น้ำในหูไม่เท่ากัน

 

โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere’s disease) พบมากในผู้ที่มีอายุ 30 - 60 ปี ทั้ง ผู้หญิง และ ผู้ชาย โรคนี้เกิดจากความผิดปกติของหูชั้นในที่มีภาวะความดันน้ำในหูชั้นในที่เรียกว่า Endolymph มากผิดปกติ ส่งผลให้หูขั้นในที่มีหน้าที่ในการรับเสียง ควบคุมการทรงตัวทำงานผิดปกติ และ มีการไหลเวียนถ่ายเทเป็นปกติ เมื่อเกิดความผิดปกติขึ้น เช่น การดูดซึมของน้ำในหูไม่ดี ทำให้น้ำในหูชั้นในมีปริมาณมากกว่าปกติ จะส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ประสาทที่ควบคุมการทรงตัว และ การได้ยิน จะเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ หูอื้อ สูญเสียการได้ยิน และ รู้สึกถึงแรงดันภายในหู

 

 

ส่วนใหญ่มักเป็นกับหูเพียงข้างเดียว มีเพียง 15 - 20% ที่เป็นหูทั้งสองข้าง

 

 

สาเหตุ

• พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่คนในครอบครัวเป็นไมเกรน หรือ มีโครงสร้างหูชั้นในผิดปกติ

 

• การติดเชื้อไวรัสใน หูชั้นกลาง หูชั้นในเกิดการอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

 

• เป็นโรคต่าง ๆ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคซิฟิลิส โรคหูน้ำหนวก โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์ และ ไขมันในเลือดสูง

 

• การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน รวมถึงการมีประจำเดือน

 

 

• การพักผ่อนไม่เพียงพอ มีความเครียด สูบบุหรี่

 

• การรับประทานอาหารโซเดียมสูง และ อาหารรสเค็มจัด

 

• การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังอึกทึกมาก ๆ

 

 

อาการ

• วิงเวียนศีรษะรุนแรง รู้สึกบ้านหมุน โดยมีอาการอยู่นาน 20 นาทีถึง 12 ชั่วโมง แต่จะไม่กิน 24 ชั่วโมง ซึ่งอาการจะมา ๆ หาย ๆ

 

• มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ร่วมกับการสูญเสียสมดุลของร่างกาย จึงทำให้เซล้มได้ง่าย

 

• หูอื้อ ได้ยินไม่ชัด รู้สึกแน่นในหูเป็น ๆ หาย ๆ การได้ยินบางครั้งดีขึ้น บางครั้งก็แย่ลง

 

 

• สูญเสียการได้ยินในหู 1 ข้าง จะเริ่มจากการไม่ได้ยินเสียงที่มีคลื่นความถี่ต่ำ อาจได้ยินดีและได้ยินแย่สลับกันไปในระยะแรก เมื่อเวลาผ่านไปการสูญเสียการได้ยินจะถาวร ไม่สามารถแก้ไขได้

 

• มีเสียงดังรบกวนในหู อาจเป็นเสียงวี้ด ๆ มีอาการหนัก ๆ หน่วง ๆ ในหู คล้ายมีแรงดันในหู

 

 

วิธีการดูแลรักษาตนเองเพื่อลดอาการ

• ลดการรับประทานอาหารรสเค็มเพื่อป้องกันการบวมน้ำ สาเหตุที่ทำให้อาการของโรคแย่ลง

 

• จำกัดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เครื่องดื่มชูกำลัง

 

• จัดการกับความเครียด ลดความวิตกกังวล เพราะอาจไปกระตุ้นอาการของโรคน้ำในหูชั้นในผิดปกติ หรือ น้ำในหูไม่เท่ากัน ให้ทำอดิเรก กิจกรรมที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย

 

• พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับอย่างมีคุณภาพ หากมีเสียงรบกวนสามารถเปิดเพลงคลอเบา ๆ เพื่อกลบเสียงนั้น

 

• หากมีอาการวิงเวียนศีรษะกะทันหัน หลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะ