รู้หรือไม่ “กล้วย” ช่วยลดความเครียด
เรื่องของ “กล้วย”
- ฤทธิ์: เย็น
- ผู้ที่ควรกิน: คนทั่วไป โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ
- ผู้ที่ไม่ควรกิน: ผู้ที่ท้องเสียง่ายหรือผู้ที่มีกรดในกระเพาะอาหารเยอะ
- ประโยชน์ต่อร่างกาย: เส้นใยอาหารกระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก โพแทสเซียมช่วยขับโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกายและลดความดันโลหิต ไบโอตินกระตุ้นเมแทบอลิซึม
- เพิ่มเติม: เส้นใยอาหารในกล้วยกระตุ้นให้กระเพาะอาหารและลำไส้บีบตัวช่วยให้ขับถ่ายสะดวก แต่การกินกล้วยขณะที่ท้องว่างหรือกินตอนเหนื่อยมักทำให้อาหารไม่ย่อย
- โดย ทุก 100 กรัม มีสารแอลดาลอยด์เฉลี่ย 18 มิลลิกรัม
ทุก 100 กรัม มีกรดทริปโดเฟนเฉลี่ย 12 มิลลิกรัม
ทุก 100 กรัม มีคาร์โบไฮเดรตเฉลี่ย 23.7 กรัม
ทุก 100 กรัม มีวิตามินซีเฉลี่ย 10 มิลลิกรัม -
ข้อควรระวัง!!
+ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปากแห้งและคอแห้ง
+ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นริดสีดวงทวารหนัก อุจจาระแข็งหรือถ่ายเป็นเลือด
+ เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจหรือผู้ป่วยโรคแผลในกระเพาะอาหาร
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดประจำเดือน เป็นไข้หวัด และผู้ป่วยโรคข้ออักเสบ
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ท้องเสีย ผู้ที่มีกรดในกระเพาะอาหาร ผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบเรื้อรังควรเลี่ยง
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคโตอักเสบ
-
ปริมาณที่ควรกินในแต่ละวัน
วิธีคำนวณ คือ 1 ส่วน 95 กรัม = กล้วยขนาดกลางประมาณ 1/2 หวี
+ ผู้ใหญ่
เพศชาย ควรกินผลไม้ 4 ผล/วัน
เพศหญิง ควรกินผลไม้ 3 ผล/วัน
ผู้สูงอายุ ควรกินผลไม้ 2-3 ผล/วัน
+ เด็ก
เด็กอายุระหว่าง 1-6 ขวบ ควรกินผลไม้ 1-2 ผล/วัน
เด็กอายุระหว่าง 7-18 ปี ควรกินผลไม้ 2 ผล/วัน
-
อาหารที่กินคู่กันได้และกินคู่กันไม่ได้
- กล้วย+วอลนัต =เสริมสร้างเมแทบอลิซึมของน้ำตาลกลูโคส
ผลลัพธ์: เมื่อกินกล้วยที่อุดมไปด้วยน้ำตาลกลูโคสคู่กับวอลนัตที่อุดมไปด้วยวิตามินกลุ่มบี วิตามินกลุ่มมีจะช่วยให้กระบวนการเผาผลาญน้ำตาลกลูโคสสมบูรณ์และเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสเป็นพลังงาน
- กล้วย+โยเกิร์ต =ช่วยให้นอนหลับสบาย
ผลลัพธ์: กล้วยและโยเกิร์ตล้วนอุดมไปด้วยกรดทริปโตเฟน ทำให้สมองผ่อนคลายนอนหลับสบาย จึงมีประโยชน์ต่อผู้ที่มีปัญหาในการนอนหลับ
- กล้วย+มันเทศ ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังลดความอ้วน
- กล้วยและมันเทศมีแป้งมาก หากกินคู่กันร่างกายจะได้รับพลังงานมากเกิน
- กล้วย+ชา=กระเพาะอาหารและลำไส้ทำงานผิดปกติ
ผลลัพธ์: กล้วยอุดมไปด้วยแป้ง การกินกล้วยทำให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดออกมามาก หากกินคู่กับชาที่มีสารแทนนิน สารทั้ง 2 ชนิดจะรวมตัวกันเป็นก้อน ทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้ทำงานผิดปกติ
เกริ่นมายืดยาว แล้ว “กล้วย” ช่วยลดความเครียดได้อย่างไรกันนะ ซึ่งมีการตรวจสอบจากหลายสำนักแล้ว พบว่า "กล้วย" มีสารอาหารที่ช่วยลดความเครียด ประกอบด้วย
-
