เรื่องสั้นกรุงเทพเมืองซอมบี้ ตอนที่ 5 ความรัก
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด เสียงนาฬิกาปลุกบอกเวลา 6 โมงเช้าที่แสนสดใส ชายหนุ่มวัย 28 รูปร่างผอมผมสั้นลุกขึ้นมาจากเตียงด้วยท่าทางเบื่อหน่าย เขาบิดขี้เกียจเพื่อผ่อนคลายร่างกาย ก่อนจะลุกขึ้นจากที่นอนไปอาบน้ำล้างหน้าเพื่อไปทำงาน
ชายคนนี้มีชื่อว่าต้นเป็นพนักงานบริษัทธรรมดาๆ คนนึง เขามีชีวิตที่แสนจะธรรมดาเหมือนพนักงานบริษัททั่วไปที่เช้าไปทำงาน เที่ยงพักทานข้าว บ่ายทำงาน เย็นไปดื่มเหล้ากับเพื่อนๆ ก่อนจะกลับมาบ้านนอนพัก และเช้าก็ไปทำงานต่อ ชีวิตของต้นวนเวียนอยู่แบบนี้มาตลอดหลายปีที่เป็นพนักงานบริษัท และมันก็คงจะเป็นแบบนี้ไปอีกเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหยุด
ชายหนุ่มยืนแปรงฟันที่หน้ากระจกในห้องน้ำ ดูสภาพหน้าใบหน้าที่เริ่มเหี่ยวขอบตาคล้ำของตนเอง ที่เป็นผลจากอาการเมาค้างจากเมื่อคืนที่ไปดื่มมากับเพื่อน และถ้าจะถามเรื่องแฟนก็คงจะตอบแบบไม่ต้องคิดว่าคงไม่มีใครเอา เพราะลำพังแค่ตนเองยังแทบเอาตัวเองไม่รอด เป็นแค่พนักงานบริษัทจนๆ สาวๆ ไม่สนใจหรอก คงต้องเป็นอาเสี่ยฟันทองไม่ก็ผู้จัดการบริษัทเท่านั้น สาวๆ ถึงจะยอมมาคบด้วย แต่ถ้าถามว่ามีคนที่แอบชอบอยู่ไหม ก็คงตอบแบบไม่ต้องอ้อมค้อมเลยว่ามี
ชายหนุ่มออกมายืนรอรถเมล์ที่หน้าปากซอยด้วยสีหน้าเซื่องซึมเหมือนทุกวัน ตรงนั้นเขาเห็นหญิงสาวร่างอ้วนกับชายวัยกลางคนหัวล้านที่น่าจะเป็นพนักงานบริษัทเหมือนกัน ยืนรอรถเมล์เหมือนตนเป็นประจำทุกวัน พูดถึงเรื่องความรักแล้วมันชวนเจ็บจี๊ดๆ ที่หัวใจ คงเพราะได้แต่แอบรักแอบชอบเพื่อนร่วมงานที่เป็นสาวสวย จึงทำได้แค่มองอยู่ห่างๆ เหมือนดอกฟ้ากับหมาวัด เพราะคิดว่าถ้าสารภาพออกไปก็คงไม่มีทางได้ใจเธอมาครอบครองเป็นแน่ มันคงไม่มีเรื่องราวแบบในหนังที่ตอนจบพระเอกนางเอกได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
คิดไม่ทันจบรถเมล์สาย 789 มาจอดที่ป้ายทั้งสามคนขึ้นรถเมล์พร้อมกันเป็นประจำแบบนี้เกือบทุกวัน ต้นเดินมานั่งอยู่ที่เบาะท้ายรถ มองพนักงานสาวร่างอ้วนที่ยืนกดมือถือเช็คเฟสบุ๊คไปไอไปที่กลางรถ ส่วนลุงพนักงานที่หัวล้านก็นั่งไอ้เบาๆ ใส่ผ้าเช็ดหน้าตั้งแต่รอรถเมล์แล้ว ช่วงนี้อากาศคงเปลี่ยนแปลงบ่อย พนักงานบริษัทอย่างเราที่ร่างกายอ่อนแอคงจะไม่สบายได้ง่ายๆ มันเป็นเรื่องปกติ รถเมล์จอดที่ป้ายรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งต้นต้องต่อรถไฟจากที่นี่ไปออฟฟิศ ที่อยู่ห่างออกไป 3 สถานีที่ใจกลางเมือง ช่วงเช้าที่เป็นเวลาเร่งด่วนแบบนี้ รถไฟฟ้าที่มีคนแออัดแน่นรถเป็นเรื่องที่แสนจะปกติสำหรับคนเดินทาง แต่สิ่งที่ผิดปกติก็คือเหล่าผู้โดยสารส่วนมากตั้งแต่เด็กไปถึงคนแก่ ต่างก็ไอออกมาเป็นระยะอยู่หลายคนจนน่าแปลกใจ
"โชคดีที่เราไม่ได้เป็นแบบนั้น สงสัยขากลับคงต้องซื้อผ้าปิดปากเอาไว้ใช้ซะแล้ว" ต้นคิดในใจ เมื่อออกมาจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ต้นก็เดินมาซื้อกาแฟที่ร้านเจ้าประจำหน้าบริษัท
"เหมือนเดิมนะค่ะพี่ต้น แค๊ก แค๊ก" พนักงานสาวพูดกับต้นด้วยท่าทางเหนื่อยล้า ท่าทางของเธอดูไม่ค่อยสดใสร่าเริงเหมือนแต่ก่อน
"วันนี้หน้าซีดๆ นะเราเป็นอะไรรึเปล่า" ต้นถามน้องพนักงานร้านขายกาแฟด้วยความเป็นห่วง
"ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ สงสัยเมื่อคืนดื่มมากไปหน่อย" เด็กสาวพนักงานร้านกาแฟพูดยิ้มๆ กับต้น
"นั่นซิพี่เองก็เป็น" ต้นพูดยิ้มๆ ตอบกลับก่อนจะรับกาแฟและเดินเข้าบริษัท ระหว่างทางเดินเข้ามาในตึกไปจนถึงลิฟท์ ต้นเจอคนที่ไอด้วยท่าทางประหลาดตลอดทาง จนวันนี้มันกลายเป็นเรื่องปกติไปซะแล้วที่เห็นคนไอแบบนี้
"ต้น!!! " เมื่อต้นออกมาจากลิฟท์ ก็มีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคิ้วหนาหน้าคมรูปร่างสูงโปร่งเดินมาทักต้นระหว่างทางเดินไปออฟฟิศ ชายคนนี้ชื่อว่ากรุง
"เมื่อคืนเป็นไงบ้าง เห็นควงสาวสวยกลับบ้านด้วยไม่ใช่หรอ" ต้นยิ้มทักทายเพื่อนร่วมงานที่เป็นเพื่อนดื่มเหล้าแทบจะทุกคืนหลังเลิกงาน กรุงนั้นจัดว่าเป็นคนรูปหล่อและมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาดกับสาวๆ เพียงแค่มันจ้องตาสาวที่ต้องการและเดินเข้าไปคุยเพียงไม่กี่คำกับรอยยิ้มที่แสนเย้ายวน แค่นี้มันก็แทบจะมีสาวสวยควงกลับบ้านไปด้วยแทบจะทุกคืน ต่างจากต้นที่แม้จะลองทำตามที่กรุงบอกแต่ก็ไม่มีสาวคนไหนสนใจเลยซักคน
"ก็นิดหน่อย" กรุงพูดยิ้มๆ เหมือนมันเป็นเรื่องปกติธรรมดา ถ้าประชากรโลกมีคนหน้าตาและนิสัยแบบกรุงมากๆ ถุงยางคงจะมีไม่พอผลิตแน่ๆ
"แกสังเกตุบ้างรึเปล่าว่าวันนี้ทุกคนดูแปลกๆ " กรุงที่เดินคู่กับต้นพูดถึงเรื่องอาการไอแปลกๆ ของคนหลายคน
"คงจะไม่สบายไม่ก็แพ้อากาศคงไม่มีอะไรมาก" ต้นพูดแบบไม่ค่อยใส่ใจด้วยความเบื่อหน่าย
