หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เรื่องสั้นกรุงเทพเมืองซอมบี้ ตอนที่ 12 เรือสําราญซอมบี้

เนื้อหาโดย yongyee

ตอนที่ 12  เรือสําราญซอมบี้           

 

21.44นาที

             

             "นาวาหนึ่งเรียกศูนย์ ทราบแล้วเปลี่ยน!!" เสียงวิทยุสื่อสารดังขึ้นที่ห้องทำงานของศูนย์กู้ภัยทางทะเล

 

              "ศูนย์ทราบแล้ว ว่ามาเลยนาวาหนึ่ง คุณไปลาดตระเวนแถวไหนคะ ทำไมเราไม่ได้รับสัญญาณของคุณเลย" หญิงสาวผมยาวมัดเป็นหางม้ารีบเดินมารับวิทยุที่วางอยู่บนโต๊ะที่ทำงาน

 

              "เจน คุณต้องไม่เชื่อแน่ว่าผมเจออะไร คุณต้องมาดูด้วยตาตัวเองนะ" เสียงชายหนุ่มจากวิทยุที่ตอบกลับมา น้ำเสียงของเขาฟังดูเหมือนกำลังประหลาดใจกับสิ่งที่กำลังพูดออกมา

 

             "ดอม ฟังจากน้ำเสียงคุณก็พอจะเดาออกว่ามันคืออะไร" หญิงสาวพูดยิ้มๆกับวิทยุ

 

             "ให้คุณเดาซักร้อยครั้งก็เดาไม่ออก ไม่เชื่อถามไมค์ดูได้ ใช่ไหมเพื่อน" เสียงชายหนุ่มในวิทยุพูดกับชายอีกคน

 

              "เจนนี่ผมเองไมค์ คุณต้องไม่เชื่อแน่ว่าเราเจออะไร ผมบอกได้คำเดียวว่ามันใหญ่มากๆ" เสียงชายอีกคนดังขึ้นมา

 

              "โอเค โอเค ฉันยอมแพ้ คุณกับดอมเจออะไรคะไมค์" หญิงสาวยิ้ม

 

              "เราเจอเรือสำราญขนาดบิ๊กไซด์กำลังลอยลำอยู่กลางทะเล" ชายหนุ่มที่ชื่อไมค์ตอบกลับมา

 

              "เรือสำราญ!!!! ไม่น่าเป็นไปได้???" เจนประหลาดใจกับสิ่งที่ได้ยิน "น่านน้ำแถวนั้นไม่น่าจะมีเรือสำราญแล่นผ่านมาได้ มันเป็นเขตน้ำตื้นอันตรายมากๆถ้าแล่นผ่าน!!!"

 

              "เชื่อเถอะผมเองก็ประหลาดใจไม่แพ้คุณที่รัก" ไมค์ตอบกลับมา

 

             "ดูชื่อเรือให้ด้วยนะคะ ฉันจะตรวจสอบทางอินเตอร์เน็ตให้เองว่าเป็นเรือของใคร" เจนมาที่คอมพิวเตอร์เมื่อพูดจบ

 

            "ขับไปที่หัวเรือทีซิดอม!!!" ไมค์ตะโกนบอกดอมผ่านทางวิทยุที่เจนได้ยิน

 

            "เอ่อเจน...ชื่อเรือเปกาซัสคราย ถ้าผมอ่านไม่ผิดนะ" ไมค์พูดผ่านวิทยุ

 

            เจนรีบหาข้อมูลในคอมพิวเตอร์ทันที "ไมค์คุณแน่ใจนะว่าอ่านชื่อถูก เพราะฉันไม่เจอรายชื่อเรือที่ว่านี่เลย" เจนวิทยุตอบไป

 

           "ถึงผมจะไม่เก่งภาษาแต่ชื่อง่ายๆแบบนี้ให้ดอมมาอ่านยังอ่านออกเลย" ไมค์วิทยุตอบ

 

           "แต่ไม่มีนะคะ ฉันพยายามหารายชื่อเรือสำราญที่จดทะเบียนเพื่อเทียบท่าในไทยแล้ว แต่ไม่มีรายชื่อเรือลำนี้เลย" เจนเริ่มสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น "รอบๆเรือเป็นยังไงบ้าง มีคนบ้างไหมคะ" เจนวิทยุถาม

 

         "เท่าที่ขับวนดูก็ยังไม่เห็นใครเลยแต่ไฟยังติดอยู่ ไมค์ลองเรียกดูหน่อยเพื่อว่าจะมีคนตอบกลับมา" ดอมตะโกนบอกไมค์

 

         "โอเค" ไมค์ตะโกนตอบกลับมา เสียงนั้นได้ยินผ่านทางวิทยุที่เจนใช้คุยในห้องทำงาน

 

         "ไปกันแค่สองคนจะไหวรึเปล่า ให้เราส่งคนไปสนับสนุนด้วยดีไหม" เจนวิทยุกลับไป

 

          "ไม่เป็นไร ผมกับไมค์แค่สองคนก็เอาอยู่" ดอมที่เป็นคนขับเรือวิทยุพูดกับเจน

 

          "ผู้โดยสารเรือเปกาซัสครายทราบแล้วเปลี่ยน!!! เราหน่วยกู้ภัยทางทะเลที่1 ถ้าได้ยินแล้วก็บอกเราด้วย!!!" ไมค์ตะโกนผ่านโทรโข่งในเรือ

 

          "ไม่มีใครตอบกลับมาเลย เดี๋ยวผมจะขึ้นไปสำรวจบนเรือซะหน่อยแล้วกัน มีอะไรจะรีบแจ้งให้ทราบทันทีเปลี่ยน" ดอมบอกกับเจน

 

          "ระวังตัวด้วยนะคะ!!" เจนบอกกับดอม ซึ่งนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองคนติดต่อกลับมา ก่อนจะขาดการติดต่อไปโดยที่ไม่สามารถติดต่อทั้งสองได้อีกเลย

 

          สามชั่วโมงผ่านไป....

 

         "ศูนย์เรียกนาวา1เปลี่ยน ตอบด้วยเปลี่ยน!!!" เจนยังคงวิทยุเรียกดอมแต่ก็ไม่มีอะไรตอบกลับมา หญิงสาวรู้สึกเป็นห่วงทั้งสองคนเป็นอย่างมาก

 

           "มันนานเกินไปแล้วนะครับหัวหน้า นี่มันตั้งสามชั่วโมงไปแล้วที่ทั้งสองคนขาดการติดต่อ" ชายร่างบึ้กหนึ่งในหน่วยกู้ภัยที่อยู่กับเจนในห้องทำงาน พูดขึ้นด้วยความเป็นห่วงเพื่อนร่วมงานทั้งสองคน

 

           "เราควรออกไปค้นหาเขานะครับ ไม่แน่ทั้งคู่อาจจะกำลังเดือดร้อนอยู่" ชายสวมแว่นเพื่อนร่วมงานอีกคนของเจนพูดเสริม

 

           "อีกอย่างเรือลำนั้นก็ดูไม่ค่อยน่าไว้วางใจเท่าไหร่เลยคะหัวหน้า เท่าที่ตรวจสอบดูก็ไม่พบว่ามีเรือลำนี้อยู่ในระบบจดทะเบียนที่ไหนเลย ทั้งที่เรือใหญ่ขนาดนั้นไม่น่าจะรอดพ้นหูพ้นตาใครไปได้ง่ายๆ" เจนบอกกับหัวหน้าด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

           "หรือเป็นไปได้ว่ามีคนจงใจปิดบัง" ชายสวมแว่นพูดขึ้นมาอย่างน่าคิด

 

            "ที่พวกคุณสามคนพูดมามีเหตุผล เอาเป็นว่าผมอนุญาติให้พวกคุณไปสำรวจเรือลำนั้นได้ เอาอาวุทไปด้วยเท่าที่จำเป็น และมีอะไรก็รีบรายงานมาที่ผมทันที เข้าใจไหม!!" ชายแก่หัวหน้าหน่วยกู้ภัยบอกกับลูกน้องของตน

 

            "ค่ะ/ครับ" ทั้งสามรับคำพร้อมกัน

 

            เรือหน่วยกู้ภัยนาวา2ที่แล่นออกจากท่า ประกอบไปด้วยเจนหญิงสาวเพียงคนเดียวในหน่วย เธออยู่หน่วยพยาบาล ชายร่างบึกชื่อโก๊ะอยู่หน่วยกู้ชีพ ชายสวมแว่นชื่อชายอยู่หน่วยสื่อสารนักท่องเที่ยว และชายแก่ชื่อลุงทิ้งเป็นคนขับเรือ ทั้งหมดขับเรือออกจากท่าเพื่อไปเป็นหน่วยสนับสนุนเรือนาวา1ที่ขาดการติดต่อไป

 

           ระหว่างที่เรือกำลังแล่นไป ใจของเจนนั้นกลับรู้สึกร้อนรนเป็นอย่างมาก เพราะความเป็นห่วงดอมแฟนหนุ่มของเธอ

 

          "ได้ข่าวว่าหมอนั่นขอเธอแต่งงาน" ชายเดินมาคุยกับเจนที่ท้ายเรือ

 

          "ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน แค่เรื่องตลกๆที่อำกันเล่นๆเท่านั้นเอง" เจนหันมายิ้มให้ชายสวมแว่น

 

          "งั้นหรอ.... หมอนั่นต้องไม่เป็นอะไรเชื่อผมเถอะ" ชายปลอมใจเจน

 

          "ขอบคุณคะ" เจนยิ้มตอบ

 

           เรือนาวา2แล่นมาถึงเรือสำราญขนาดใหญ่กลางทะเล ขนาดของเรื่องนั้นเทียบเท่ากับเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ลำนึงเลยที เดียว ทุกคนในทีมต่างพากันยืนอึ้งอ้างปากค้างกับขนาดความใหญ่ของเรือสำราญลำนี้

 

            "ไม่มีเรือ!!!" เจนคิ้วขมวดเธอพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแปลกใจ เมื่อวนรอบๆเรือสำราญหลายรอบแต่ก็ไม่พบเรือของนาวา1เลย

 

            "เป็นไปไม่ได้!!??? ทำไมไม่มีเรือ???" โก๊ะชายร่างบึกเกาหัวด้วยความสงสัย

 

            "อาจจะเกิดเหตุอะไรก็ได้ ตอนนี้ที่เราทำได้คือขึ้นไปสำรวจบนเรือ ไม่แน่พวกเขาอาจจะอยู่บนนั้นก็ได้" ชายหนุ่มสวมแว่นพูดกับเจน

 

            "ชายพูดถูก เราไปดูกันเถอะ" โก๊ะบอกกับเจน

 

            ทั้งหมดยกเว้นลุงทิ้งที่เป็นคนขับเรือ รอประจำการอยู่ที่เรือเพียงคนเดียว นอกนั้นก็ใช้ปืนยิงตะขอเกี่ยวขึ้นไปบนเรืออย่างชำนาญ เพราะด้วยหน้าที่ของหน่วยกู้ภัยทางทะเล คือการตรวจสอบปกป้องคุ้มกันภัยทางทะเล การปีนป่ายขับเรือว่ายน้ำจึงเป็นเรือปกติที่พวกต้องฝึก รวมถึงการใช้อาวุทที่มีน้อยครั้งมากที่จะต้องมีอาวุทมาร่วมในการตรวจสอบ ซึ่งนาวา1ที่หายตัวไปนั้นทั้งไมค์และดอมไม่ได้พกอาวุทติดตัวเลย จึงทำให้เจนรู้สึกเป็นห่วงทั้งสองเป็นอย่างมาก

 

             "พร้อมแล้วนับสามนะ" เจนมองตาเพื่อนทั้งสองคนระหว่างห้อยอยู่ที่ท้ายเรือสำราญขนาดใหญ่

 

             "สาม!!!" ทั้งหมดกระโดดขึ้นเรือทันทีพร้อมกับชักปืนเตรียมพร้อม

 

             สายฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างเป็นใจ เมื่อทั้งสามคนขึ้นมายังท้ายเรือเปกาซัสคราย ที่เป็นลานกว้างขนาดใหญ่ที่เอาไว้สังสรรค์ของนักท่องเที่ยว มีสระว่ายน้ำสีฟ้าสุดหรูขนาดใหญ่อยู่กลางลาน ด้านข้างสระน้ำมีเตียงนอนชายหาดมีโต๊ะมีอาหารและเครื่องดื่มวางทิ้งเอาไว้โดยที่ยังทานไม่เสร็จ

 

              "ไม่มีคนเลยน่าแปลกนะว่าไหม" ชายพูดขึ้นมาระหว่างเดินสำรวจที่โต๊ะอาหารท่ามกลางสายฝน "ไฟฟ้ายังคงทำงาน"

 

              "อาหารยังใหม่ไม่บูด" โก๊ะชายร่างบึกหยิบอาหารมดมก่อนจะบอกกับคนทั้งสอง

 

               "หน้าที่ของเราคือสำรวจเรือลำนี้และตามหาดอมกับไมค์ แยกกันไปตรวจสอบแล้วกัน ชายคุณไปสำรวจห้องคนขับดูซิว่าที่นั่นยังมีคนไหม โก๊ะคุณกับฉันไปที่ห้องโถงกลางถ้ามีคนอยู่ที่นั่นจะเป็นที่ๆมีคนเยอะที่สุด" เจนบอกกับเพื่อนร่วมงานทั้งสองคน

 

               "ทางคุณเป็นอย่างไรบ้างเจนเปลี่ยน" เสียงชายแก่หัวหน้าของเจนวิทยุเธอที่ศูนย์บนฝั่ง

 

               "เรามาถึงเรือแล้วคะแต่ไม่พบเรือนาวา1เลย เราเลยขึ้นมาบนเรือสำราญ ตอนนี้กำลังส่งแว่นไปตรวจที่ห้องควบคุมเรือ ส่วนฉันกับโก๊ะจะไปสำรวจห้องโถงคะ" เจนรายงานหัวหน้า

 

               "ดี ระวังตัวด้วย มีอะไรรายงานผมเป็นระยะ" ชายแก่บอกกับเจน

 

                "ค่ะทราบแล้ว" เจนเอามือออกจากปุ่มวิทยุที่หูระหว่างเดินสำรวจ เธอเอาหมวกที่นำมาด้วยมาสวมบนหัวระหว่างเดิน ขณะที่โก๊ะชายร่างบึกยังคงเดินด้วยท่าทางสบายๆกับปืนลูกซองหกนัดในมือ

 

                 "ไม่คิดเลยนะว่าเธอกับดอมจะแต่งงานกัน บอกตามตรงฉันตกใจมากๆเลย" โก๊ะพูดยิ้มๆระหว่างเดินสำรวจเรือ

 

                 "โอ๊ย...ไร้สาระน่า อย่าไปเชื่อสิ่งที่ดอมพูดเลย" เจนพูดยิ้มๆด้วยน้ำเสียงนิ่งๆระหว่างเดินในสายฝน เธอไม่มีอารมณ์ล้อเล่นแม้แต่น้อย

 

                "ฉันรู้ว่าเธอเป็นกังวลเรื่องดอม แต่เชื่อซิหมอนั่นต้องปลอดภัย" ชายร่างบึกพูดกับเจนขณะที่เธอใช้หางตามองมาทางชายร่างบึก

 

                "ขอบใจ"เจนฝืนยิ้ม "ตอนนี้ฉันอยากจะทำอะไรที่สุดรู้ไหม ฉันอยากจะต่อยหน้าดอมกับไมค์จังๆสักหมัด ข้อหาทำให้ทุกคนต้องเป็นห่วง"

 

                "นั่นซิ" โก๊ะพูดยิ้มๆ "ไม่ใช่ป่านี้สองคนนั่นกำลังนั่งดื่มวีสกี้จีบสาวๆในห้องโถงของเรืออยู่ ถ้าเป็นแบบนั้นผมคนนึงล่ะที่จะตืบมันทั้งคู่ติดดินเอง" ทั้งสองคนยิ้มให้กันระหว่างเดินท่ามกลางสายฝน

 

                "เจน!!!" ชายร่างบึกพูดไม่ทันจบเขาก็เรียกเจนให้ดูอะไรบางอย่างตรงหน้า

 

                "ดูนั่นซิ...!!!" โก๊ะเรียกเจนเมื่อเขาเห็นหญิงสาวในชุดบีกินนี่ทูพีชสีแดง กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะท่ามกลางสายฝนที่ด้านข้างของเรือ ดูเหมือนเธอกำลังนั่งกินอะไรบางอย่างอยู่ที่นั่น

 

                  "คุณคะ!!!..คุณ!!" เจนตะโกนเรียกหญิงสาวท่ามกลางสายฝนที่ตกหนักจนมองทางข้างหน้าแทบไม่เห็น

 

                  "คนบ้าอะไรมาใส่ชุดว่ายน้ำมานั่งตากฝนคนเดียวแบบนี้" ชายร่างบึกพูดกับเจนระหว่างเดินไปหาหญิงสาวคนนั้น

 

                 "คุณคะ" เจนจับไหล่หญิงสาวเพื่อสะกิดเธอให้หันมา

 

                "!!!!?????" เจนกับโก๊ะสะดุ้งสุดตัวเมื่อหญิงสาวในชุดทูพีชหันมา

 

              "เจนออกมาก่อน!!!" โก๊ะดึงเจนที่ไหล่เพื่อให้ถอยหลังออกมา เมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวในชุดทูพีชที่หันมานั้นหายไปครึ่งซีก เห็นแต่ใบหน้าที่เละไร้เค้าโครงของมนุษย์อยู่แล้ว ขณะที่บนตักของหญิงสาวก็มีหัวของชายคนนึงที่ทั้งสองคนรู้จักดีแต่มีสภาพถูกกัดกินจะเละไปหลายส่วน ซึ่งนั่นก็คือหัวของไมค์นั่นเอง

 

                 "นั่นไมค์!!!" เจนตะโกนออกมาด้วยท่าทางตกใจสุดขีด

 

