ผักกะโดน โดนใจ
เพลงลูกทุ่งอีสาน มีหลายต่อหลายเพลงที่เป็นเพลงอมตะ ในจำนวนนั้น เพลงรอรักใต้ต้นกระโดน โดยครู พงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา ก็เป็นเพลงหนึ่ง ดัง ดังและยังดังอยู่ ดังมาหลายสิบปีแล้ว และจะดังอีกต่อ ๆไป ตราบที่คนอีสานยังไม่กลายพันธุ์เป็นอื่นไป
เนื้อหาของเพลงก็ เป็นเรื่องราวของหนุ่มบ้านนาคอยสาวคนรักนานปี ไม่รู้ไปอยู่หนใด ปล่อยให้อ้ายต้องมาคอยช้ำใจใต้ร่มกะโดนบนโพนใกล้เถียงนา
ฉายภาพ “…ไปไต้เขียดด้วยกันเมื่อคืนเดือนมืด โอ้แม่ยอดยาจืด หวานจับใจบ่มีถ่ายถอน ไล่คุบเขียดน้อย พลาดไปถูกแก้มงามงอน พี่ยังถูกเจ้าค้อน สุดสะออนจริง ๆแก้วตา…” เป็นภาพที่น่ารัก เป็นชีวิตชาวอีสานเมื่อหลายสิบปีก่อน ปัจจุบันอาจหลงเหลืออยู่บ้าง ในหมู่บ้านที่ความเจริญยังไม่ไปเปลี่ยนแปลง ผมเองก็เคยไปไต้เขียดอย่างในเพลงครั้งหนึ่ง เมื่อยังเด็ก ๆ เป็นการหาอยู่หากินที่น่ารัก แต่เขียดน้อยใหญ่ มันคงอยากจะบอกว่า คนนี่น่ากลัวแท้ เห็นความตายของพวกเราชาวเขียดเป็นเรื่องโรแมนติกไปได้
แต่ก่อน ดาว บ้านดอน ร้องเอาไว้ สนธิ สมมาตร ก็เคยร้อง มายุค ไมค์ ภิรมย์พร ก็นำมาร้องในชุด เพลงดังสองฝั่งโขง ชุดที่ ๒ เมื่อ ปี ๒๕๔๒ (ถ้าจำไม่ผิด) โด่งดังก้องสองฝั่งโขงอีกครั้ง
ส่วนจ่าหรอย เฮนหรี่ เจ้าของเพลงอกหักที่โด่งดังอย่าง “น้ำตามดแดง” ก็นำมาขับกล่อมในลีลาของตัวเอง ก็เพราะไปอีกแบบ
เพลงเกี่ยวกับต้นกะโดน อีกเพลงหนึ่งที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึง แต่งโดย “ดอย อินทนนท์” นักแต่งเพลงชาวสุรินทร์ ที่มีเพลงดัง ๆทั้งในอดีตและปัจจุบันหลายเพลง เช่น “รักสาวนครสวรรค์” ร้องโดย ลูกแพร - ไหมไทย อุไรพร “บัวหลวงบึงพลาญ” ร้องโดย ศรชัย เมฆวิเชียร
เนื้อเพลง ก็ตัดพ้อต่อว่าสาวขอนแก่น ที่ทิ้งหนุ่มบ้านเดียวกันไปมีแฟนคนบ้านอื่นเมืองอื่น ท่อนสุดท้ายว่า “ …ใต้กกกะโดน อ้ายยืนงอยโพน คอยน้องร้องไห้ร้องห่ม หรือคนขอนแก่น ไปมีแฟนทางเมืองขอนล่ม ชอกช้ำน้ำใจเหลือข่ม เมื่อสาวตาคมไม่คืนอีสาน”
เพลงนี้ผมจำได้ว่า ได้ยินตอนเรียนอยู่ประถม ประมาณ ป. ๔ พ.ศ. ๒๕๒๕–๒๖ เป็นเพลงหนึ่งที่อยู่ในหัวใจมาตลอด แต่ไม่รู้ว่าใครร้องไว้ พอมา ปี ๒๕๔๐ สิทธิพร สุนทรพจน์นำมาร้องใหม่ ก็ทำให้หัวใจพองโต ได้เนื้อเพลงเต็ม ๆ ไว้ท่องร้อง โดยเฉพาะเวลาอยู่คนเดียว
ถ้าถามว่า ทำไม ต้องกกกะโดน ผู้แต่งทำไมไม่เอาต้นอื่น ๆ ผมก็ขออนุญาตวิเคราะห์ไปตามเรื่องว่า ก็เพราะเป็นเพลงแห่งการรอคอย คอยนาน คอยโดน (อีสาน) คือคอยแล้วคอยเล่า กะโดนแท้ ให้รอท่าโดนนานแท้ ประมาณนั้น จะใช้ดอกจาน ต้นกะยอมหรือพะยอม ก็ดูจะไม่กลมกลืนกัน ใช้กะโดนนี่แหละเหมาะดี หรือท่านผู้อ่านว่าจังได๋?