"นั่นซิ อาจจะใช่....เออเมื่อคืนแกดันกลับไปก่อน ข้ากะว่าจะแนะนำน้องพีคให้แกรู้จักซักหน่อย" กรุงชวนต้นคุยและระหว่างทางที่เดินในออฟฟิศ ก็มีสาวๆ หลายคนหันมายิ้มให้กรุงเป็นระยะ ซึ่งเป็นภาพที่ชินตาของต้นที่เป็นเพื่อนสนิทไปซะแล้ว
"เมื่อคืนรู้สึกปวดหัวเลยขอกลับก่อน" ต้นโกหกเรื่องเมื่อคืน เพราะเขามักจะถูกสาวๆ กับเพื่อนทิ้งเสมอเมื่อกรุงได้สาวมาควงในวงเหล้า
"ช่างเถอะ....ดูนี่ซะก่อน ข้ามีของดีมาให้ดู เมื่อคืนข้าถ่ายคลิปมาด้วยจะดูไหม" กรุงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋า จะโชว์สิ่งที่ตนถ่ายมาเมื่อคืนให้ต้นดู แต่ไม่ทันที่กรุงจะเปิดคลิปในมือถือ เขาก็รีบเก็บมันใส่กระเป๋าไปซะก่อน เพราะเมย์พนักงานสาวสวยเดินผ่านมาทางนี้พอดี
"สวัสดีครับคนสวย" กรุงใช้รอยยิ้มหว่านเสน่ห์กับเมย์ทักทายเธอเมื่อเดินผ่าน
เมย์ยิ้มตอบตามมารยาทก่อนจะเดินผ่านไป
"ซักวันข้าจะจีบผู้หญิงคนนี้ให้ได้" กรุงมันคงจะรู้สึกเสียเหลี่ยมเป็นอย่างมาก เพราะเท่าที่รู้กรุงมันพยายามจีบเมย์มาตลอด แต่คงเพราะความมีสมองของเมย์ที่ต่างจากผู้หญิงส่วนมาก ที่รู้ว่ากรุงมันเป็นคนเจ้าชู้ เธอจึงไม่ตกเป็นหนึ่งในคอแลคชั่นของกรุง แต่ข่าวร้ายก็คือขนาดคนหล่อแบบกรุงยังจีบเมย์ไม่ติด แล้วคนธรรมดาที่แสนจะธรรมดาอย่างต้นเธอจะสนใจอย่างงั้นหรอ
"คงไม่ทาง" ต้นคิดในใจ
8.30 นาทีได้เวลาทำงานของออฟฟิศ ทุกคนจึงแยกย้ายไปที่โต๊ะทำงานของตน
ในออฟฟิศตอนนี้มีแต่เสียงไอของคนที่มาทำงานดังกลบเสียงทุกเสียงที่ดังอยู่ตอนนี้ แม้แต่ท่านประธานเองก็ไอเหมือนคนอื่นๆ หลายคนที่เริ่มไอจนทนไม่ไหวขอลางานกลางอากาศกลับบ้านไปหลายคน จนท่านประธานสั่งหยุดงานวันนี้เพราะมีคนป่วยหลายคนจนทำงานไม่ไหว
"แบบนี้ก็ดีซิ" กรุงเดินมาพูดยิ้มๆ กับต้น แต่สายตาของกรุงกลับจ้องไปที่เมย์ที่กำลังเก็บของที่โต๊ะทำงานของตน "วันนี้ข้าจะต้องจีบเมยให้ได้"
"ตามสบาย" ต้นพูดประชดด้วยความโมโห แต่กรุงคงไม่เข้าใจสิ่งนี้
กรุงเดินไปที่โต๊ะทำงานของเมย์ เขายิ้มหว่านเสน่ห์เป็นตัวนำร่องเมื่อสายตาของเมย์มองมา ก่อนจะชวนพูดเรื่องราวของดินฟ้าอากาศเพื่อเปิดทางหาเรื่องคุยกับฝ่ายตรงข้าม ตามด้วยเรื่องราวของร้านอาหารที่น่ากินผสมกับแววตาที่อ่อนหวานดึงดูดและเยายวน เหมือนสะกดจิตให้ผู้หญิงที่กำลังคุยด้วยคล้อยตามไปกับสิ่งที่เขาพูด นั่นคือรูปแบบประจำที่กรุงใช้มาตลอดตั้งแต่ที่ต้นรู้จักกับชายคนนี้มา แต่มันคงใช้ไม่ได้ผลกับเมย์อย่างแน่นอน นั่นคือสิ่งที่ต้นมั่นใจเพราะถ้าเมย์เป็นผู้หญิงง่ายๆ แบบนั้น เธอคงจะเสร็จกรุงไปนานแล้วคงไม่มาเสียท่าเอาวันนี้
ต้นค่อนข้างจะมั่นใจใจตัวผู้หญิงที่ตนแอบชอบ เขารอโอกาสที่จะตบไหล่กรุงแล้วพูดปลอบใจเพื่อนรักว่า "ผู้หญิงบางคนก็ไม่ได้มาง่ายๆ อย่างที่คิดหรอกเพื่อน" แม้จะดูเป็นคำปลอบใจ แต่ก็แฝงไปด้วยความรู้สึกสะใจที่ได้เห็นคนแบบนี้เสียท่าเป็นครั้งแรก
ต้นนั่งยิ้มอยู่กับความคิดอยู่ไม่นาน ระหว่างที่ดูกรุงกับเมย์คุยกัน วินาทีนั้นต้นรู้สึกเหมือนถูกนักมวยรุ่นเฮฟวี่เวทชกเข้าที่หน้าอย่างจังจนล้มลงไปกองบนพื้นนับสิบ เมื่อ้ขาเห็นเมย์ยิ้มให้ต้นเหมือนที่สาวๆ ทุกคนที่หลงเสน่ห์
"เป็นไปไม่ได้" ต้นคิดในใจ
"สำเร็จ" กรุงขยับปากเป็นคำพูดนี้ให้ต้นเมื่อเห็นเพื่อนรักยืนมอง (ช๊อค) อยู่ที่โต๊ะทำงาน
ทั้งสองคนเดินออกไปจากออฟฟิศเมื่อเก็บของจนเสร็จ ทิ้งต้นให้ยืนมองโต๊ะทำงานอันว่างเปล่าของเมย์ ที่อีกไม่ช้าเธอก็คงจะกลายเป็นดอกไม้ริมทางที่ถูกกรุงมันเด็ดมาเชยชมแน่แท้
"นี่แกเมื่อกี้เห็นเมย์เดินออกไปกับกรุงด้วยละ" เสียงเพื่อนร่วมงานสามสาวนั่งคุยกันระหว่างกำลังเก็บของ โดยที่ไม่สนใจต้นที่อยู่แถวนั้น
"เห็นกรุงตามจีบเมย์มาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอ แต่ดูเหมือนเมยไม่เล่นด้วย แต่ทำไมวันนี้เธอถึงยอมละ" พนักงานสาวคนที่สองถามเพื่อน
"พวกเธอนี่ตกข่าว" พนักงานสาวคนที่สามพูดขึ้นมา "ก็เมย์เพิ่งจะถูกแฟนบอกเลิกไปเมื่อสองวันก่อน ก็ไม่แปลกหรอกที่จะจีบเมย์ตอนนี้ติด เขาว่ากันว่าถ้าจะจีบสาวต้องจีบตอนที่เพิ่งจะถูกทิ้งถึงจะจีบง่ายที่สุด"
"แบบนี้นี่เองมิน่า" ต้นพูดในใจกับตัวเองเมื่อทราบคำตอบ
"เมย์ควรจะเจอคนที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่มาเจอผู้ชายไม่ดีที่หลอกเธอซ้ำซาก" ต้นคิดในใจระหว่างเก็บของ "เราต้องทำอะไรซักอย่าง" ต้นรวบรวมความกล้าที่มีรีบออกไปตามหาคนทั้งสองที่เพิ่งออกไปจากออฟฟิศทันที
ต้นที่รีบออกมาจากตึกก็เห็นกรุงกับเมย์เพิ่งจะเดินออกมาไม่ไกลจากที่ตนอยู่ ปกติกรุงจะขับรถพาสาวที่ตนจีบไปดื่มเหล้าที่อื่นต่อก่อนจะพากลับบ้าน แต่คงเพราะตอนนี้เป็นตอนเช้าการชวนไปดื่มเหล้าคงเป็นอะไรที่ไม่ควร กรุงจึงอาจจะพาเมย์ไปทานข้าวที่ร้านอาหารใกล้ๆ แถวนี้แทนนั่นคือสิ่งที่ต้นคิด....
ต้นเดินตามคนทั้งสองไปเพื่อจะตามให้ทัน และหาโอกาสขัดจังหวะกรุงเมื่อทำได้ เพราะนี่คือโอกาสเดียวที่เขาจะสามารถชิงหัวใจผู้หญิงคนนี้มาได้ แม้จะรู้ว่าไม่มีโอกาส แต่การได้ลองซักครั้งก็ดีกว่าปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไปโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย นั่นคือสิ่งที่ต้นคิด
"เอี๊ยดดดดดดด โครมมมมม ตูมมมมมม กรี๊ดดดดดด ช่วยด้วยยยยยย อ๊ากกกก!!!!! " และตอนนั้นเองที่บนท้องถนนก็เกิดการชนกันไปมาของรถหลายสิบคันอย่างไม่ทราบสาเหตุ มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือของคนที่ติดอยู่ในรถที่ชนกัน รถหลายคันเกิดระเบิดขึ้นมาจากการชนกันอย่างแรง เสียงกรีดร้องของคนที่อยู่ในรถและเสียงรถระเบิดดังสนั่นใจกลางเมือง ผู้คนที่อยู่สองข้างทางต่างก็ยืนดูด้วยความตกใจ ก่อนที่จะเกิดความโกลาหนขึ้นมา เมื่อจู่ๆ คนหลายสิบคนที่อยู่แถวนั้นต่างก็มีอาการแปลกๆ เกิดขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
"ก๊ากกกกก ก๊ากกกกก!!!! " จู่ๆ คนหลายสิบคนแถวนั้นก็แหกปากร้องเสียงดังใส่คนที่เดินไปมา ก่อนจะพุ่งเข้ามาทำร้ายคนที่อยู่ใกล้ๆ และฉีกกัดร่างของคนที่ถูกทำร้ายจนเลือดพุ่งกระฉูด ท่ามกลางความตกใจของผู้คนที่อยู่แถวนั้น หลายคนพยายามหนีตายจนวิ่งชนกันและล้มทับเหยียบกันไปมา คนที่เปลี่ยนร่างเป็นคนบ้าต่างก็พุ่งเข้ามาทำร้ายคนที่วิ่งหนีเหมือนซอมบี้ที่หิวโหย
"อะไรว่ะเนี้ย!!!! " ต้นอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเห็นชายวัยกลางคนหัวล้านที่เคยขึ้นรถเมล์ด้วยกันประจำทุกวัน กำลังควักไส้หญิงแก่คนหนึ่งออกมากินอย่างหิวโหย
"กรี๊ดดดดดด" ขณะที่ต้นกำลังยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก เสียงร้องของเมย์ก็ปลุกเขาจากอาการงุนงงชั่วครู่ลงได้
"เมย์!!! " ต้นเห็นเมย์กำลังถูกหญิงสาวร่างอ้วนที่ตนเจอทุกวันที่ป้ายรถเมล์ กำลังยึดตัวเมย์เอาไว้และจะกัดเธอโดยที่เมย์กำลังขัดขืนอย่าสุดชีวิต ขณะที่กรุงทำได้เพียงแค่ยืนอึ้งดูอยู่แถวนั้น
"ออกไปนะ" ต้นคว้าไหล่หญิงสาวร่างอ้วนอย่างแรงเพื่อช่วยเมย์ แต่แทนที่สาวร่างอ้วนจะสนใจฟังที่เขาพูด ตรงข้ามหญิงสาวร่างอ้วนกลับหันมากัดแขนของต้นจนเลือดออก ก่อนที่ต้นจะตัดสินใจชกหน้าหญิงสาวร่างอ้วนอย่างแรง จนเธอล้มลงไปนอนบนพื้น
"ไปกับผมเร็วเข้า!!! " ต้นคว้ามือของเมย์และจูงเธอวิ่งออกจากตรงนั้นทันที
"รอด้วยซิ" กรุงตะโกนเรียกต้นกับเมย์ แต่ทั้งสองคนไม่สนใจเสียงร้องเรียกนั้นแม้แต่น้อย
ทั้งสองคนวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตบนท้องถนนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ผู้คนที่กลายเป็นบ้าออกไล่ล่ากินคนที่เป็นปกติ ต้นพาเมย์วิ่งมาถึงหน้าร้านอาหารที่ต้อนนี้ไม่มีคนอยู่ในร้านแล้ว
"ช่วยด้วย!!! " กรุงที่วิ่งตามมาในสภาพเลือดชุมตัววิ่งมากอดเมย์เอาไว้ที่หน้าประตูร้ายก่อนที่ทั้งคู่จะเข้าไป
"กรี๊ดดดดดด" เมย์ตกใจสุดขีดพลักกรุงออกไปที่ถนน ก่อนจะถูกรถตู้ที่ขับอย่างเร็วชนจนกระเด็นเข้าไปในร้านอาหารตายคาที่
