วิธีเลิกกาแฟ แบบไม่หักดิบ ไม่ปวดหัว
1.ลดปริมาณการดื่มกาแฟลง
ค่อย ๆ ลดปริมาณที่ดื่มลงมา ไม่ควรเลิกกาแฟแบบหักดิบ เพราะอาจส่งผลเสียต่อร่างกาย ทำให้เกิดอาการข้างเคียงต่าง ๆ ตามมา เนื่องจากร่างกายปรับตัวไม่ทัน การลดปริมาณกาแฟลงทีละนิด อย่างเช่น จากที่เคยดื่มวันละ 4-5 แก้ว ก็ปรับลงมาเหลือวันละ 3-4 แก้ว แล้วค่อยลงมาถึงวันละ 1-2 แก้ว ตามลำดับ เพื่อให้ร่างกาย เกิดการปรับตัว ให้เคยชินกับปริมาณคาเฟอีนที่ลดลง
2.ลดความเข้มข้นของกาแฟให้น้อยลง
กินกาแฟเข้มให้น้อยลง อย่าง เคยดื่มเอสเพรสโซ่ หรือ ชงกาแฟโดยตักกาแฟ 2-3 ช้อน ให้เปลี่ยนมาดื่มอเมริกาโน่ หรือ ตักกาแฟแค่ 1-2 ช้อน หรือผสมน้ำเข้าไปเพื่อเจือจาง จะช่วยให้สามารถลดการกินกาแฟลงได้โดยไม่มีอาการถอนคาเฟอีน
3.ลองเปลี่ยนไปดื่มเครื่องดื่มอย่างอื่น
หันมาดื่มเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่มีคาเฟอีนน้อยลง อย่างเช่น ชา โกโก้ เครื่องดื่มชูกำลัง เลือกดื่มกาแฟดีแคฟ (Decaf) หรือกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีนแทน หรือ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอื่น ๆ อย่างเช่น น้ำผลไม้ น้ำหวานต่าง ๆ (แต่ไม่ควรดื่มบ่อย เพราะมีน้ำตาลปริมาณมาก)
4.ดื่มน้ำเปล่าให้เยอะ ๆ
น้ำเปล่า ช่วยบรรเทาอาการปวดหัว ทำให้ร่างกายสดชื่น ช่วยขับสารคาเฟอีนในร่างกายออกไป ควรดื่มน้ำเปล่าในปริมาณมาก ๆ โดยเน้นจิบน้ำทีละนิด แต่จิบบ่อย ๆ ตลอดทั้งวัน เนื่องจากคาเฟอีน มีฤทธิ์ขับน้ำออกจากร่างกาย ทำให้มีอาการปัสสาวะบ่อย และมากกว่าปกติ จึงควรดื่มน้ำ เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไป ช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำและรู้สึกอ่อนเพลีย ช่วยขับของเสียต่าง ๆ ออกจากร่างกาย
5.กินยาแก้ปวดหัวเมื่อมีอาการ
เมื่อร่างกายขาดคาเฟอีน อาการปวดหัว เป็นสิ่งกวนใจมาก ๆ คนที่ต้องการเลิกกาแฟ เมื่อเริ่มปวดหัว ก็มักกลับไปดื่มกาแฟทุกที ทำให้การเลิกกาแฟแต่ละครั้ง ล้มเหลวตลอด
แนะนำว่า เมื่อปวดหัวก็กินยาแก้ปวดหัว เพื่อบรรเทาอาการไป (ควรกินในปริมาณที่เหมาะสม ควรอ่านฉลากยากำกับด้วย) อาการปวดหัวอยู่กับเราไม่นาน แต่ถ้าคาเฟอีนเกินขนาดจะส่งผลกับเราไปอีกนานทีเดียว
6.หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และลดสูบบุหรี่
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่ มีฤทธิ์ในการกดประสาทเช่นเดียวกับกาแฟ ต่อให้ลดปริมาณกาแฟลง แต่ยังดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่ จะยิ่งทำให้มีอาการอยากกินกาแฟมากขึ้นกว่าเดิม อาการของภาวะถอนคาเฟอีนก็จะยิ่งแย่ลง
7.ห้ามงดอาหารเช้า
หันมากินอาหารเช้า ควบคู่กับการกินกาแฟในปริมาณที่น้อยลงมา ร่างกายก็จะค่อย ๆ ปรับตัว และขับคาเฟอีนออกจากร่างกาย
8.หาวิธีแก้ง่วงแทนการกินกาแฟ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 7 – 8 ชั่วโมง ไม่นอนดึก หรืออดนอน หากระหว่างทำงานยังมีอาการง่วง ลองหาวิธีทำให้ไม่ง่วง อย่างเช่น ลุกไปยืดเส้นยืดสาย สูดอากาศ เข้าห้องน้ำ จะช่วยให้หายง่วงได้