สารแอลคาลอยด์ มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นระบบประสาท ทำให้เกิดความมั่นใจ
-
กรดทริปโตเฟน กล้วยเป็นผลไม้ที่มีกรดทริปโตเฟนสูงที่สุดในบรรดาผลไม้ กรดทริปโตเฟนช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวล ช่วยให้นอน หลับสบาย กล้วยมีคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมกรดทริปโตเฟนได้ดีขึ้น จึงทำให้เห็นผลได้เร็ว
-
คาร์โบไฮเดรต คาร์โบไฮเดรตในกล้วยมีคุณสมบัติช่วยให้สมองผ่อนคลาย ช่วยในการดูดซึมกรดทริปโตเฟนของเซลล์สมอง กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเซโรโทนิน ลดความเครียด และปรับสภาพจิตใจ
-
วิตามินบี 6 กล้วยมีวิตามินบี 6 เฉลี่ย 0.29 มิลลิกรัม/100 กรัม ช่วยสร้างฮอร์โมนเซโรโทนิน ช่วยเปลี่ยนน้ำตาลที่สะสมในเลือดให้เป็นน้ำตาลกลูโคส เพื่อให้สมองนำไปใช้งาน ช่วยให้อารมณ์แจ่มใสและบรรเทากลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน
-
วิตามินซี วิตามินซีในกล้วยกระตุ้นการหลั่งสารอะดรีนาลีนสำหรับป้องกันความเครียด ช่วยปรับสภาพจิตใจ
ซึ่งมีประสิทธิภาพในการลดความเครียด คือ
- แก้อาการนอนไม่หลับ กล้วยมีกรดทริปโตเฟนที่เป็นยานอนหลับจากธรรมชาติ ทำงานร่วมกับคาร์โบไฮเดรตและวิตามินบี 6 ในการเพิ่มฮอร์โมนเซโรโทในสมอง ซึ่งช่วยลดกิจกรรมของสมอง ทำให้อารมณ์ผ่อนคลาย จนเกิดความง่วงนอน ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับควรกิน
- ลดความเครียด สารแอลคาลอยด์ในกล้วยช่วยพื้นฟูระบบประสาท กรดทริปโตเฟน คาร์โบไฮเดรต วิตามินบี 6 และวิตามินซีช่วยลดความเครียด
- บรรเทากลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน ร่างกายและจิตใจของเพศหญิงได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมน ช่วงก่อนมีประจำเดือนจึงมักมีอาการซึมเศร้า ตื่นเต้น วิตกกังวล และโมโหง่าย ความเข้มข้นของวิตามินบี 6 ในร่างกายช่วงนี้ก็ลดลงเช่นกัน การกินกล้วยที่มีคาร์โบไฮเดรตช่วยป้องกันอาการดังกล่าว ทั้งยังชดเชยวิตามินบี 6 ที่ขาดไปได้อีกด้วย
- ป้องกันภาวะประสาทเปลี้ย ความเครียดสะสมทำให้เกิดภาวะประสาทเปลี้ย วิตามินบี 6 และกรดทริปโตเฟนในกล้วยช่วยให้ระบบประสาททำงานตามปกติ การกินกล้วยในปริมาณที่พอเหมาะช่วยรักษาภาวะประสาทเปลี้ย
รู้งี้แล้ว ต้องรีบไปหา "กล้วย" กินกันนนนน......................
ป.ล. เพื่อนๆ สามารถติดตามกระทู้อื่นๆ ได้ที่
https://page.postjung.com/n00kky
อ้างอิงจาก: หนังสือ กินเปลี่ยนชีวิต ด้วยอาหาร 100 ชนิดจากธรรมชาติ ผู้แต่งโดย เซียว เซียนโอ้ว, เฉิน จิ้นหมิง และ หลี่ เค่อเฉิง
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ไวรัลอีกครั้ง! “I Promise I Will Comeback” รีรันคืนจอ
ตำรวจแยกสอบ 2 เคส! “เวย์ ไทเทเนี่ยม” ถูกเหยื่อแจ้งความฉ้อโกง อ้างชื่อนักธุรกิจดังตุ๋นลงทุนหุ้นทิพย์ สูญกว่า 50 ล้าน
ตร.เผย เวย์ ไทเทเนี่ยม ใช้ชื่อนักธุรกิจดังหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงิน 50 ล้าน
ยาพิษ คนสนิท ความไว้ใจ : บทเรียนราคาแพงว่า…อย่าไว้ใจใครเกินไป
“ย้อนวันวานอาหารจานละ 2-3 บาท กินอิ่มทั้งบ้านด้วยเงินไม่กี่บาท ราคาน่ารักที่วันนี้หาไม่ได้แล้ว”
ทำไมต้องหย่ากัน หลังถูกคดีความ? เหตุผลที่ฟังดูดราม่า…แต่จริงกว่าที่คิด
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia