยคำว่าแกลมนั้น ย่อมาจากคำภาษาอังกฤษ Glamorous แปลว่า สวยงาม มีเสน่ห์ และ ดึงดูดใจ คำว่า ติดแกลม ถูกใช้เพื่ออธิบายไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันแบบหรูหรา อู้ฟู่ ดูแพง โดยไม่ใช่เพียงแค่การแต่งตัวที่ดูแพง หรูเพียงอย่างเดียว การกินอาหารแบบไฟน์ไดนิ่ง การใช้เครื่องสำอางเสริมความงาม การเดินทางแบบเฟิร์สคลาส ตลอดจนถึงการท่องเที่ยวแบบลักชูรี่ด้วยนั่นเอง
วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU เปิดผลวิจัยพบว่าแบรนด์เนมหรูครองใจคนไทย ได้แก่ Apple – Starbucks – Louis Vuitton – Dior เป็น 4 แบรนด์สุดโปรด แล้วยังแบรนด์อื่น ๆ อีกมากมายโดยสาเหตุที่ทำให้คนไทยติดหรูเพราะต้องการการยอมรับ อยากแสดงสถานะทางสังคม และอยากโดดเด่นแตกต่าง
จากกระแสดังกล่าวทำให้เกิดเทรนด์ผู้บริโภคที่เรียกว่า LUXUMER โดยมาจากคำว่า “Luxury” และ “Consumer” ซึ่งหมายถึง กลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบและให้ความสำคัญกับสินค้าหรือบริการระดับพรีเมียมที่เน้นความหรูหราเป็นพิเศษ บริการที่ LUXUMER พึงพอใจ และประทับใจได้ก็จะกลายเป็นโอกาสทองของธุรกิจทันที เพราะผู้บริโภคกลุ่มนี้มักให้คุณค่า และความสำคัญกับการบริโภคสิ่งของเพื่อภาพลักษณ์และความสุขมากกว่าคนทั่วไป โดยส่วนใหญ่ไม่ได้คำนึงถึงราคาเป็นปัจจัยหลัก
ในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว สินค้าอุปโภค บริโภคแพงขึ้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม หรือสินค้าอื่นๆ ก็พากันขึ้นราคา แต่สินค้าแบรนด์เนมยังคงอยู่ได้ สังเกตจากดาราไทยจำนวนมากที่ทยอยเป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์หรู
มีผลการสำรวจเปิดเผยว่า มนุษย์เงินเดือนมากถึง 54% มีรายได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อเดือน และ 50% ในกลุ่มนี้มีเงินเก็บน้อยกว่า 6 เดือน แต่พอพูดถึงเรื่องความถี่ในการซื้อสินค้าหรูของชาวลักซ์ พกวเขายอมควักเงินซื้อของมากถึง 10 – 30% ของรายได้ต่อเดือน นั่นสะท้อนว่า ทำไมพวกเขาถึงมีเงินเก็บน้อยกว่า 6 เดือน
*** คนไทยชอบเสพสื่อ ติดตามชีวิตหรูของดารา และเอามาเป็นเยี่ยงอย่าง ***
รูปภาพ : เครดิตบนภาพ