ปวดข้อมือ ชาข้อมือ และ นิ้วชา บ่อย ๆ อาจเสี่ยงเป็นโรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ

โรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ CTS (Carpal Tunnel Syndrome) โรคที่พบบ่อยในกลุ่มคนอายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป เกิดจาก “เส้นประสาทมีเดียน” ถูกกดทับบริเวณข้อมือ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจาก เส้นเอ็นบริเวณช่องข้อมืออักเสบทำให้เส้นเอ็นบวม หรือ มีขนาดใหญ่ขึ้น มีผลให้ช่องว่างในข้อมือมีขนาดเล็กลง เส้นประสาทจึงถูกเบียดหรือถูกกดทับ  

กลุ่มคนที่เสี่ยงเส้นประสาทข้อมือถูกกดทับ

1.มักเกิดกับคนที่ใช้มือในการทำงานมาก ๆ ด้วยท่าทางซ้ำ ๆ ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานหลายชั่วโมงต่อวัน หรือ อยู่ในท่าทางการทำงานที่ไม่เหมาะสมต่อเนื่องนาน ๆ เช่น การขับรถนาน ๆ กวาดบ้าน ซักผ้า ถักนิตติ้ง ใช้คอมพิวเตอร์ เขียนหนังสือ เล่นเกมส์ ใช้โทรศัพท์นาน ๆ

2.เกิดจากพันธุกรรม พบในหญิงมากกว่าชาย โดยเฉพาะคนที่มีข้อมือเล็ก คนที่มีข้อมือกลม

3.อาจพบในหญิงตั้งครรภ์ และ อาการอาจหายเองได้หลังคลอด

4.ในคนที่เป็นโรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ โรครูมาตอยด์ มีโอกาสเป็นมากกว่าคนทั่วไป

อาการที่พบบ่อยคือ

• มีอาการชาบริเวณปลายนิ้วมือ ส่วนใหญ่อาการมักจะเป็น ๆ หาย ๆ ที่ปลายนิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลาง โดยอาการมักจะเป็นหลังตื่นนอน

• เกิดอาการเสียวที่ข้อมือคล้ายถูกไฟช็อต หรือ แสบเหมือนถูกเข็มทิ่มบริเวณนิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง

• ปวดบริเวณข้อมือ มือ นิ้วมือ อาจปวดขึ้นตามแขนถึงไหล่

• มีอาการปวดเวลากลางคืน กับ หลังตื่นนอนตอนเช้า มักเด่นชัดในมือข้างที่ถนัด

• นิ้วหัวแม่มืออ่อนแรง ทำให้หยิบจับสิ่งของล่าช้า กำมือได้ไม่แน่น หยิบจับอะไรก็จะหล่นจากมือทันที

• เมื่อปวดเป็นเวลานานกล้ามเนื้อมือจะมีการอ่อนแรง กล้ามเนื้อลีบ การรับความรู้สึกของมือจะลดลง

วิธีการดูแล บรรเทาอาการ

1.พักการใช้งานของมือระหว่างการทำงาน ควรพักมือเป็นระยะ โดยยืดกล้ามเนื้อข้อมือและแขน และ การขยับข้อมือเบา ๆ

2.หากต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ต้องพิมพ์งาน หรือ เขียนงานบ่อย ๆ ควรหาแผ่นรองเม้าส์ที่มีเจลสำหรับรองข้อมือ ผ้านุ่ม ๆ ฟองน้ำนุ่ม ๆ มารองข้อมือ

3.ทานยาเพื่อลดอาการอักเสบและบวม

4.หลีกเลี่ยงการนอนทับข้อมือ

5.สวมเฝือกข้อมือในเวลากลางคืน

6.ประคบอุ่น หรือ แช่น้ำอุ่น ประมาณ 15-20 นาที