                 "ก๊ากกก!!! ก๊ากกก!!!  ก๊ากกกก!!" หญิงสาวหน้าเละในชุดทูพีชร้องตะโกนสุดเสียง เธอรีบลุกขึ้นทิ้งหัวของไมค์ลงที่พื้น และวิ่งเข้าหาโก๊ะชายร่างบึกทันที

 

                 "นังบ้า...!!!" ชายร่างบึกยิงปืนลูกซองใส่หญิงสาวในชุดทูพีชจนเธอล้มลง แต่ไม่นานเธอก็ลุกขึ้นมาได้อีกครั้งทั้งที่มีรูกระสุนและเลือดไหลออกมาจากท้อง

 

                 "อะไรกันว่ะเนี้ย...!!!! ?" โก๊ะอุทานออกมาด้วยความตกใจ

 

                "ก๊ากกกก!!! ก๊ากกก!!!" หญิงสาวหน้าเละในชุดทูพีชวิ่งมาอีกครั้ง แต่หนนี้เจนตั้งสติและยิงที่หัวของผีดิบตัวนั้นจนมันล้มลงตายคาที่

 

              "ดีนะที่เคยดูหนังซอมบี้" เจนเดินมาดูศพหญิงสาวว่าตายสนิทรึยัง ขณะที่ชายหนุ่มเดินมาดูหัวเพื่อนร่วมงานของตนที่ถูกทิ้งบนพื้น

 

               "พระเจ้านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี้ย!!!" ชายร่างบึกอุทานออกมาดังๆด้วยความโมโห

 

                "ดอม!!!" เมื่อเห็นศพของไมค์ก็ยิ่งทำให้เจนเป็นห่วงดอมมากขึ้นไปอีก

 

                 "ศูนย์ทราบแล้วเปลี่ยน ศูนย์...!!!" เจนพยายามติดต่อกับทางฝั่งเพื่อรายงานสิ่งที่เจอ แต่ไม่มีใครตอบกลับมาเลย

 

                  "ติดต่อใครไม่ได้เลย!!!" เจนบอกกับโก๊ะ

 

                   "นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!!! ใครเป็นคนทำว่ะ!!!" โก๊ะตะโกนออกมาด้วยความโมโห

 

                  "ปัง!! ปัง!! ปัง!!!" จู่ๆก็มีเสียงปืนดังขึ้นมาหลายนัดด้านในเรือ ทั้งสองคนจึงรีบวิ่งตามเข้าไปทันที

 

                  ทั้งสองรีบเข้ามาด้านในเรือตามเสียงปืนที่ได้ยิน ด้านในของเรือเมื่อเปิดประตูเข้ามา ก็เป็นห้องจัดเลี้ยงสุดหรูที่มีบันไดสามแพร่งปูด้วยพรมแดงอยู่ตรงหน้า ด้านบนมีโคมไฟระย้าคริสตัลแขวนอยู่กับโต๊ะจัดเลี้ยงที่มีอาหารวางอยู่เต็มโต๊ะ แต่หลายโต๊ะก็ล้มระเนระนาดและมีซากศพนอนกองตามพื้นหลายศพเหมือนที่นี่เพิ่ง เกิดฆาตกรรมหมู่เกิดขึ้นมา

 

                     "อุ๊บ..!!!เหม็นชิบ!!"  โก๊ะอุทานออกมาเมื่อได้กลิ่นเหม็นเน่าของซากศพและคาวเลือดที่คลุ้งอยู่ในห้องจัดเลี้ยงแห่งความตายนี้

 

                     "ศพพวกนี้คงตายมานานหลายชั่วโมงแล้ว" เจนสำรวจศพโดยไม่สนใจกลิ่นเหม็น "ดูซิสภาพศพเหมือนถูกกัดด้วยฟัน ไม่ใช่ร่องรอยของการถูกยิงหรือแทงด้วยของมีคม"

 

                     "ที่นี่มันนรกชัดๆ" ชายร่างบึกอุทานออกมา "อย่าบอกนะว่าคนบนเรือกลายเป็นแบบผู้หญิงคนนั้น!!??"

 

                     และตอนนั้นเองก็มีเสียงปืนดังขึ้นอีกครั้งนึง ที่ด้านในของอาคารทางทิศตะวันตกของเรือ ทั้งสองจึงรีบตามเสียงปืนไปทันทีอย่างไม่รอช้า

 

                    ระหว่างทางที่ทั้งสองคนวิ่งเข้าไปด้านในของเรือ ก็พบซากศพของคนมีเงินในชุดสุดหรูทั้งชายหญิง นอนตายจมกองเลือดไส้ทะลักหัวขาดแขนหายเต็มพื้นระหว่างทางเดิน สร้างความสะเทือนใจให้โก๊ะเป็นอย่างมาก แต่ไม่ใช่กับเจนเพราะเธอในตอนนี้ห่วงความเป็นความตายของดอมแฟนหนุ่มของเธอมากกว่า

 

               ทั้งสองคนวิ่งมาถึงด้านในของห้องโถงปีกตะวันตก เธอก็พบกับหญิงสาวคนนึงในชุดกระโปรงสีชมพูสวมส้นสูง กำลังถือปืนวิ่งมาทางทั้งสองพอดี

 

               "กรี๊ดดดด!!!" หญิงสาวร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นทั้งสองคนที่ทางเดิน เธอเล็งปืนมาทางเจนและโก๊ะด้วยความตกใจ

 

               "หยุดก่อน!!! เราเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยทางทะเล เรือของคุณส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเรา!!!" เจนบอกกับหญิงสาวที่กำลังตกใจจนเธอได้สติ

 

                "เราต้องหนีไปจากที่นี่!!! ที่นี่มีแต่พวกผีดิบไล่กินคน!!!"  หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงประหม่าตกใจกลัวสุดขีด เนื้อตัวของเธอนั้นเต็มไปด้วยบาดแผลและคราบเลือดตามตัว เหมือนเธอต้องหนีตายจากอะไรบางอย่างมาอย่างยากลำบาก

 

                "เรายังไปไม่ได้ เราต้องหาสาเหตุว่าที่นี่มันเกิดอะไรขึ้น และต้องตามหาเพื่อนร่วมทีมเราอีกคนที่หายตัวไปจากเรือนี้" เจนบอกกับหญิงสาวที่กำลังตกใจ

 

                "ไม่มีใครรอดจากเรือลำนี้หรอกเชื่อฉันซิ!!!" หญิงสาวพูดเสียงดังด้วยอาการช๊อคที่ยังมีอยู่ "ฉันเห็นมากับตา จู่ๆทุกคนก็กลายเป็นบ้าแล้วก็ไล่กินกันเองบนเรือ

 

                ย้อนภาพกลับไปภายในงานเลี้ยงสุดหรู ตรงห้องโถงที่เพิ่งผ่านมา ภายในห้องจัดเลี้ยงที่มีคนรวยแต่งตัวหรูหราสวยงามเดินไปมา มีเพลงบรรเลงเบาๆบนเวทีกับอาหารสุดหรูพร้อมบริการ จนกระทั่งจู่ๆก็มีใครคนนึงในห้องนั้นเกิดติดเชื้อ ชายคนนั้นตรงเข้าไปกัดหญิงสาวชุดสีฟ้าที่อยู่ใกล้ๆ ขณะที่หญิงสาวชุดเกาะอกสีชมพูอีกคนตรงมุมนึงของห้องก็มีอาการคลั่งเหมือนกัน และแขกภายในงานก็เริ่มเป็นบ้าทีละคน จนกระทั่งเกิดความวุ่นวาย ผู้คนหนีตายไปคนล่ะทาง คนที่ถูกกัดก็จะติดเชื้อกลายเป็นผีดิบ ขณะที่คนอื่นๆที่หนีไม่ทันก็กลายเป็นอาหารของผีดิบในที่สุด....

 

                "คุณชื่ออะไร" โก๊ะถามหญิงสาว

 

                "เบล....ชื่อเบล!!!" หญิงสาวตอบ

 

                "เธอไปโดนอะไรมา" เจนถามเบลเมื่อเห็นมือของเธอเป็นรอยฟันเหมือนถูกกัด

 

               "ก๊ากกก!! ก๊ากกก!!!" ตอนนั้นเองก็มีเสียงร้องของอะไรบางอย่างดังขึ้นมาที่ด้านหลังของเบล

 

              "หาที่หลบเร็วเข้า!!! พวกผีดิบมาทางนี้แล้ว!!!" เบลบอกกับคนทั้งสอง

 

               "โก๊ะ!!!" เจนบอกกับโก๊ะให้อุ้มเบลที่เดินแทบไม่ไหว ให้รีบตามเธอมาแอบที่ห้องพักห้องหนึ่งที่ทางเดินระหว่างอาคาร

 

                เจนแอบดูที่ตาแมวหน้าประตูเมื่อเข้ามาในห้องพักสำเร็จ เธอเห็นกลุ่มคนที่อยู่ในชุดสุดหรูทั้งชายหญิงที่มีสภาพเหมือนศพวิ่งผ่านประตูไปอย่างรวดเร็วหลายสิบคน

 

               "นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนบนเรือถึงกลายเป็นผีดิบแบบนี้ไปได้!!!" เจนเดินมาถามเบลที่นั่งอยู่บนเตียงในห้องพัก

