ไดอารี่ปริศนาเล่มที่ 1 รอยยิ้มที่หายไป
วันที่ 7 กันยายน 2007:
วันนี้เป็นวันที่มืดมนที่สุดในชีวิตของฉัน เมื่อเช้านี้ ฉันได้รับข่าวร้ายว่า “พ่อ” ของฉันที่เป็นคนที่รักและเคารพที่สุดในชีวิต ได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งที่ทรมานมาเป็นเวลาน แม้ว่าเราจะพยายามทำให้เขาสบายใจ แต่ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถต่อสู้ได้ต่อไป การจากไปของเขาทำให้บ้านของเราเงียบเหงา พ่อเคยเป็นคนที่ทำให้ทุกคนยิ้มและหัวเราะ ฉันนั่งอยู่ที่หน้าบ้าน มองไปยังสวนที่พ่อเคยปลูกต้นไม้และดูแลเป็นอย่างดี มันทำให้ฉันรู้สึกถึงความสูญเสียที่บียนร้อยในใจ
วันที่ 8 กันยายน 2007:
เพื่อน ๆ เริ่มมาเยี่ยมที่บ้าน เพื่อให้กำลังใจฉัน แต่ฉันรู้สึกว่าทุกคนกำลังพยายามทำตัวให้เข้มแข็ง แต่ในใจพวกเขาก็เต็มไปด้วยความเศร้าเหมือนกัน "แอนนา" เพื่อนสนิทของฉัน นั่งข้าง ๆ และหลั่งน้ำตาให้กับการสูญเสียที่เราไม่อยากเผชิญ บีเพื่อนอีกคนกอดฉันแน่น “เราจะผ่านมันไปด้วยกันนะ” เธอกล่าว ด้วยน้ำเสียงที่สั่นไหว ฉันรู้สึกอบอุ่นในใจ ถึงแม้จะมีความเจ็บปวด
วันที่ 10 กันยายน 2007:
วันนี้เป็นวันทำบุญให้พ่อ ฉันรู้สึกสูญเสียลึก ๆ ราวกับว่าชีวิตของฉันขาดดุล เหมือนว่าไม่มีรอยยิ้มของพ่อ และเสียงหัวเราะที่เคยทำให้ทุกคนมีความสุขในบ้าน อย่างไรก็ตาม เพื่อน ๆ มาที่งานบุญเพื่อร่วมสนับสนุนและเป็นกำลังใจ ฉันมองเห็นน้ำตาของแอนนาและบีที่ยืนอยู่ข้าง ๆ และฉันรู้ว่าเราจะยืนอยู่ในนี้ด้วยกันเสมอ
วันที่ 25 กันยายน 2007:
ชีวิตยังคงเดินต่อไป แต่ฉันกลับรู้สึกว่าไม่มีความหมาย ทุกคืนฉันมักจะนั่งมองไปที่ภาพของพ่อที่เราถ่ายร่วมกัน ฉันตั้งใจจะเขียนจดหมายถึงเขา ลำดับความคิดให้ระบายความในใจ ว่าเขาไปสู่ที่ดีกว่าแล้ว และฉันจะพยายามเข้มแข็งตามที่เขาเคยสอนไว้ “พ่อคะ หนูจะทำให้พ่อภูมิใจ” ถือเป็นความคิดสุดท้ายในทุกคืนที่มาถึง
วันที่ 27 กันยายน 2008:
วันนี้แอนนาและบีชวนฉันไปเที่ยวที่ทะเลเพื่อคลายเครียด ฉันลังเลแต่ในที่สุดก็ยอมไป ทั้งสองทำให้ฉันหัวเราะและรู้สึกมีความสุขแม้เพียงชั่วขณะ แต่ซึมเศร้าในใจเหมือนจะตามมาอยู่เสมอ ทะเลสวยงาม น้ำทะเลมีสีฟ้าใสแต่ฉันกลับรู้สึกว่าน้ำทะเลไม่สามารถล้างความเศร้าของฉันออกได้ ถึงแม้รอยยิ้มบนใบหน้าฉันจะมี แต่ในใจกลับรู้สึกว่างเปล่า
วันที่ 30 กันยายน 2008:
แม้ว่าเวลาจะเดินหน้าต่อไป ฉันยังคงรู้สึกถึงการสูญเสียอยู่เสมอ แต่ฉันเริ่มเรียนรู้ที่จะใช้ความรู้สึกนั้นเป็นแรงผลักดันให้กับตัวเองและเพื่อน ๆ ในการหาสิ่งดี ๆ ในชีวิต ฉันและเพื่อน ๆ สัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันเสมอ ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ เรื่องราวเราอาจจะเศร้าสร้อย แต่จบด้วยการปล่อยวาง
วันที่ 5 ตุลาคม 2009:
ครั้งแรกที่ฉันสบตากับความสุขอีกครั้ง ตั้งแต่สูญเสียพ่อ ในงานเลี้ยงของเพื่อน ขณะที่เราหัวเราะและเต้นรำกัน ฉันไม่สามารถลืมพ่อได้ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าพ่อจะอยากให้ฉันมีความสุข และนั่นคือสิ่งที่ฉันจะทำต่อไป ในคืนที่เต็มไปด้วยเสียงเพลงและความสนุกสนาน ฉันคิดถึงข้อความที่พ่อเคยบอก “หาทางไปข้างหน้าเสมอ”
________________________
ฝากกดไลค์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะอยากให้ทำไดอารี่แนวไหนบอกได้นะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบ
อ้างอิงจาก: นำมาจาก
https://www.readawrite.com/?action=user_page&user_id_publisher=12119092
เข้าไปอ่านต่อได้ที่
https://www.readawrite.com/a/dfcf3673107c6a76a231af56f4c31438
คนเขียนเป็นคนเดียวกันนะ
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
“บอย ภิษณุ" ประกาศขายบ้านหรูแล้ว ราคา 70 ล้าน
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
โซเชียลฮาลั่น! ทหารไทยยึดฐานสำเร็จ พบปลากระป๋องไทยเพียบ ชาวเน็ตตั้งคำถาม ไหนบอกแบนสินค้าไทย?
คลิปนาทีทหารไทยโคตรเดือด ควบม้าเหล็ก รัวปืนกล กระบอกคู่ ถล่มเขมร ช่องอานม้า จนสามารถยึดครองพื้นที่ได้สำเร็จ
กัมพูชา ส่งจดหมายถึงทั่วโลก ลั่นไม่ได้อ่อนแอ แต่ถูกไทยบีบให้จนมุม
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกราย
อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
พ่อนอกใจเป็นชู้ กับแฟนสาวของลูกชาย
10 เลขเด็ดเลขดัง "สลาก 5 ภาค" งวดวันที่ 2 มกราคม 69..รีบส่องเลย ก่อนหวยหมดแผง!!
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกราย
โซเชียลฮาลั่น! ทหารไทยยึดฐานสำเร็จ พบปลากระป๋องไทยเพียบ ชาวเน็ตตั้งคำถาม ไหนบอกแบนสินค้าไทย?
เด็ก 10 คนที่เป็นโรคธาลัสซีเมียติดเชื้อเอชไอวีหลังจากได้รับเลือด
หอยอร่อยหอมกรุ่นด้วยตะไคร้ และความหอมที่กินเมื่อไหร่หยุดไม่ได้เลย (พนมเปญ)
"วงดนตรีโปงลางตำนานไหม" ร้องเล่นเต้นรำการแสดงความบันเทิงเปิดหมวก
แมงดา บางคนนั้นบอกหอมแต่ลางคนนั้นไม่ชอบเพราะกลิ่นไม่ดี
การสร้างบ้านในสมัยก่อนหนาแน่น ขอบของผนังที่สร้างเกราะ ความสุขของความปลอดภัย