"มาทางนี้" ต้นที่คิดอะไรบางอย่างออกจึงพาเมย์เข้ามาหลบที่ด้านในของร้านอาหาร ทั้งสองคนมาหลบที่หลังร้านอาหารที่เป็นห้องเย็นเก็บอาหาร...."อยู่ในนี้เราน่าจะปลอดภัย" ต้นพูดกับเมย์เมื่อปิดประตูห้องเย็นที่ปรับอุณภูมิได้
"มันเกิดอะไรขึ้นกัน ทำไมทุกคนถึงเป็นแบบนี้" เมย์พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือด้วยความตกใจ "มะเมื่อกี้เรา เราฆ่ากรุง เราผลักเขาให้รถชนเมื่อกี้" เมย์ทรุดตังลงนั่งบนพื้นแล้วร้องไห้ออกมาเสียงดังด้วยความหวาดกลัว
"ไม่ต้องกลัวนะเมย์" ต้นรู้สึกเจ็บแผลที่ถูกกัดมากๆ แต่เขาพยายามเก็บกลั้นมันเอาไว้ ต้นเดินมานั่งข้างๆ เมย์แล้วใช้มือข้างที่ไม่ได้ถูกกัดโอบร่างของเมย์เอาไว้ในอ้อมกอด "เราจะปกป้องเมย์เองเราสัญญา แค่ก แค่ก" ต้นบอกกับเมย์ด้วยอาการไอเบาๆ ระหว่างพูด
"เมย์กลัวต้น เมย์กลัว...." เมย์กอดต้นแล้วซุกที่หน้าอกของเขาด้วยความกลัว
ตอนนี้วินาทีนี้แม้จะเจ็บปวดที่มือเป็นอย่างมาก แต่ด้วยอ้อมกอดของคนที่เขารัก อย่างน้อยมันก็ทดแทนความเจ็บปวดนั้นลงไปได้บ้างไม่มากก็น้อย ทั้งสองกอดกันในห้องเย็นท่ามกลางความวุ่นวายและเสียงของหายนะที่ดังอยู่ด้านนอก
ตอนนั้นเองต้นตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง เมื่อคิดว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะที่สุดที่จะสารภาพความในใจออกไป
"เมย์รู้อะไรรึเปล่าว่าเราแอบชอบเมย์มานานแล้ว เราอยากจะเป็นแฟนกับเมย์ อยากแต่งงานอยากมีลูกด้วยกัน อยากใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันไปจนแก่" ต้นสารภาพความในใจอย่างหมดเปลือก
"ต้น" เมย์ที่ได้รับฟังความในใจของชายหนุ่ม เธอก็จ้องมองเขาด้วยแววตาลึกซึ้งเมื่อได้ยินคำพูดจากใจของชายคนหนึ่งที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่า เขาคนนี้ชอบเธอมากแค่ไหน "ขอโทษนะ เราคงรับความรักของเธอไม่ได้" เมย์ก้มหน้าพูดกับต้นด้วยน้ำตา "เราลืมสมชายไม่ได้ แม้เขาจะทิ้งเราไปมีคนอื่นแต่เราก็รักเขา ชาตินี้เราคงรักใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากสมชาย เธอเข้าใจไหมต้น เราพยายามแล้วที่จะเริ่มต้นคบคนใหม่แต่เราก็ทำใจไม่ได้" เมย์ร้องไห้ไปพูดไปในอ้อมกอดของต้น "เราขอบคุณนะที่เธอรักเรา แต่เรารักเธอไม่ได้จริงๆ "
“ซะงั้น...แห้วเลยกรู” ต้นคิดในใจก่อนที่ทุกอย่างจะดับไปพร้อมใจที่แตกสลายของชายหนุ่ม
“ต้น...” เมย์เรียกต้นแต่ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากต้น "ต้น...? " เมย์เงยหน้าขึ้นมองต้นที่เงียบไป "ต้น....!!!! ต้น!!!!! " อย่างทิ้งเมย์ไปนะ ไหนว่าต้นจะปกป้องเมย์ไง ต้น!!! " เมย์เขย่าตัวต้นอย่างแรงและร้องไห้ด้วยความเสียใจ
วินาทีนั้นเองต้นก็ลืมตาขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงร้องของเมย์หญิงที่ตนรัก
"ก๊ากกกกก กํากกกก!!!! " ต้นที่มีดวงตาที่ขาวขุ่นร้องแหกปากเสียงดังใส่เมย์ที่อยู่ในอ้อมกอด ก่อนจะคว้าเธอมากัดลงบนหน้าของหญิงสาว จนจมูกและริมฝีปากบนถูกฉีกออกจากหน้า ท่ามกลางเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของหญิงสาว
"กรี๊ดดดดดดกรี๊ดดดด" เสียงร้องด้วยความทรมานของหญิงสาวภายในห้องเก็บอาหารสงบลง เมื่อเธอตกเป็นอาหารให้กับคนที่หลงรักเธอหมดหัวใจ.....