 

              "ไม่รู้...ฉันไม่รู้...??? ฉันเองก็รู้เท่าพวกคุณนี่ล่ะ" เบลนั่งก้มหน้าเอามือทั้งสองข้างปิดหน้าตัวเอง

 

              "ตั้งสติเอาไว้!!! เล่าสิ่งที่คุณรู้มาให้หมด!!!" เจนเขย่าไหล่ของเบลแรงๆเพื่อเรียกสติของเธอ

 

               "ฉันเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นเรากำลังจัดงานเลี้ยงอยู่ดีๆ จู่ๆแขกในงานหลายคนก็เกิดอาการคลั่งไล่กัดคนในงาน แล้วคนอื่นๆก็กลายเป็นผีดิบไล่กินคนบนเรือ ฉันเองก็ได้แต่หนีเอาตัวรอดจนมาเจอพวกคุณนี่ล่ะ" หญิงสาวมีอาการเหมือนคนเมาเหล้า เธอก้มหน้าพูดเบาๆช้าๆจนจะล้มตัวลงนอนบนที่นอนเหมือนคนหมดสติ

 

                "บ้าเอ๊ย...!!!" เจนอุทานออกมาดังๆเมื่อจับชีพจรของเบลและรู้ว่ามันไม่เต้นแล้ว

 

                "เราเอาไงต่อดีล่ะ" โก๊ะชายร่างบึกถามกับเจน

 

               "เราต้องตามหาดอม เขาอาจยังมีชีวิตรอดอยู่" เจนไม่ตัดใจที่จะตามหาแฟนของเธอ

 

                 "นี่คุณจะบ้าหรือไง..!!! ไม่เห็นรึไงว่าที่นี่เป็นนรกขนาดไหนแล้ว ต่อให้หมอนั่นรอดก็ใช่ว่าจะไม่กลายเป็นศพไปแล้ว!!!"  โก๊ะตะโกนว่าเจนแต่เธอไม่สนใจ

 

               "ฉันจะไป...ฉันจะไปตามหาเขา!!!" เจนยังยืนยันคำเดิม

 

               ทั้งสองคนยืนเถียงกัน โดยที่ไม่รู้เลยว่าเบลที่น่าจะตายไปแล้ว ลุกขึ้นมาจากเตียงและพุ่งตรงมาทำร้ายคนทั้งคู่ โดยที่ไม่ทันตั้งตัว

 

                "ระวัง...!!!" โก๊ะพลักเจนออกไปพ้นทางเมื่อเห็นเบลวิ่งมาหาเจน

 

                "อ๊ากกกกก!!!" ชายร่างบึกถูกกัดที่แขนเมื่อพลักเจนออกไปพ้นทาง เขารวบรวมสติและใช้มือทั้งสองข้างบิดคอของเบล จนหัวหันมาด้านหลังล้มลงตายคาที่บนพื้น

 

                 "นายถูกกัด...!!!" เจนพูดกับโก๊ะด้วยน้ำเสียงตกใจ เมื่อเห็นแผลถูกกัดที่แขนของชายร่างบึก "เราต้องรีบไปหาหมอ ฉันจะพานายไปเรือเราจะได้ไปจากที่นี่กัน" เจนพยายามพยุงตัวของโกะให้ลุกขึ้น ตอนนี้เธอเป็นห่วงความปลอดภัยของโก๊ะมากกว่าแล้ว

 

                  "เรื่องเล็กน้อยแค่แผลถูกกัดเท่านั้นเอง ไกลหัวใจเยอะ!!!"" ชายร่างบึกพูดไปไอไป ตอนนี้เขาดูไม่มีแรงแม้แต่จะเดิน

 

                  "เข้มแข็งแบบนี้ค่อยหายห่วงหน่อย เอาลุกขึ้นยืนเราจะได้ไปจากที่นี่กัน" เจนพยายามพยุงโก๊ะมาแบกที่ไหล่ เธอพยุงตัวช่ายที่ร่างใหญ่กว่าตนเองออกมาจากห้องพัก

 

                 ระหว่างทางเดินออกจากปีกตะวันตก ทั้งสองก็พบกับผีดิบตรงหน้าสองตัวยืนอยู่

 

                 "เฮ้ย!!!" เจนตะโกนเรียกผีดิบสองตัวให้หันมา ก่อนที่เธอจะยิงพวกมันกลางแซกหน้าอย่างแม่นยำ

 

                  "ดีกรีทีมชาติแม่นเป็นจับวาง แค่ก แค่ก" โก๊ะพูดไม่ทันจบเขาก็ไอออกมาอย่างรุนแรง และทรุดลงนั่งกับพื้น

 

                  "นายต้องไปต่อ!!! เร็วเข้าลุกขึ้น!!!!" เจนพยายามจะช่วยพยุงชายร่างบึกแต่เค้าตัวหนักเกินกว่าที่เธอจะพยุงไหว

 

                  "ผมไปต่อไม่ไหวแล้ว แค่ก แค่ก!!!" โก๊ะไอออกมาเป็นเลือด เขาหายใจติดขัดหน้าซีดและเหงือออกเป็นจำนวนมาก

 

                  "คุณต้องไหวซิเร็วเข้า!!! อย่าเพิ่งหมดหวังเอาตอนนี้" เจนพูดเสียงดังเรียกสติชายหนุ่มร่างบึก แต่โก๊ะกลับเริ่มจะหมดสติลงทุกที

 

                  "คุณช่วยอะไรเขาไม่ได้หรอก" จู่ๆก็มีเสียงหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นมาที่ทางเดินตรงหน้าที่คนทั้งสองจะไป

 

                  หญิงสาวคนนี้สวมแว่นทรงสี่เหลี่ยมผมยาว สวมชุดกราวเหมือนหมอ ในมือของเธอมีปืนและกำลังเล็งมาทางคนทั้งสอง

 

                   "ถูกกัดแบบนั้นคงอีกไม่นานเชื้อก็จะแพร่กระจายจนกลายเป็นพวกศพเดินได้" หญิงสาวสวมแว่นพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

 

                   "คุณถูกกัดรึเปล่าคุณหน่วยกู้ภัย" หญิงสาวสวมแว่นถามเจน

 

                  "เปล่า ฉันไม่ถูกกัด" เจนบอกกับเธอ "คุณเป็นหมอรึเปล่า คุณแอนนา เฟรย่า" เจนอ่านป้ายชื่อที่ติดบนหน้าอกของหญิงสาวสวมแว่น

 

                  "ใช่ ฉันเป็นหมอ" แอนนาตอบ "ตอนนี้เพื่อนของคุณคงไม่รอดแล้ว คุณควรรีบฆ่าเขาก่อนที่เขาจะเปลี่ยนร่างจะดีกว่า" หญิงสาวสวมแว่นเล็งปืนมาทางโก๊ะ

                  

                  "คุณจะบ้ารึไงเขา!!! เขาแค่ถูกกัดเท่านั้น!!" เจนพูดเสียงดังบอกกับแอนนา

 

                   "นั่นล่ะปัญหา คนที่ถูกกัดจะเปลี่ยนเป็นผีดิบในอีกไม่ช้า แล้วแต่ภูมิต้านทานของแต่ละคน" แอนนาบอกด้วยท่าทางสงขุมเยือกเย็น

 

                    "คุณ....!!!" ไม่ทันที่เจนจะพูดจบ จู่ๆโก๊ะที่นอนอยู่ก็เปลี่ยนร่างกลายเป็นผีดิบจะเข้ามาทำร้ายเจนที่อยู่ใกล้ๆทันที

 

                    "ปัง!!!" แอนนายิงกลางแซกหน้าโก๊ะจนเขาล้มลงนอนตายคากองเลือด ท่ามกลางความตกใจของเจน

 

                    "บ้าเอ๊ย....!!!" เจนอุทานออกมาเสียงดังด้วยความเสียใจ

 

                    "คุณมากันกี่คน" แอนนาถามเจนที่กำลังเสียใจ

 

                    "4คนรวมคนขับเรือ" เจนพูดเสียงเศร้า เธอนั่งร้องไห้จนเดินต่อไม่ไหวแล้ว

 

                     "คิดว่าจะมาเยอะกว่านี้ตอนขอความช่วยเหลือออกไป" แอนนาขยับแว่นตัวเองด้วยน้ำเสียงเย็นชาแววตาไร้ความรู้สึก

 

                     "คุณเป็นคนส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปใช่ไหม" เจนถามแอนนา

 

                     "ใช่ ฉันส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือเอง" แอนนาพยักหน้า

            

                     "งั้นคุณก็รู้ซินะว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ พาฉันไปที่เครื่องส่งสัญญาณ ฉันจะติดต่อไปทางหัวหน้า!!!" เจนถามด้วยน้ำเสียงสลด

 

                     "เราต้องหนีออกไปจากที่นี่ เรือลำนี้ไม่ปลอดภัย" แอนนาไม่ตอบคำถามของเจนเธอบ่ายเบี่ยง

 

