Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ชั่วขณะสุดท้ายของชีวิต หากถูกประหารด้วยกิโยติน เราจะรู้สึกอย่างไร?

โพสท์โดย jj000

ชั่วขณะสุดท้ายของชีวิต หากถูกประหารด้วยกิโยติน เราจะรู้สึกอย่างไร?

ในประวัติศาสตร์การประหารชีวิตที่โหดเหี้ยม กิโยติน (guillotine) เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของความรุนแรงที่ถูกจดจำมากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศสที่อุปกรณ์นี้ถูกใช้เพื่อประหารชีวิตชนชั้นปกครองและผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าขัดต่อรัฐ กิโยตินถูกออกแบบมาเพื่อให้การประหารชีวิตเป็นไปอย่างรวดเร็วและ “ปราศจากความเจ็บปวด” แต่คำถามสำคัญที่ยังคงสร้างความสงสัยคือ หากเราถูกประหารด้วยกิโยตินจริงๆ เราจะรู้สึกอย่างไรในชั่วขณะที่ใบมีดตกลงมาจนถึงเสี้ยววินาทีสุดท้ายของชีวิต?


กิโยตินถูกออกแบบมาในศตวรรษที่ 18 โดยดร.โจเซฟ อิกนาซ์ กิโยติน (Joseph-Ignace Guillotin) นักการแพทย์ชาวฝรั่งเศสที่ตั้งใจสร้างเครื่องประหารที่มีมนุษยธรรมมากกว่าวิธีแบบเดิม เช่น การแขวนคอหรือการเผาทั้งเป็น อุปกรณ์นี้มีโครงสร้างที่เรียบง่าย ประกอบด้วยใบมีดเหล็กที่มีความคมมาก และปล่อยลงมาด้วยแรงโน้มถ่วงเพื่อตัดศีรษะผู้ถูกประหารในเสี้ยววินาที ความรวดเร็วของมันคือสิ่งที่ทำให้กิโยตินกลายเป็นสัญลักษณ์ของ “ความตายอย่างรวดเร็ว”


สำหรับผู้ที่ต้องเผชิญหน้ากับกิโยติน ช่วงเวลาที่น่ากลัวที่สุดอาจไม่ใช่ตอนที่ใบมีดตกลงมา แต่เป็นช่วงที่ถูกนำตัวขึ้นไปยังแท่นประหาร เมื่อผู้ประหารมัดตัวและศีรษะของพวกเขาให้อยู่ในตำแหน่งที่แน่นอน เสียงลมหายใจที่ติดขัดและสายตาของฝูงชนที่มองมาอย่างไม่ละสายตา อาจสร้างความกดดันทางจิตใจอย่างมหาศาล

แม้การตัดศีรษะด้วยกิโยตินจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่คำถามคือ “จิตสำนึก” ของผู้ถูกประหารจะดับลงทันทีหรือยังคงอยู่ในเสี้ยววินาทีหลังศีรษะถูกตัดขาดออกจากร่าง?


มีงานวิจัยและข้อสังเกตหลายชิ้นที่พยายามตอบคำถามนี้ หนึ่งในข้อสันนิษฐานมาจากบันทึกของแพทย์ในศตวรรษที่ 18 ที่เล่าว่าหลังการประหารด้วยกิโยติน ศีรษะของผู้ถูกประหารบางรายแสดงการกระพริบตา หรือการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อในใบหน้า ซึ่งนักวิทยาศาสตร์สมัยนั้นเชื่อว่าเป็นการตอบสนองทางกลไกของร่างกาย

ดร. แซม ปาร์เนีย (Sam Parnia) นักวิจัยเกี่ยวกับกระบวนการความตาย ระบุว่า เมื่อศีรษะถูกตัดขาดจากร่าง การไหลเวียนของเลือดไปยังสมองจะหยุดลงทันที อย่างไรก็ตาม สมองยังคงมีกระแสไฟฟ้าในเซลล์ประสาทอยู่ประมาณ 10-15 วินาทีก่อนที่จิตสำนึกจะดับลงอย่างสมบูรณ์ หากเป็นเช่นนั้น เป็นไปได้หรือไม่ที่ผู้ถูกประหารด้วยกิโยตินจะมีช่วงเวลาสั้นๆ ที่พวกเขายังสามารถรับรู้ถึงการตายของตัวเอง?

มีบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่เล่าถึงเหตุการณ์ในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ซึ่งมีการทดลองโดยการเรียกชื่อผู้ถูกประหารทันทีหลังศีรษะของพวกเขาถูกตัดออกจากร่าง และพบว่าบางคนสามารถกระพริบตาหรือแสดงสีหน้าตอบสนองได้ แม้ว่าจะเป็นเพียงไม่กี่วินาที แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดคำถามเชิงจริยธรรมว่า กิโยติน “ปราศจากความเจ็บปวด” จริงหรือไม่

อีกมุมหนึ่ง บางคนมองว่าความตายด้วยกิโยตินเป็นวิธีการที่ “เมตตา” ในยุคนั้น เพราะไม่มีการทรมานผู้ถูกประหารในระยะเวลานานเหมือนวิธีอื่น เช่น การเผาหรือการแยกร่าง

แม้ว่าจะมีการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์หรือบันทึกประวัติศาสตร์มากมาย แต่ความรู้สึกแท้จริงของผู้ถูกประหารด้วยกิโยตินยังคงเป็นปริศนา เพราะไม่มีใครที่ถูกประหารสามารถเล่าถึงประสบการณ์ของพวกเขาได้

อย่างไรก็ตาม ความเชื่อเรื่องความเจ็บปวดหรือการรู้สึกตัวหลังการประหารด้วยกิโยติน อาจไม่ได้สำคัญเท่ากับความกลัวและความทรมานทางจิตใจที่เกิดขึ้นก่อนจะถึงจุดนั้น การรอคอยความตาย การเห็นใบมีดคมกริบที่อยู่ตรงหน้า และการรู้ว่าสิ่งนี้จะเป็นสิ่งสุดท้ายที่พวกเขาเห็น เป็นสิ่งที่สร้างความกดดันอย่างมหาศาล

แม้กิโยตินจะถูกเลิกใช้ในหลายประเทศ แต่ประวัติศาสตร์ของมันยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงและความไร้มนุษยธรรมในอดีต การนำเรื่องราวของกิโยตินมาศึกษาไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อหวาดกลัวต่อความตาย แต่เพื่อให้เราเข้าใจและตั้งคำถามถึงการจัดการกับชีวิตมนุษย์ในระบบยุติธรรม

ในท้ายที่สุด ความตายด้วยกิโยตินยังคงเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่ทำให้เราหวนนึกถึงความเปราะบางของชีวิต และความสำคัญของการเคารพในศักดิ์ศรีของมนุษย์ ไม่ว่าช่วงสุดท้ายของชีวิตนั้นจะเป็นอย่างไร การมีชีวิตอยู่และการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ย่อมสำคัญยิ่งกว่าการวิเคราะห์ความตายในชั่วขณะนั้น

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
jj000's profile


โพสท์โดย: jj000
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
มาเป็นคนแรกที่ VOTE ให้กระทู้นี้
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
รวมภาพขำขัน เฮฮา อารมณ์ดี ประจำวันนี้ 09/04/68 แวะมาชมกันได้เลยน๊า"สุสาน พูลวิลล่าหรู" อันน่าวังเวงที่ถูกปล่อยทิ้งร่างเป็นป่าคอนกรีต!ผู้เปิดเผยตำนานของหลวงปู่ทวดที่ถูกลืมกว่า 340 ปี อาจารย์ทิมวัดช้างให้พบหนังสือโบราณที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และมูลค่าสูงผ่านรายการทีวีแซ่บต่อไม่รอแล้วนะ เจ๊กันย์ ดอนเมือง ประกาศตัดขาด ไม่ขอร่วมงานอดีตเมียหมอนางงามกัมพูชา กับนางงามไทยแตกต่างกันตรงไหนเกาหลีใต้เผยยิงปืนเตือน หลังทหารเกาหลีเหนือข้ามพรมแดนเวียดนามเตรียมแผนสำรอง รับมือภัยคุกคามจากมะกันกองทัพยูเครนจับคนจีน 2 คน ที่ร่วมรบกับกองทัพรัสเซียทำไมไทย กับกัมพูชา ไม่ค่อยถูกกัน?ไม่หยิ่งในศักดิ์ศรี ดาราหนุ่มปังไม่หยุด ขยายร้านข้าวไข่เจียวสาขา 9 แล้วตรวจพบก๊าซมีเทนที่อาจระเบิดได้ ในพื้นที่จัดงานโอซาก้าเอ็กซ์โป
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ตรวจพบก๊าซมีเทนที่อาจระเบิดได้ ในพื้นที่จัดงานโอซาก้าเอ็กซ์โปโซเชียลงง? ปรมาจารย์โบกาตอร์ส้าแมงกระชอน ไม่เคยขึ้นสังเวียน แต่ได้ชื่อว่า ‘ตำนาน’สงกรานต์นี้กัมพูชาจัดยิ่งใหญ่! เสิร์ฟ “หอยคลุกพริกเกลือ” 3 ตัน รับสงกรานต์’68 เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติขนมศิลาอ่อนเป็นขนมไทยโบราณ ที่มีชื่อแปลกตาและหาทานได้อยากมีรสชาติที่มีเสน่หอมใบเตยและน้ำตาลมะพร้าว
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
จากคนไม่เชื่อใน ‘พลังจักรวาล’ สู่ประสบการณ์เปลี่ยนชีวิตใน 30 วันวิหารมุนเดศวรี (Mundeshwari Temple)มดกำมะหยี่สีแดง" สิ่งมีชีวิตที่คล้ายมด แต่ไม่ใช่มด!ทึ่งทั่วไทย : “ถ้ำน้ำบ่อผี” หลุมลึกลับกลางขุนเขา กับเรื่องเล่าเกี่ยวกับความลึกลับจากชนเผ่าพื้นบ้าน
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง