ออกกำลังกายแล้วปวดหัว (Exercise Headaches)

 

ออกกำลังแล้วปวดหัว หรือ มึนหัว (Exercise Headaches) เกิดจากการใช้แรงในการออกกำลังกายมากเกินไป หรือ ออกกำลังกายผิดท่า ส่งผลให้กล้ามเนื้อของศีรษะ คอ และ หนังศีรษะ ทำงานหนัก ต้องการเลือดเพื่อมาหมุนเวียนมากขึ้น ทำให้หลอดเลือดขยายตัว

โดยส่วนใหญ่จะพบว่าออกกําลังกายแล้วปวดหัวข้างเดียว บางครั้งก็ปวดสองข้าง เป็นจังหวะคล้ายการเต้นของหัวใจ อาการปวดหัวจะเกิดขึ้นตั้งแต่ไม่กี่นาทีไปจนถึงระยะเวลาหลายวัน ขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละบุคคล

 

 

อาการปวดหัวที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดจากการออกกำลังกาย หรือ ออกแรงมากเกินไปนั้น ได้แก่ “อาการวิ่งแล้วปวดหัว”

 

 

สาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้ออกกำลังกายแล้วปวดหัว

• การออกกำลังกายในสภาพอากาศร้อน ส่งผลให้เกิดภาวะเพลียแดด และ สมแดด อุณหภูมิในร่างกายจะสูงขึ้น

 

• ออกกำลังกายบนที่สูง แม้ว่าจะช่วยเพิ่มความแข็งแรง ลดน้ำหนักได้ดี แต่ก็มีความดันที่สูงขึ้น จึงส่งผลให้เกิดอาการปวดหัว

 

• การสูบบุหรี่ หรือ ดื่มแอลกอฮอล์

 

• ความเครียด อ่อนเพลีย และ นอนไม่หลับ

 

• โรคทางพันธุกรรม

 

• โรคไมเกรน

 

• การรับประทานยา (เช่น ยาคุมกำเนิด) หรือ อาหารบางประเภท

 

 

ออกกำลังกายแล้วปวดหัวอันตรายไหม ?

อาการออกกำลังกายแล้วปวดหัว ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตราย สามารถรักษาให้หายได้ตามวิธีรักษาพื้นฐาน 

 

 

แต่เมื่อมีอาการเหล่านี้ควรพักการออกกำลังกายทันที !

• อาการหูอื้อ  

 

• หน้าแดง หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ 

 

• รู้สึกจะวูบ ตาพร่า

 

 

• คลื่นไส้ระหว่างออกกำลังกาย

 

• ออกกําลังกายแล้วตัวเย็น มือเท้าเย็น

 

• ออกกำลังกายแล้วหน้ามืด

 

 

การหลีกเลี่ยง - ดูแล – บรรเทา - รักษา อาการเบื้องต้น

• หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในที่อาการร้อน และ การออกกำลังกายบนที่สูง

 

• หากต้องออกกำลังกายกลางแจ้งให้สวมชุดที่ระบายความร้อนได้ดี สวมหมวด สวมแว่นกันแดด

 

• วอร์มอัพ และ คูลดาวน์ ก่อนและหลัง การออกกำลังกายสม่ำเสมอ

 

• การดื่มน้ำให้เพียงพอ ขณะที่ออกกำลังกายอยู่ควรพักจิบน้ำอย่างน้อย 1-2 แก้ว ทุก 15-20 นาที ให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอ หลัง

 

• ออกกำลังกายควรดื่มน้ำอย่างน้อย 1 ขวดกลางร่วมด้วย

 

 

• การทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล แอสไพริน ยาไมเกรน  ช่วยลดอาการปวดหัว

 

• การประคบเย็น ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นบิดหมาด หรือ ผ้าห่อน้ำแข็งประคบบริเวณที่ปวดประมาณ 10-15 นาที

 

• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

 

• กินอาหารที่มีประโยชน์ วิตามินที่มีประโยชน์ ผักผลไม้ แร่ธาตุสำคัญ ๆ อย่างแมกนีเซียม อาการปวดไมเกรนจะลดลงได้