                     "ตอนนี้ฉันเสียเพื่อนร่วมทีมไป2คน และอีก2คนที่ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง ถ้าเธอไม่ตอบคำถามฉันมาล่ะก็ ฉันจะเจาะหน้าเธอให้เป็นรูเพิ่มขึ้นอีกฉันสามบาน!!!" เจนลุกขึ้นยืนเล็งปืนมาทางแอนนา เธอกัดฟันพูดด้วยความโมโห

 

                    "เราต้องหนีออกไปจากที่นี่ แต่ถ้าอยากรู้คำตอบก็ตามฉันมา" แอนนาสบตากับเจนเธอพูดด้วยแววตานิ่งเฉย

 

                     "แต่ฉันต้องตามหาเพื่อนร่วมงานอีกสองคนในเรือลำนี้ที่หายตัวไป เราต้องตามหาพวกเขาก่อน" เจนแย้งออกมา

 

                    "งั้นก็ต้องไปที่นั่นก่อน ตามมาซิ" แอนนาพาเจนเดินออกจากทางเดินปีกตะวันตกไปยังห้องควบคุมกล้องวงจรปิดที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น

 

                    "วิทยุเครื่องส่งถูกใครบางคนทำลายไปหลังจากฉันขอความช่วยเหลือไม่นาน" แอนนาที่เดินเข้ามาในห้องที่มีจอทีวีมากมายพูดกับเจน "ฉันพยายามใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อออกไปข้างนอก แต่ดูเหมือนที่นี่จะเป็นจุดอับสัญญาณ ส่วนกล้องพวกนี้มันเปล่าประโยชน์ที่จะดู ฉันเพิ่งออกมาจากห้องนี้ก่อนจะเจอคุณ" แอนนายืนกอดอกมองดูเจนที่กำลังกดคอมพิวเตอร์ ตรวจสอบกล้องวีดีโอที่ห้องควบคุมเรือและตามที่ต่างๆในเรือ เพื่อตามหาเพื่อนทั้งสองคนที่อาจจะยังมีชีวิตอยู่

 

                    "ชายดอมพวกนายหายไปไหนกันหมด" เจนบ่นออกมาด้วยความว้าวุ่นใจ เธอกดแป้นพิมพ์ผิดๆถูกๆเพราะไม่มีสมาธิ

 

                    "มาฉันทำเอง คุณกำลังตามหาเรือกู้ภัยลำแรกที่มาใช่ไหม" แอนนาพูดจบเธอก็เดินมากดที่คอมพิวเตอร์ เพื่อย้อนเวลากลับไปตอนที่ไมค์กับดอมเพิ่งมาถึง

 

                    "!!!" เจนรู้สึกดีใจที่เห็นคนทั้งสองขึ้นมาบนเรือผ่านทางกล้องวงจรปิด โดยที่หลังจากนั้นไม่นานเรือนาวา1ที่ทั้งสองคนโดนสารมาก็เกิดระเบิดอย่างไม่ทราบสาเหตุ

 

                   "เกิดอะไรขึ้น!!!" เจนถามแอนนาถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

 

                   "ฉันไม่รู้ ส่วนนี่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีนี้" แอนนาส่ายหน้า เธอกดไปที่แป้นพิมพ์อีกครั้งเพื่อฉายภาพจากกล้องวงจรปิดอีกอันในเวลาต่อมา

 

                   "บ้าน่า!!!!" เจนอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเธอเห็นเรือนาวา2ที่ตนโดยสารมานั้นเกิดระเบิด อย่างไม่ทราบสาเหตุเมื่อไม่กี่นาทีนี้

 

                   "ฉันเองก็พยายามหาคำตอบเหมือนคุณนั่นล่ะ จึงมาที่นี่ แต่ก็ไม่พบอะไร" แอนนายืนกอดอกพูดกับเจนด้วยสีหน้านิ่งเฉย

 

                   เจนที่สิ้นหวังหันปากกระบอกปืนมาทางแอนนาที่ยืนนิ่งไม่ตอบโต้อะไร "เธอเป็นใครกันแน่!!!" เจนถามแอนนาด้วยความโมโห

 

                   "ฉันคือปีศาจที่สร้างนรกแห่งนี้ขึ้นมา" แอนนาตอบด้วยสีหน้านิ่งเฉย "และฉันต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไป"

 

                   "เธอสร้างเชื้อบ้าพวกนี้ขึ้นมาอย่างงั้นหรือ" เจนหายใจแรงขึ้นด้วยความตื่นเต้นเมื่อเจอต้นตอของสาเหตุ

 

                    "จะว่าอย่างนั้นก็ถูกแค่ครึ่งเดียว ฉันไม่ใช่คนสร้างเชื้อไวรัสตัวนี้ แต่ฉันคือคนที่นำมันมาดัดแปลงเพื่อให้มันเอามาใช้ประโยชน์ได้มากที่สุดเท่านั้น" แอนนาเดินมานั่งที่เก้าอี้ระหว่างพูดโดยไม่สนใจปืนที่เล็งมาเลยแม้แต่น้อย

 

                   "แล้วการทดลองก็ผิดพลาด เชื้อไวรัสรั่วไหลออกมาจนทำให้คนบนเรือกลายเป็นผีดิบ การท้าทางพระเจ้าด้วยการสร้างปีศาจ สุดท้ายปีศาจนั้นก็ย้อนมาทำร้ายผู้สร้างนั้นเอง" เจนพูดยิ้มๆด้วยความสะใจเล็กน้อย

 

                   "เปล่าทุกอย่างไม่ได้ผิดพลาด เรามีระบบรักษาความปลอดภัยชั้นยอดที่กักเก็บเชื้อไม่ให้รั่วไหลออกมา อย่าเอาเรื่องจริงไปรวมกับหนังซอมบี้ห่วยๆที่เคยดูมา" แอนนาพูดด่ากระแทกเจน

 

                  "ใครๆก็พูดแบบนั้นเวลาพูดถึงเรื่องนี้ แต่สุดท้ายก็มีรูรั่วทุกราย" เจนด่ากลับ

 

                  "ก็อาจจะใช่ เพราะถึงเราจะมีระบบป้องกันดีแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถกันคนในที่ทรยศไปได้" แอนนาเอนหลังบนเก้าอี้พูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "มีคนในแอบมาขโมยเชื้อไวรัสจากห้องทดลอง และแพร่กระจายเชื้อในเรือเพื่อปกปิดหลักฐานสิ่งที่ตัวเองทำ และฉันก็พยายามตามหาคนทรยศนั่นอยู่" แววตาของแอนนาดูแข็งกร้าวมากขึ้นเมื่อพูดถึงเรื่องนี้

 

                  "โหดร้ายที่สุด ใครกันนะที่ทำเรื่องเลวร้ยแบบนี้ลงได้" เจนบ่นออกมาดังๆ "แล้วเราจะเอายังไงต่อไป" เจนถามแอนนา

 

                  "สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือหนีไปจากที่นี่เพียงอย่างเดียว เราทำอะไรไม่ได้แล้ว มันเกินจะเยียวยาที่เราจะทำ" แอนนาตอบ "ส่วนเรื่องเพื่อร่วมงานของคุณถ้ายังมีชีวิตรอดอยู่ป่านี้เราก็คงจะเห็นเขาในกล้องไปแล้ว"

 

                 "งั้นเราก็ต้องทำลายเรือลำนี้ ระเบิดมันกลางทะเลจะได้ไม่มีใครมาเดือดร้อนอีก" เจนพูดกับแอนนา

 

                 "เธอคงดูหนังมากไปจริงๆ" แอนนาพูดประชด "ระบบระเบิดตัวเองกับสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่แบบนี้ คุณรู้ไหมว่าต้องใช้งบประมาณขนาดไหนในการสร้าง ไหนจะระบบควบคุมมันอีก ถ้าเกิดกดพลาดนิดเดียวอาจจะทำให้ระเบิดทั้งลำก็ได้ ใครจะบ้าเอาสิ่งแบบนั้นมาใส่ในเรือ" แอนนาพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉยเป็นชุดจนเจนเถียงอะไรไม่ออก

 

                 "จ้า จ้า หนีก็หนี" แม้เจนจะห่วงดอมแค่ไหน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมาในเรือก็น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้แล้วว่า ดอมกับชายไม่น่าจะมีชีวิตอยู่      

 

                  ทั้งคู่ค่อยๆเดินผ่านโถงปีกตะวันตกออกมา ระหว่างทางทั้งสองคนพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะกับผีดิบที่เจอโดยการแอบตามห้อง และใช้ช่องทางระบายอากาศในการข้ามบางเส้นทางที่มีพวกผีดิบอยู่เป็นจำนวนมาก โดยมีแอนนาเป็นคนนำทางไปตลอดจนมาถึงห้องครัว

 

                    "เธอรู้เส้นทางเรือลำดีจริงๆเลยนะ" เจนพูดเชิงประชดกับแอนนาเมื่อมาถึงห้องครัว

 

                    "ฉันเป็นคนออกแบบเรือลำนี้ รวมถึงประตูลับนี่ด้วย" แอนนาเดินมาที่ตู้แช่เย็นขนาดใหญ่ เธอกดหมายเลขรหัสที่หน้าประตูตู้เย็นและใช้บัตรผ่านประตูรูดที่เครื่องอ่านก่อนจะเปิดประตูตู้เย็นได้

 

                     เมื่อผ่านประตูเข้ามาก็พบว่าด้านในคือลิฟท์ที่พาคนทั้งสองลงไปที่ชั้นล่างของเรือ

 

                    "เราจะไปที่ไหน!!!???" เจนถามแอนนา

 

                    "ไปที่ห้องทดลองใต้ท้องเรือ ที่นั่นมีทางออกฉุกเฉินกับเรือชูชีพมันจะพาเราไปจากที่นี่" แอนนาบอกเจน                 

 

                  ทั้งสองคนลงลิฟท์มาถึงห้องทดลองที่อยู่ชั้นล่างสุดของเรือสำราญ ที่นี่คือห้องทดลองปลอดเชื้อขนาดใหญ่ที่มีหลายห้องที่กันด้วยกระจกใส  แต่ตอนนี้ทุกห้องนั้นว่างเปล่าไม่มีคนแม้แต่คนเดียวและไม่มีร่องรอยของข้าวของเสียหายแม้แต่น้อย

 

                 "นี่มัน...." เจนยืนอึ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นห้องทดลองขนาดใหญ่ตรงหน้า

 

                  "ที่นี่คือห้องทดลองเคลื่อนที่ของทางรัฐบาลไทยกับอเมริกา" แอนนาเดินนำหน้าเจนมายังทางเดินที่เปิดไฟสีขาวสว่างทั่วทั้งชั้น "พวกนักวิจัยทั้งหมดหนีออกไปหมดแล้วด้วยเรือฉุกเฉินตอนที่เชื้อแพร่กระจาย เหลือแต่ฉันคนเดียวที่อยู่ที่นี่ต่อเพื่อหาสาเหตุการแพร่เชื้อ" แอนนาเดินมาที่ตู้เย็นที่มีหลอดทดลองมากมายในนั้น

 

                  "อเมริการ่วมมือกับไทยเพื่อสร้างไวรัสเชื้อผีดิบอย่างงั้นหรือเนี้ย!!!" เจนคิ้วขมวดมองหน้าแอนนาด้วยความไม่พอใจ

 

                 "ตรงข้ามต่างหาก" แอนนากดปุ่มหมายเลขที่ตู้เย็นหลายปุ่ม ก่อนที่ไฟในตู้จะดับลงและกลายเป็นสีแดง

 

                 "ขั้นตอนการทำลายเสร็จสมบูรณ์" เสียงจากตู้เย็นดังขึ้นมาเป็นเสียงผู้หญิง บอกถึงขั้นตอนที่เกิดขึ้นในตู้แช่ไวรัส

 

                 "เมื่อหลายเดือนก่อนที่หมู่บ้านหนองยายแวง มีอุกาบาตลูกนึงตกลงมาที่หมู่บ้านแห่งนั้น ชาวบ้านจึงเก็บมากราบไหว้บูชา โดยที่ไม่รู้เลยว่าก้อนหินนั้นคือเชื้อไวรัสซอมบี้ที่เคยตกมาบนโลกเมื่อ65ล้านปีก่อน" แอนนายืนมองตู้แช่โดยไม่หันมามองเจนที่กำลังยืนฟังอยู่ "หลังจากนั้นชาวบ้านก็ได้รับเชื้อและแพร่กระจายอย่างรวดเร็วจนเกินควบคุม เมื่อเราไปตรวจสอบก็พบว่าชาวบ้านทั้งหมดกลายเป็นผีดิบไปแล้ว"

 

                "!!!!!????" เจนยืนอึ้งพูดอะไรไม่ออก เธอกำลังนึกภาพของเหล่าทหารที่ลงมาจากเฮลิคอปเตอร์พร้อมอาวุทครบมือ ยิงปืนใส่ผีดิบที่เป็นชาวบ้านทั้งเด็กผู้หญิงคนแก่

 

               "โชคดีที่ความเสียหายไม่รุนแรงจนแพร่กระจายไปที่อื่น แต่โชคร้ายตรงที่มีหลอดเลือดของผู้ติดเชื้อถูกส่งมาที่กรมสาธรณะสุข และมันก็หายไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ...." แอนนาเดินมาที่คอมพิวเตอร์ที่โต๊ะตัวหนึ่ง "หลังจากนั้นก็มีข่าวการใช้อาวุทชีวิตภาพทำให้คนกลายเป็นผีดิบในสนามรบทั่วโลก มีผู้เคราะห์ร้ายติดเชื้อเป็นจำนวนมาก ทางอเมริกากับไทยจึงรีบค้นคว้าวิจัยเชื้อไวรัสตัวนี้เพื่อผลิตแอนตี้ไวรัส โดยที่ทุกอย่างต้องเป็นความลับ เราจึงสร้างห้องทดลองเคลื่อนที่บนเรือแห่งนี้ยังไงล่ะ" แอนนาบอกความจริงกับเจน

 

              "งั้น...." เจนพูดอะไรไม่ออกเมื่อได้ยินทุกอย่าง

 

              "คนที่ขโมยไวรัสที่นี่คงจะเอาไปขายให้พวกพ่อค้าตลาดมืดไม่ก็ผู้ก่อการร้ายแน่ๆ ฉันจึงต้องทำลายเชื้อไวรัสที่นี่ให้หมด เราทำได้แค่นั้นในตอนนี้" แอนนาบอกกับเจน

 

              "เรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง" ระหว่างที่คนทั้งสองกำลังคุยกัน จู่ๆก็มีเสียงชายหนุ่มดังขึ้นมาที่ประตูลิฟท์พร้อมปืนในมือ

 

             "ดอม!!! เธอยังไม่ตายจริงๆด้วย" เจนวิ่งเข้าไปกอดแฟนหนุ่มด้วยความดีใจเมื่อรู้ว่าเค้าปลอดภัย

 

            "คุณเป็นใคร ทำไมถึงเข้ามาที่นี่ได้...!!!" แอนนาแสดงสีหน้าแววตาตกใจ

 

            "ผมก็ใช้เส้นสายนิดหน่อยเพื่อเข้ามาในนี้ก็เท่านั้นเอง" ดอมโชว์บัตรพนักงานที่เป็นคียการ์ดให้แอนนาดู

 

            "ไงเจน" ชายที่อยู่ด้านข้างของดอมทักทายเจนด้วยรอยยิ้ม

 

             "ชาย!!!" เจนดีใจเมื่อเห็นชายยังไม่ตาย

 

             "คุณสองคนรอดมาได้อย่างไรกัน ฉันคิดว่าพวกคุณตายไปแล้วเสียอีก" เจนถามดอม

 

              "ก็เราสองคนมันสุดยอดยังไงล่ะที่รัก" ดอมพูดยิ้มๆกับเจน

 

             "เข้าใจแล้ว" แอนนามองมาทางดอมด้วยแววตาไม่พอใจ "พวกนายเองซินะที่เป็นปล่อยเชื้อนั้นออกไปบนเรือ"

 

              "ด๊อกเตอร์คุณพูดเรื่องอะไร...???" ดอมพูดขึ้นมา ขณะที่เจนปล่อยมือจากอ้อมแขนของเขา

 

              "ดอม....คุณทำใช่ไหม" เจนที่จ้องตาดอมพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าผิดหวัง

 

               "เจนเราอธิบายได้นะเรื่องนี้" ชายจะพูดอธิบายแต่ดอมก็ห้ามไว้ก่อน

 

             ดอมมองตาเจน "เข้าใจแบบนั้นมันก็ไม่ถูกซะทีเดียว ต้องพูดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า เพราะไอ้คนที่เอาไวรัสมาขายให้มันดันซุ่มซ่ามทำหลอดทดลองตกแตกจนเชื้อแพร่กระจายในเรือจนหมดถึงจะถูก" 

 

            "เดาถูกจริงๆซะด้วย" แอนนาพูดประชด

 

            "ดอม...!!!???" เจนสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนทำอะไรไม่ถูก

 

             "ใจเย็นที่รัก เดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านไปเอง" ดอมบอกเจนก่อนจะหันปืนมาทางแอนนา "คุณด๊อกเตอร์ ผมกับเพื่อนลงทุนมาที่นี่เพื่อตามหาไวรัสหลอดที่เหลือ ไม่ทราบว่ามันยังมีเหลืออยู่ไหมครับ"

 

            "บ้าจริง!!! นังนั่นทำลายเชื้อไปแล้ว!!!" ชายอุทานออกมาเสียงดังเมื่อเห็นตู้เก็บเชื้อไวรัสมีไฟสีแดง

 

               "ผมเชื่อว่าคุณต้องมีเชื้อไวรัสซ่อนอยู่แน่ๆ เอามันมาให้ผมซะดีๆด๊อกเตอร์" ดอมเล็งปืนมาทางแอนนาด้วยน้ำเสียงจริงจังเข้มขรึมไม่มีท่าทางล้อเล่นอีกแล้ว

 

