รีวิวหนังดัง V for Vendetta เพชฌฆาตหน้ากากพญายม
ว่าด้วยเรื่องของการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองอำนาจมืด ที่ไม่ว่าใครก็มองว่าอุดมการณ์นี้เป็นไปไม่ได้ แต่อันที่จริงแล้วตัวบุคคลต่างหากที่ล้มเหลว ในขณะที่อุดมการณ์นั้นมันสานต่อไปถึงคนรุ่นหลังได้ และนั่นคือการสืบทอดเจตนารมณ์จากรุ่นสู่รุ่นที่ต้องดิ้นรนต่อสู้จนกว่าจะมีชีวิตที่ดีจากการปกครองอันชอบธรรม
ผลงานรังสรรค์จากการ์ตูนค่าย DC โดยได้ผู้กำกับอย่าง James McTeigue และผู้อำนวยการสร้างจาก THE MATRIX ไตรภาค
เรื่องย่อ
V หรือ William Rookwood ชายสวมหน้ากากฟอคส์พร้อมผ้าคลุม พยายามหาทางต่อต้านการปกครองของผู้นำสูงสุดอย่าง Adam Sutler วันหนึ่งเขาได้รับการช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆจากสาวชื่อว่า Evey
นั่นทำให้ Evey ถูกตามล่าไปด้วย เธอต้องอยู่ร่วมกับ V อย่างไม่เต็มใจ แล้วยังถูกตามล่าเสียเองด้วย เรื่องบานปลายมากขึ้นเมื่อสมาชิกของพรรคการเมืองถูกสังหารด้วยน้ำมือของ V แต่ไม่มีหลักฐานชี้โยงว่าชายที่ชื่อ V สรุปแล้วเขาเป็นใครกันแน่ ปริศนายังคงอยู่ต่อไปจนกระทั่งการสืบสวนของทางตำรวจเจาะลึกมากขึ้น เพราะการกดดันโดยตรงจาก Adam Sutler
นักแสดงนำ
- Hugo Weaving รับบทเป็น V, William Rookwood
- Natalie Portman รับบทเป็น Evey
- Stephen Rea รับบทเป็น Finch
- Rupert Graves รับบทเป็น Dominic
- John Hurt รับบทเป็น Adam Sutler
- Tim Pigott-Smith รับบทเป็น Creedy
- Stephen Fry รับบทเป็น Deitrich
ความชื่นชอบและความประทับใจของครีเอเตอร์
1.หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนัง Action แบบ Superhero อย่างที่เราเคยเห็นจากเรื่องอื่นที่ผ่านมา อย่าคาดหวังความมัน ตื่นเต้นระทึกใจแบบนั้นเด็ดขาด ความสนุกของเรื่องมาจากการสืบสวน ค้นหาเบาะแสจากเหตุฆาตกรรม รวมถึงความรู้สึกตัวละครที่ใช้บทสนทนาถ่ายทอดราวกับบทกวี
2.จริงอยู่ที่หนังเรื่องนี้มีแนวคิดต่อต้านการปกครองแบบเผด็จการ แต่หนังไม่ได้พูดอย่างเป็นภาษาทางการเมือง ไม่ใช้คำยากๆที่คนเรียนรัฐศาสตร์ด้วยกันถึงจะเข้าใจ
แต่เป็นการยกเอาเหตุการณ์บางอย่างทั้งเรื่องของการควบคุมการออกอากาศโทรทัศน์ การควบคุมให้คนเชื่อว่าการทำตามสิ่งที่ผู้นำสั่งจะนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม
เราเข้าใจได้ทันทีว่าการปกครองแบบนี้น่ากลัว โดยไม่กระทบการเมืองในชีวิตจริงของประเทศใดในโลก แต่เราอนุมานได้เองว่าเรากำลังเจอกับการปกครองแบบนี้อยู่หรือไม่
3.การแสดงของ Hugo Weaving จากการรับบทตัวร้ายมาตลอดแทบทุกเรื่อง นี่คือเรื่องหนึ่งที่เขาได้เป็นพระเอก แต่อยู่ภายใต้หน้ากาก กระนั้นการแสดงของเขาก็รู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติและมีความรู้สึกออกมาจากภาษากายอย่างเห็นได้ชัด
4.Scene อารมณ์ที่ถูกทารุณและเป็นนางเอกของเรื่องคือ Natalie Portman ที่รับบทเป็น Evey ในเรื่องเธอต้องรับความรู้สึกหนักๆจากหลายปัจจัยรอบด้าน ทั้งอดีตที่ขมขื่นและปัจจุบันที่เหตุการณ์สุ่มเสี่ยงต่อการถูกจับกุมไปประหาร
5.John Hurt ก็แสดงได้ดีเช่นกัน แม้จะบังคับบัญชาสั่งการคนตลอดทั้งเรื่อง แต่ครีเอเตอร์กลับชอบการแสดงของเขาเอามากๆ มันดูสนุกทุกครั้งที่เขาปรากฎในฉาก แม้จะเป็นฉากบนจอทีวีสั่งการก็ตาม
6.หนังมีบทสรุปของตัวร้ายที่ง่ายไปหน่อย ทำให้ไม่มีอะไรให้น่าลุ้นนอกจากสิ่งที่หลงเหลือในความคิดของคนดู ที่สะท้อนให้เห็นความเป็นไปของการเมืองในประเทศอังกฤษว่าหากไม่มีผู้นำคนไหนหลงเหลือในการรับช่วงต่อแล้ว มันจะเป็นไปทางไหน หนังไม่มีคำตอบชัดเจน นอกจากให้คนดูคิดต่อเอาเอง