🐉🇨🇳แหล่งมรดกโลกในประเทศจีน🇨🇳🐉(ในตอนอดีต)
🐉🇨🇳แหล่งมรดกโลกในประเทศจีน🇨🇳🐉
📌องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้ขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกของประเทศจีนทั้งสิ้น 57 แหล่ง
-มรดกโลกทางวัฒนธรรม 39 แหล่ง
-มรดกโลกทางธรรมชาติ 14 แห่ง
-มรดกโลกแบบผสมอีก 4 แหล่ง
📌วันนี้ผมลิสต์รายชื่อเฉพาะ มรดกโลกทางวัฒนธรรม 9 เเห่ง จาก 39 แหล่งมาให้เพื่อนๆได้ชมกันนะครับ 👇
#มรดกโลกทางวัฒนธรรมจีน
👆🐉1.ถ้ำผาหลงเหมิน (龍門石窟)
🔸 เป็นกลุ่มถ้ำบนหน้าผา ห่างออกไปทางใต้ 12 กิโลเมตรจากเมืองลั่วหยาง ในมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน อยู่ระหว่างภูเขาเซียงทางทิศตะวันออกกับภูเขาหลงเหมินทางทิศตะวันตก หันหน้าออกสู่ริมฝั่งแม่น้ำอี้ พื้นที่บริเวณกลุ่มถ้ำมีความยาวจากทิศเหนือจรดทิศใต้ประมาณ 1 กิโลเมตร จัดว่าเป็น 1 ใน 3 แหล่งปฏิมากรรมโบราณที่ประกอบด้วยถ้ำมั่วเกา ถ้ำหลงเหมิน และถ้ำยฺหวินกัง ที่มีชื่อเสียงที่สุดในจีน
👆🐉2.เขาชิงเฉิงและระบบชลประทานตูเจียงยั่น (青城山与都江堰)
🔸คือแหล่งมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ระบบชลประทานตูเจียงยั่นซึ่งยังคงใช้ได้อยู่ในปัจจุบันนี้ได้เริ่มก่อสร้างในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 3 เพื่อกั้นแม่น้ำหมินและจัดการระบบน้ำในที่ราบสูงเฉิงตู ส่วนเขาชิงเฉิงนั้นเป็นจุดกำเนิดของลัทธิเต๋า มีสิ่งก่อสร้างโบราณเป็นจำนวนมากบนเขาแห่งนี้
👆🐉3.ถ้ำผายฺหวินกัง (雲崗石窟)
🔸คือแหล่งมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองต้าถง มณฑลชานซี ประเทศจีน เป็นสถานที่ที่มีถ้ำน้อยใหญ่จำนวนกว่า 252 ถ้ำ และในแต่ละถ้ำยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปกว่า 51,000 องค์ ถ้ำผาแห่งนี้ได้แสดงถึงยุคทองทางพุทธศาสนาของจีนในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5 และ 6 ได้อย่างชัดเจน ถ้ำยฺหวินกังจัดว่าเป็น 1 ใน 3 แหล่งปฏิมากรรมโบราณ ที่มีชื่อเสียงที่สุดในจีน อันประกอบด้วย ถ้ำมั่วเกา ถ้ำหลงเหมิน และถ้ำยฺหวินกัง
👆🐉4.เมืองหลวงและสุสานของอาณาจักรโคกูรยอโบราณ (高句丽王城、王及贵族墓葬)
🔸คือแหล่งมรดกโลกที่ประกอบด้วยแหล่งโบราณคดีในเมือง 3 เมือง ได้แก่ เมืองอู๋นฺหวี่ชาน ในมณฑลเหลียวหนิง เมืองกั๋วเน่ย (กุกแนซง - ตามภาษาเกาหลี) และเมืองหวันตูชาน (ฮวันโด - ตามภาษาเกาหลี) ในมณฑลจี๋หลิน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และสุสานอีก 40 แห่ง ซึ่งเป็นของราชวงศ์ 14 แห่ง และขุนนาง 26 แห่ง ทั้งหมดแสดงถึงร่องรอยวัฒนธรรมโกคูรยอซึ่งได้มีอำนาจเหนือบางส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนและคาบสมุทรเกาหลี ในช่วง 277 ปีก่อนคริสตกาล จนถึง ปี ค.ศ. ที่ 668
🔸แหล่งโบราณคดีในเมืองอู๋หนิ่วได้ทำการขุดค้นไปเพียงเล็กน้อย ส่วนเมืองกั๋วเน่ย ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองจี๋หนิงในปัจจุบันนั้นได้ทำหน้าที่เป็นเมืองหลวงรอง หลังจากเมืองหลวงของโคกูรยอได้ย้ายไปตั้งที่กรุงเปียงยาง และสำหรับเมืองหวันตู หนึ่งในเมืองหลวงของอาณาจักรโคกูรยอนั้น ได้มีร่องรอยของพระราชวังและสุสานจำนวนกว่า 37 แห่ง
👆🐉5.ศูนย์ประวัติศาสตร์มาเก๊า (澳門歷史城區)
🔸สิ่งก่อสร้างและจัตุรัสต่าง ๆ กว่า 20 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในเขตบริหารพิเศษมาเก๊า ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รับจดทะเบียนเป็นมรดกโลก สิ่งก่อสร้างส่วนมากที่เป็นมรดกโลกนั้นเป็นสิ่งก่อสร้างที่เป็นการผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมของเจ้าอาณานิคมโปรตุเกสกับวัฒนธรรมตะวันออกแบบจีน
👆🐉6.อินซฺวี (殷墟)
🔸คือแหล่งมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในเมืองอันหยาง มณฑลเหอหนาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเมืองหลวงแห่งสุดท้ายของราชวงศ์ซาง โดยเป็นเมืองหลวงอยู่ 225 ปี มีจักรพรรดิปกครองอยู่ 12 พระองค์
เมืองหลวงเก่าแห่งนี้เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญของสิ่งที่เป็นไปในยุคทองของอารยธรรมจีนยุคสำริด สุสานหลวงและพระราชวังที่เป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมจีนและกระดูกคำทำนายที่จารึกด้วยตัวอักษรจีนโบราณ ที่บ่งบอกเกี่ยวกับวัฒนธรรม และสถานะทางสังคมของคนในยุคนั้นนับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ได้ขุดค้นพบในเมืองนี้ ถือเป็นหนึ่งในแหล่งโบราณคดีที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดของประเทศจีน และได้รับเลือกเป็นแหล่งมรดกโลกใน พ.ศ. 2549
👆🐉7.หอตรวจการณ์และหมู่บ้านแห่งไคผิง (開平碉樓与村落)
🔸คือแหล่งมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในเมืองไคผิงและเมืองใกล้เคียง ในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นหอสูงหลายชั้นสร้างจากคอนกรีตเสริมแรง ซึ่งในปัจจุบันมีตัวหอเหลืออยู่ในเมืองไคผิงประมาณ 1,833 หอ และประมาณ 500 หอในเมืองไถซาน
🔸งานก่อสร้างหอนั้นมีมาตั้งแต่สมัยปลายราชวงศ์หมิง วัตถุประสงค์เพื่อต่อต้านของผู้รุกราน แต่ยุคทองของการสร้างหอคอยดังกล่าวนี้เริ่มในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 เมื่อชาวจีนจำนวนมากเริ่มอพยพไปตั้งรกรากทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐในยุคตื่นทอง โดยไปทำงานเป็นคนงานในเหมืองหรือก่อสร้างทางรถไฟ
🔸แต่เมื่อถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ถึงประมาณก่อนสงครามโลก ชาวจีนส่วนหนึ่งได้เดินทางกลับบ้าน และอีกส่วนหนึ่งได้ส่งเงินกลับ พวกเขาจึงซื้อที่ดินแล้วสร้างอาคารแปลกตาตามสถาปัตยกรรมที่เขาได้พบเห็นในต่างประเทศผสานกับสถาปัตยกรรมจีน ในช่วงที่มีการก่อสร้างมากสุดคือตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2443 (ค.ศ. 1900) ถึง ปี พ.ศ. 2474 (ค.ศ. 1931) มีการสร้างหอถึง 1,648 หอ คิดเป็นเกือบร้อยละ 90 ของจำนวนหอทั้งหมด
👆🐉8.ถู่โหลวแห่งฝูเจี้ยน หรือ บ้านดินแห่งฝูเจี้ยน (福建土樓)
🔸คือแหล่งมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในเขตภูเขา มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นอาคารรูปทรงวงแหวนหลายชั้นที่สร้างจากดินของชาวจีนแคะ ซึ่งที่ได้ลงทะเบียนเป็นมรดกโลกนี้มีจำนวน 46 หลัง ทั้งหมดสร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12 ถึง 20 อาคารแต่ละหลังสามารถเป็นที่อยู่อาศัยของผู้คนกว่า 800 คน
👆🐉9.เขาอู่ไถ (五台山)
🔸คือแหล่งมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในเขตภูเขา มณฑลชานซี ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นหนึ่งในสี่ภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนาของจีน (ประกอบด้วยภูเขาอู่ไถ ภูเขาจิ่วหฺวา ภูเขาเอ๋อเหมย์หรือง้อไบ๊ และภูเขาผู่ถัว) ณ ภูเขาอู่ไถแห่งนี้เป็นที่ประทับของพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ ธรรมราชกุมารในคติของพระพุทธศาสนามหายาน
บทความต่อๆไปจะมีอีก 9 สถานที่นะครับ ติดตามชมได้เลยครับ🥰❤️🙏
#history
#jarnmooChannel
#ประวัติศาสตร์จีน