               "ฉันขอเดานะว่าคนที่ขายไวรัสให้นายคือโลกิ เพราะหมอนั่นไม่อยู่ตอนที่เราหนีออกจากที่นี่ นายฆ่าเค้าใช่ไม๊" แอนนาบ่ายเบี่ยงการตอบคำถาม

 

               "ก็มันดังเล่นตุกติกไม่ยอมขายให้ดีๆ ต่อลองนั่นต่อลองนี่ ฉันก็เลยฆ่ามันทิ้งเพื่อจะเอาไวรัสมา แต่มันดันโยนเชื้อไวรัสไปในห้องโถงซะก่อน เชื้อไวรัสก็เลยฟิ๊วววว เป็นอย่างที่เห็น" ดอมผิวปากด้วยท่าทางล้อเล่น

 

                 เจนกำลังนึกภาพของดอมกับไมค์ที่กำลังเจรจาขอซื้อไวรัสที่ด้านนอกเรือ การเจรจาไม่เป็นผลชายที่ชื่อโลกิจะเดินหนีแต่ก็ถูกดอมยิงเข้าที่ด้านหลัง ก่อนที่ชายคนนั้นจะขว้างหลอดทดลองไปยังห้องโถงที่มีนักท่องเที่ยวกำลังเต้นรำกันอยู่อย่างสนุกสนาน

 

                  "ฉันต้องปกปิดหลักฐานในกล้องวงจรปิดทั้งหมด ไหนจะต้องคลำทางมาตั้งนานกว่าจะมาถึงที่นี่ได้ ดีนะที่คุณออกมาจากที่ซ่อนผมเลยหาห้องทดลองจนเจอ" เค้าโชว์บัตรผ่านของโลกิให้แอนนาดู

 

               "แถมต้องระเบิดเรือตัวเองอีก2ลำเพื่อปกปิดหลักฐาน" ชายพูดเสริม

 

                  "!!!???" เจนรู้สึกสับสนจนพูดอะไรไม่ออก

 

                  "แก...!!!" แอนนาพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง แต่ท่าทางของเธอกลับนิ่งเฉย "แกมันเป็นผู้ก่อการร้ายชัดๆ"

 

                  "คุณจะพูดแบบนี้ไม่ถูกนะ ต้องพูดว่าพ่อค้าดีกว่า ผมแค่ซื้อของจากที่หนึ่งไปขายอีกที่หนึ่งเท่านั้นไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย"  ดอมพูดขึ้นมา ก่อนที่เค้าจะรู้สึกตัวว่าถูกเล็งด้วยปืนของเจน

 

               "ดอมเธอบ้าไปแล้ว...!!! นี่มันบ้าชัดๆทำไมคุณทำแบบนี้!!!" เจนน้ำตาไหลเมื่อจ่อปืนมาทางดอม

 

                "เจนวางปืนลงซะ!!!" ชายเล็งปืนมาทางเจนด้วยท่าทางตกใจ

 

                ดอมถอนหายใจแรงๆด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะหันมามองทางเจน "ที่รักผมก็คิดว่าจะบอกคุณเรื่องนี้วันหนึ่งเหมือนกัน แต่พอดีเรื่องมันมากระชั้นชิดไปหน่อย ผมเลยไม่ได้บอกคุณเรื่องสิ่งที่พวกเราทำ" ดอมมองตาเจน "ตอนนี้คุณก็รู้แล้วเรามาเป็นพวกเดียวกันเถอะ เราจะมีเงินใช้จ่ายไปตลอดชาติเลยนะถ้าไวรัสนี้ถูกปล่อยในตลาดมืด เราจะรวยแบบไม่รู้เรื่องกันเลย"  ดอมค่อยๆเดินมาหาเจนแต่เธอถอยหนีและยังคงจ่อปืนมาทางแฟนชายหนุ่ม

 

                  "ถ้าไวรัสถูกขายในตลาดมืด ก็อาจจะมีผู้ก่อการร้ายซื้อไป และอาจจะมีคนล้มตายเพราะไวรัสตัวนี้อีกนับไม่ถ้วน คุณบ้าไปแล้วหรอที่ทำแบบนั้น!!! ผู้คนที่ไม่รู้เรื่องเป็นสิบๆล้านๆคนต้องล้มตาย!!! คุณจะทนเห็นแบบนั้นได้หรอ!!! ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้" เจนพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง เธอน้ำตาไหลออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อเห็นคนที่ตนรักกลายเป็นแบบนี้

 

                  "เจนคุณฟังผมนะ ต่อให้ผมไม่ทำก็ต้องมีคนอื่นทำ มันไม่ต่างกันหรอกเชื่อผมสิ!!!" ดอมตะคอกใส่เจนด้วยน้ำเสียงดุดัน

 

                   "ข้ออ้าง...!!! คุณต้องการแค่เงินเท่านั้น!!!" เจนน้ำตาไหลด้วยความผิดหวัง "คุณรู้ใช่ไหมว่าฉันจับโกหกคนเก่งขนาดไหน ชั้นมองแววตาก็รู้แล้วว่าใครโกหก!!!"

 

                "เจน!!!" ชายจะพยายามเจรจากับเจน

 

                "นายด้วยชาย!!!" เจนตะโกนใส่ชายหนุ่มสวมแว่น

 

                "ถ้าใช่แล้วไงล่ะ!!! ฉันเป็นคนที่เอาไวรัสไปเผยแพร่ฉันมันเลว!!!  แล้วนักวิทยาศาสตร์พวกนี้ล่ะ!!!" ดอมชี้ปืนมาทางแอนนา "พวกมันเอาไวรัสพวกนี้มาทำอะไร ถ้าไม่ใช่เอามาเพื่อทดลองไปทำอาวุทชีวะภาพขายให้กองทัพ" ดอมโยนความผิดมาที่แอนนาที่ยืนอยู่ที่โต๊ะคอมพิวเตอร์

 

                ตอนช่วงจังหวะที่ไม่มีใครเห็น แอนนาได้กดปุ่ม Enter ที่แป้นคอมเพื่อทำอะไรบางอย่าง

 

                "รู้ไหมดอม เธอโกหกไม่เก่ง" เจนที่เล็งปืนมาทางดอมส่ายหน้าน้ำตาไหลด้วยความผิดหวังซ้ำสอง

 

                 "เออๆๆๆๆ เลิกพูดไร้สาระแล้วเอาไวรัสหลอดใหม่มา ฉันจะไปจากที่นี่โดยไม่ทำอะไรเธอสองคน" ดอมตัดบทเมื่อเขาเล็งปืนมาทางแอนนา ขณะที่ชายเล็งปืนมาทางเจนอีกครั้ง

 

                  "ข้ามศพฉันไปก่อนเถอะไอ้หนอนเน่า" เจนด่าดอมด้วยความเจ็บใจ

 

                   "เสร็จรึยังว่ะจะได้รีบไป!!!" ระหว่างที่คนทั้งสี่กำลังเล็งปืนเข้าหากัน ชายแก่ที่เป็นหัวหน้าของเจนและดอมก็ลงมาจากลิฟท์พร้อมปืนในมือ

                  

                    "หัวหน้า...นี่คุณก็!!!!" เจนอึ้งพูดอะไรไม่ออก เมื่อจู่ๆหัวหน้าของเธอที่น่าจะอยู่ที่ฐานบนฝั่ง กลับมาปรากฏตัวที่เรือลำนี้ได้อย่างน่าแปลกประหลาด

                 

                    "ฉันสั่งให้นายมาชิงไวรัสจากไอ้บ้านั่น ไม่ใช่ทำให้เรือทั้งลำกลายเป็นแบบนี้ ต้องมานั่งกลบหลักฐานอีกเฮ้อ..!!!" ชายแก่บ่นดังๆระหว่างเดินมาที่คนทั้งสี่

 

                "เกิดเหตุผิดพลาดเล็กน้อยครับ" ชายบอกกับหัวหน้า

 

                ชายแก่มองมาทางเจนเมื่อชายพูดจบ "เจนถ้าเธอไม่เล่นด้วยเธอก็ต้องตาย มาเป็นพวกเราเถอะแล้วเธอจะสบายไปทั้งชาติ" ชายแก่ยื่นข้อเสนอกับเจน

 

                "ฉันยอมตายดีกว่าจะต้องเป็นคนสร้างหายนะให้โลก" เจนพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตาของเธอมองมาทางชายแก่จนเขาต้องหลบตาเธอ

 

                "พูดได้ดี พูดได้ดี" ชายแก่เล็งปืนมาทางเจน

 

                "ผมรักเธอนะเจน อย่าให้มันต้องลงเอยแบบนี้เลย" ดอมหันมาพูดกับเจนด้วยสีหน้าเศร้าเสียใจ

 

                "โกหกจนวินาทีสุดท้ายเลยนะดอม" เจนพูดด้วยแววตาแข็งกร้าว จิตใจของเจนตอนนี้ไร้ซึ่งความรักผู้ชายคนนี้แล้ว

 

               "จับได้อีกแล้วสิ" ดอมเปลี่ยนสีหน้าเมื่อถูกจับได้ "งั้นก็ซาโยนาระนะที่รัก" เมื่อดอมพูดจบ จู่ๆก็มีผีดิบตัวนึงมาจากไหนไม่รู้ ตรงเข้ามากัดคอของชายที่กำลังยืนอยู่ที่ด้านหลังโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว

 

               "อ๊ากกกกก!!!" ชายร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

 

              "บ้าเอ๊ย!!!" ชายแก่ยิงปืนใส่ผีดิบตัวนั้นและยิงชายที่กำลังร้องโหยหวนอยู่บนพื้น

 

             เจนที่เห็นจังหวะจึงรีบวิ่งหนีออกไปจากตรงนั้น เข้าไปหลบที่โต๊ะใกล้ๆพร้อมกับแอนนา

 

              "นังบ้า!!!" ดอมตะโกนออกมาด้วยความโมโห เขายิงผีดิบหลายตัวที่เดินอยู่ในห้องทดลอง

 

              "นังนั่นต้องปล่อยตัวทดลองออกมาแน่ๆ" ชายแก่ยิงปืนใส่ผีดิบระหว่างเดินหาเจนและแอนนา

 

              "เรือฉุกเฉินอยู่ตรงนั้น!!!" แอนนาบอกกับเจน แต่ทางไปต้องผ่านชายสองคนก่อน

 

               "เธอไปก่อนฉันจะล่อมันไว้เอง" เจนบอกกับแอนนาที่แอบอยู่มุมโต๊ะ

 

                "ฉันมีแผนที่ดีกว่านั้น" แอนนาสบตาเจน "ทำตามที่ชั้นบอก" แอนนาบอกแผนกับเจน

 

                "ฉันให้เวลาแกสองคนสิบวินาที ถ้าไม่ออกมาฉันจะเผาห้องทดลองให้เป็นจุล พวกแกจะตายอยู่ที่นี่ถ้าไม่ยอมส่งไวรัสมาให้เรา!!!" ดอมตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความโมโห

 

                "ก็ได้!!!" เจนออกมาจากที่ซ่อนพร้อมกับทิ้งปืนลงพื้น "ฉันยอมแพ้ คุณสองคนชนะ!!" เจนยกมือยอมแพ้พร้อมกับชูขวดไวรัสให้ทั้งสองคนเห็น

 

                "แล้วนังด๊อกเตอร์นั่นล่ะ!!!" ชายแก่หัวหน้าตะโกนถามเจน

 

                "แต่แกสองคนต้องปล่อยเราไป!!!" เจนบอกกับชายสองคนด้วยแววตามุ่งมั่น

 

                 "ได้เราให้สัญญา!!!" ชายแก่เดินมาหาเจนและรับไวรัสไปจากมือเธอ

 

                  "ที่ฉันสมัครมาเป็นหน่วยกู้ภัยทางทะเลเพราะต้องการช่วยเหลือคนไม่ใช่ทำร้ายคน" เจนพูดด้วยใบหน้านิ่งเฉยเมื่อชายแก่เดินถอยหลังเล็งปืนมาทางเธอ

 

                  "เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทัน มากับเราเถอะเจน มีเฮลิคอปเตอร์รออยู่บนดาดฟ้า" ดอมชวนเจนเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อให้เธอเปลี่ยนใจ

 

                "ลาก่อน" เจนพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย

 

                 "เธอเลือกเองนะที่รัก" ดอมขึ้นลิฟท์ไปกับหัวหน้าเพียงสองคนพร้อมกับไวรัส ทิ้งแอนนากับเจนไว้ที่ชั้นใต้ดินของเรือสำราญ

 

                "ไปกันเถอะ" เจนพูดกับแอนนาเมื่อทั้งสองคนขึ้นลิฟท์ไปบนด้านบนของเรือ

 

                "ทีนี้เราก็จะรวยแล้วหัวหน้า!!!" ดอมกับหัวหน้าพูดยิ้มๆอย่างมีความสุขเมื่อได้ไวรัสมาครอบครอง

 

                เมื่อลิฟท์เปิดออกมาทั้งสองคนก็ใช้ปืนยิงผีดิบที่ทางเดินอย่างชำนาญ เพื่อรีบขึ้นไปยังดาดฟ้าของเรือที่มีเฮลิคอปเตอร์รออยู่

 

               "ปี๊ดดดดด!!! ปี๊ดดดดด!!! เตือนภัย เตือนภัย พบไวรัสรั่วไหลออกจากห้องทดลอง....เตือนภัย!!!" แต่ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังเดินไปนั้น จู่ๆหลอดทดลองที่ทั้งคู่เอามาก็ส่งเสียงร้องดังลั่นเรือ ท่ามกลางความตกใจของคนทั้งสอง โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าเสียงที่ร้องนั้นคือการเรียกพวกผีดิบที่ไวต่อการรับเสียงให้มาหาตน

 

              ทั้งสองพยายามยิงต่อสู้กับผีดิบทั้งลำที่วิ่งมาหาตนตามเสียงร้องอย่างสุดชีวิต

 

              "ฉันตั้งระบบเตือนภัยแบบพิเศษ ให้ระบบเตือนด้วยเสียงชี้จุดที่หลอดทดลองอยู่ มันจะส่งเสียงดังบอกจุดที่ไวรัสอยู่เพื่อเรียกพวกซอมบี้ให้มาหาไวรัส พวกนี้ไวต่อการรับเสียงมากๆ" แอนนาบอกกับเจนเมื่อเธอได้ยินเสียงสัญญาณที่ดังออกมาจากหลอดทดลองด้านบนของเรือ

 

             "ลาก่อนที่รัก" เจนพูดทิ้งท้ายก่อนจะนั่งแคปซูลช่วยชีวิตออกมาจากเรือได้สำเร็จ

 

             "อ๊ากกกกก!!!" ขณะที่ดอมกับหัวหน้าร้องโหยหวนอย่างทรมาณเมื่อถูกพวกผีดิบที่ยกขโหยงมาทั้งลำตามเสียงร้อง รุมฉีกร่างกินเนื้อทั้งคู่อย่างบ้าคลั่ง

 

              หลังจากวันนั้นเรือสำราญเปกาซัสครายก็หายไปจากท้องทะเลและไม่มีใครเห็นมันอีกเลย....

เนื้อหาโดย: yongyee
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
yongyee's profile


โพสท์โดย: yongyee
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เทรนด์กินดินกำลังมา แต่ยังไม่มีหน่วยงานไหนออกมารับรองความปลอดภัยหนุ่มออสซี่-ลุงอเมริกัน มองกรุงเทพฯ ต่างมุม ทำไมใครๆ ก็หลงรักไทยคอนโด Porsche แห่งที่ 3 ของโลก อยู่ที่กรุงเทพฯคุ้น ๆ นะ!! เมื่อครูจัดที่ให้นักเรียนส่งการบ้านตามรายวิชาครูผู้สอน เเต่รูปมันดูแปลก ๆ นะว่ามั้ยเตือนประชาชนในเมืองลำปาง ย้ายของขึ้นที่สูง หลังแม่น้ำวังเพิ่มระดับ ท่วมหลายจุดโลกมีเพื่อนใหม่! เตรียมพบกับ "มินิมูน" ดวงจันทร์ดวงที่ 2 แต่มาเยือนแค่ชั่วคราวเลขเด็ด เลขมาเเรง เลขดัง "รวมหวยเด็ดสำนักดัง vol.2" งวดวันที่ 1 ตุลาคม 2567มาเลเซียเงียบ คนแห่เที่ยวไทยไม่หยุด เหตุผลนี้รู้แล้วต้องร้อง "ว้าว"มนตรา คือ ผู้ชายในฝันของทองประกายที่เหมาะจะเป็นผู้ชายในชีวิตจริงต่างชาติเข้าพักโรงแรมในไทย..แต่ทำไมมีพนักงานมานอนด้วยเฉยเลยพบ "กุ้งล็อบสเตอร์สีส้ม" สุดหายาก พนักงานช่วยจนรอดชีวิต"เกาะผ้า" เกาะประหลาดหาดสวยน้ำใส มัลดีฟส์เมืองไทย ที่พังงา
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
มนตรา คือ ผู้ชายในฝันของทองประกายที่เหมาะจะเป็นผู้ชายในชีวิตจริงเทรนด์กินดินกำลังมา แต่ยังไม่มีหน่วยงานไหนออกมารับรองความปลอดภัยพบ "กุ้งล็อบสเตอร์สีส้ม" สุดหายาก พนักงานช่วยจนรอดชีวิตคุ้น ๆ นะ!! เมื่อครูจัดที่ให้นักเรียนส่งการบ้านตามรายวิชาครูผู้สอน เเต่รูปมันดูแปลก ๆ นะว่ามั้ยมาเลเซียเงียบ คนแห่เที่ยวไทยไม่หยุด เหตุผลนี้รู้แล้วต้องร้อง "ว้าว"
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
มนตรา คือ ผู้ชายในฝันของทองประกายที่เหมาะจะเป็นผู้ชายในชีวิตจริงตำนานผาแต้มเผลอปักใจรัก (อุบัติเหตุ หรือ ความหายนะ) *บทนำ*(เธอผู้ถูกหมายหัว) จากเรื่อง รักในบ่วงแค้น
ตั้งกระทู้ใหม่